รายงาน(formula)
PM2.5 รหัสอันตราย รถดีเซลเป็นผู้ร้ายจริงหรือ !?!
ปัญหา "ฝุ่นพิษ" PM2.5 ในอากาศมีปริมาณสูงเกินค่ามาตรฐาน ในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด แม้จะทุเลาเบาบางไปแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสหวนกลับมา "เป็นเรื่อง" ได้ตลอดเวลา ตราบใดที่เราไม่แก้ไขที่ "ตัวการ" หรือ "ต้นตอ" ของมัน
PM2.5 ฝุ่นจิ๋วที่ร้ายเกินตัว
PM2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่เล็กกว่า 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมในปอด และกระแสเลือดโดยตรง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจขาดเลือด โรคมะเร็งปอด ฯลฯ PM2.5 แบ่งเป็นฝุ่นที่เกิดจากแหล่งกำเนิดโดยตรง และจากการรวมตัวของแกส และมลพิษอื่นๆ ในบรรยากาศ โดยเฉพาะซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) PM2.5 ยังเป็นมลพิษข้ามพรมแดน และปนเปื้อนอยู่ในบรรยากาศได้นาน เป็นฝุ่นอันตรายไม่ว่าจะมีองค์ประกอบใดๆ เช่น ปรอท แคดเมียม อาร์เซนิค หรือโพลีไซคลิคอโรมาทิคไฮโดรคาร์บอน (PAHs) องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงกำหนดให้ PM2.5 จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง ในปี 2556 องค์การอนามัยโลกตั้งมาตรฐานฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ย 1 ปี ไว้ที่ 10 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไว้ที่ 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร แต่กรมควบคุมมลพิษของไทย กำหนดเพดานฝุ่นละอองเฉลี่ย 1 ปี ที่ 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ที่ 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ เผยว่า มีหลายภาคส่วนที่เป็นสาเหตุของ PM2.5 เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้โรงงานอุตสาหกรรม (30 %)
ภาคอุตสาหกรรมการผลิตปล่อย PM2.5 ราว 65,140 ตัน/ปีการคมนาคมขนส่ง (29 %)
ไอเสียจากยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะดีเซล จากการประเมินพบว่ามีการปล่อย PM2.5 โดยตรงราว 62,968 ตัน/ปีมนุษย์ (15 %)
ตัวอย่างเช่น การเผาในที่โล่ง ที่ปล่อยฝุ่นพิษ PM2.5 มากถึง 32,570 ตัน/ปีการผลิตไฟฟ้า (14 %)
การผลิตไฟฟ้าปล่อย PM2.5 ราว 30,399 ตัน/ปีอุตสาหกรรมก่อสร้าง (12 %)
การก่อสร้างปล่อย PM2.5 ราว 26,056 ตัน/ปีรถดีเซลเป็นตัวร้ายจริงหรือ ?
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ยานพาหนะ เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฝุ่นพิษ โดยเฉพาะรถเครื่องยนต์ดีเซลแบบสเวิร์ล แชมเบอร์ (SWIRL CHAMBER) และแบบไดเรคท์อินเจคชัน (ยังไม่ใช้ระบบคอมมอนเรล) ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้อยู่ในรถขนส่งสาธารณะ และรถเพื่อการพาณิชย์ เนื่องจากเครื่องยนต์ดีเซลทุกแบบใช้การจุดระเบิดด้วยการอัดอากาศ ซึ่งในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นดั้งเดิมนั้นมักเกิดการสันดาปภายในที่ไม่สมบูรณ์ เกิดแกสพิษไอเสียได้หลายชนิด เช่น ไนโตรเจนออกไซด์, ไฮโดรคาร์บอน, คาร์บอนมอนอกไซด์, กำมะถัน และเขม่าควันดำ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ที่มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์กว่า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และให้กำลังสูง เมื่อเทียบเครื่องยนต์ดีเซลแบบอื่นที่มีความจุเท่ากัน แต่สาเหตุหลักของปัญหาควันดำนั้น กลับมีเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เป็นหนึ่งในสาเหตุด้วย เพราะอะไรต้องติดตามปรับทูนเครื่องยนต์
"พิคอัพพ่นหมึก" คือ ชื่อเรียกรถที่ได้รับการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีควันดำ โดยใส่กล่องอีเลคทรอนิคส์ที่เรียกว่ากล่อง "ดันราง" เข้ากับกล่อง "ECU" เดิมของรถ (ระบบคอมมอนเรล) เพื่อปรับทูนเพิ่มแรงดันการจ่ายน้ำมันให้มากกว่าเดิม จนนำไปสู่การเผาไหม้ไม่หมด ปล่อยควันดำออกมายังท่อไอเสียนั่นเองชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์สึกหรอ
รถที่มีอายุการใช้งานมานาน มักปล่อยควันดำ เกิดจากอุปกรณ์ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เสื่อมสภาพ อาทิ แหวนลูกสูบ ปะเก็นฝาสูบ และซีลต่างๆ ที่เป็นตัวการทำให้น้ำมันเครื่องเล็ดลอดเข้าไปยังห้องเผาไหม้ รวมไปถึงระบบจ่ายเชื้อเพลิงหัวฉีดที่อาจเสื่อมสภาพ จ่ายน้ำมันไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ระบบกรองอากาศ กรองน้ำมันเชื้อเพลิง กรองไอเสีย หากไม่เปลี่ยน หรือตรวจเชคตามระยะเวลา ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดควันดำได้คุณภาพน้ำมันดีเซล
ประเทศไทยกำหนดให้น้ำมันดีเซล ต้องผ่านมาตรฐานยูโร 4 ซึ่งยังต่ำกว่าประเทศอื่น อาทิ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ที่ใช้มาตรฐานน้ำมัน ยูโร 5 ที่มีค่าซัลเฟอร์ไม่เกิน 10 PPM และในเกาหลีใต้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ใช้มาตรฐานยูโร 6 กันแล้ว โดย ยูโร 4 กำหนดให้มีค่าซัลเฟอร์ ไม่เกิน 50 PPMมาตรการแก้ไขฝุ่นละอองจากเครื่องยนต์ดีเซล
2 ยักษ์พลังงานนำร่อง
PTTOR และบางจาก เริ่มนำร่องจำหน่ายน้ำมันดีเซล บี 20 ภายในสถานีบริการน้ำมัน เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา นำร่องในส่วนของปั๊ม PTTOR 5 แห่ง และบางจาก 5 แห่ง ทั้งนี้การเปิดจำหน่ายน้ำมันดีเซล บี 20 ในปั๊มสามารถดำเนินการได้ หลังจากที่กรมธุรกิจพลังงานออกประกาศบังคับใช้คุณภาพน้ำมันดีเซล บี 20 ซึ่งผ่านความเห็นชอบจาก คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562 โดยกระทรวงพลังงานประเมินว่าการเพิ่มช่องทางจำหน่ายน้ำมันดีเซล บี 20 จะช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ได้มากขึ้นจากเดิม ที่เป็นการจำหน่ายเฉพาะในสถานีเฉพาะของรถบรรทุกขนส่งขนาดใหญ่ โดยรถบรรทุกที่เติมน้ำมันดีเซล บี 20 จะมีส่วนต่างราคาที่ต่ำกว่าดีเซลทั่วไป 5 บาท/ลิตร ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จากนั้นส่วนต่างของราคาจะลดลงมาเหลือ 3 บาท/ลิตร ซึ่งการอุดหนุนราคาดังกล่าวมาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขสมก. ขานรับ
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นำน้ำมันดีเซล บี 20 (ไบโอดีเซล 20 %) จากเดิม บี 7 (ไบโอดีเซล 7 %) มาใช้กับรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 2,075 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา และหลังจากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 จะเพิ่มจำนวนรถที่เติมน้ำมันดีเซล บี 20 อีก 1,260 คัน เพื่อลดสารพิษการเผาไหม้ไอเสียให้ได้มากที่สุดไขข้อข้องใจคนใช้รถ ?
ดีเซล บี 20 รถอะไรใช้ได้/ไช้ไม่ได้
น้ำมันดีเซล บี 20 ถือเป็นน้ำมันเกรดพิเศษ สำหรับกลุ่มรถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุก ฟีดคาร์ รถโดยสารขนาดใหญ่ เป็นต้น สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล อย่าเพิ่งใจร้อนไปเติมโดยไม่ขอคำปรึกษาจากศูนย์บริการก่อน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วหากเกิดความเสียหายขึ้น อาจมีผลกับเรื่องการรับประกันในส่วนของเครื่องยนต์แน่นอนดีเซล บี 20 ช่วยลดฝุ่นพิษได้จริงไหม
การลดมลพิษจากฝุ่น PM2.5 อย่างได้ผล ต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพเชื้อเพลิง และเครื่องยนต์ ประกอบด้วย ไม่ใช่แค่เปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงแล้ว PM2.5 ลดลงแบบที่คิดกันขับรถปิดกระจก เปิดแอร์ ปลอดภัยจาก PM2.5 หรือไม่
ระบบปรับอากาศของรถยนต์ทุกคัน จะมีช่องรับอากาศจากภายนอกเข้ามาในห้องโดยสาร แม้จะปิดช่องรับอากาศภายนอกแล้ว ก็ยังมีอากาศภายนอกที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารได้ตามรอยต่อและช่องว่าง แต่นั่นหมายถึง รถที่มีความสมบูรณ์ของชิ้นส่วนในระบบเครื่องปรับอากาศ แต่สำหรับรถที่มีอายุใช้งานมากกว่า 4 ปี ช่องรับอากาศของรถเริ่มมีการเสื่อมสภาพ และปิดกั้นอากาศได้ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของโรงงานผู้ผลิตกรองละอองเกสรดอกไม้ หรือ POLLEN FILTER ป้องกัน PM2.5 ได้หรือไม่
ไม่ได้ กรองอากาศประเภทนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งออกมาจากโรงงาน แต่เป็นสเปคที่จำหน่ายในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ารถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศสารขัณฑ์ มักจะไม่มีการระบุชัดเจนว่ามีการติดตั้งมาให้หรือไม่ แต่สำหรับประสิทธิภาพการกรองนั้นยังไม่สามารถดักจับ PM2.5 ได้รถเครื่องยนต์เบนซินมีส่วนสร้างฝุ่น PM2.5 หรือไม่
มีส่วน แต่รถดีเซลปล่อย PM2.5 มากกว่ารถเบนซิน โดยทั่วไปอาจจะมากกว่ากันถึง 100 เท่า !?!วิธีแก้ไข รถดีเซลที่ปล่อยควันดำ แบบถูกวิธีต้องทำอย่างไร
ผู้รับผิดชอบต้องเอาจริง เจ้าของรถควรมีจิตสำนึกต่อสังคม ด้วยนำรถเข้าตรวจเชคสภาพให้พร้อมใช้งานเรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี formula
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2562
คอลัมน์ Online : รายงาน(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/265573