ราชยานยนต์หลวง 1 DAIMLER DE36 LIMOUSINE LANDAULET COACHBUILDED BY HOOPER

ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีราชยานยนต์หลวงองค์หลัก ทะเบียน ร.ย.ล. 1 ถวายงาน โดยตลอดพระราชพิธี ทั้งสง่างาม และหาชมได้ยาก

สังคมรถโบราณขอนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับอัครมหายานยนต์รุ่นดังกล่าว เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของ ชาวไทยทุกคน   เดมเลอร์ 36 ดีอี เป็น เดมเลอร์ อังกฤษ ยุคที่ยังเป็นกิจการอิสระแท้ๆ ก่อนโดน แจกวาร์ รวบกิจการ ในปี 1960   บแรนด์นี้ถือว่าเก่าแก่ที่สุดในเกาะอังกฤษ สร้างรถคุณภาพสูง รวมทั้งมีรุ่นเฉพาะที่สร้างตามคำสั่งรายคัน   จุดเด่นของ บแรนด์ คือ ระบบส่งกำลัง (เกียร์) ที่มักจะเป็นเกียร์กึ่งอัตโนมัติควบคุมด้วยคันบังคับไฟฟ้า (WILSON PRESELECTOR)   ดีอี 36 เป็น ROLLING CHASSIS รุ่นสูงสุด สร้างในธรรมเนียมโบราณ คือ ผลิตเครื่องยนต์ เกียร์ ระบบรองรับ รวมล้อ และแชสซีส์ พร้อมส่วนหัวของรถ เรียกว่า ‘ROLLING CHASSIS’ แล่นออกจากโรงงาน เดมเลอร์ ที่เมืองโคเวนทรี ประเทศอังกฤษ ไปยังสำนักต่อตัวถังต่างๆ เพื่อสร้างชิ้นส่วนตัวรถตามประสงค์ของลูกค้า ซึ่งมักจะออกแบบพิเศษวิจิตรประณีตแตกต่างกันเป็นรายคัน   ราชยานยนต์หลวง องค์ ร.ย.ล. 1 ปัจจุบัน ต่อตัวถังที่ สำนัก HOOPER แห่ง WESTMINSTER อันเก่าแก่ (รถพระที่นั่งหลายองค์สร้างที่นั่น ตามพระราชนิยมของราชสำนักสยาม)   เดมเลอร์ ผลิต ดีอี 36 ออกมารวม 205 แชสซีส์ ส่งให้สำนัก HOOPER ต่อตัวถัง 114 คัน ผู้ซื้อล้วนแต่เป็นกษัตริย์ และผู้นำของประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยในชุดเดียวกับ ร.ย.ล. 1 ซึ่งผลิตในปี 1949 (มีการสั่งตัวถังพร้อมกัน 35 คัน ตั้งแต่ปี 1946 แต่การผลิตด้วยมือจึงทำให้กว่าจะสำเร็จและส่งออกได้ ก็ล่วงเลยมาถึงปี 1949 โดยข้อมูลที่แพร่หลายในบ้านเรามักระบุว่าปี 1946 แต่ผมอ้างอิงจาก หนังสือ DAIMLER TRADITION โดย BRIANT E SMITH พิมพ์ครั้งที่ 2 ปี 1980)   เป็นรถระยะฐานล้อยาว มีกระจกกั้นแยกส่วนพลขับ (ลีมูซีน) หลังคาห้องโดยสารส่วนหลังเป็นผ้าใบ เปิด/ปิดได้ (LANDAULET)   ชื่อของแบบรถจึงเป็น DAIMLER 36DE LIMOUSINE LANDAULET COACHBUILDED BY HOOPER   ดีอี 36 ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบเรียง ที่ปัจจุบันหาชมได้ยากมาก มีความจุ 5,460 ซีซี ทันสมัยในช่วงเวลานั้นด้วยระบบ OHV ให้กำลัง 150 แรงม้า   ข้อดีของรถเครื่องยนต์ 8 สูบเรียง ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถระดับพรีเมียมตั้งแต่ก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2 คือ ความนิ่งของเครื่องยนต์ 8 สูบจุดระเบิดไล่เรียงต่อเนื่อง เดินเรียบ แม้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่ต่ำมาก โดยมีรอบหมุนสูงสุดเพียง 3,600 รตน. เท่านั้น   แรงบิดจะมาในรอบต่ำ และต่อเนื่อง ใช้เกียร์กึ่งอัตโนมัติเดินหน้า 4 จังหวะ คลัทช์ระบบ FLUID FLYWHEEL จึงสามารถขับเคลื่อนด้วยรอบเดินเบา ไม่จำเป็นต้องเร่งรอบสูง ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารอย่างที่สุด  

เหตุใด เดมเลอร์ จึงเป็นรถอังกฤษ และ เมร์เซเดส-ไดม์เลร์ จึงเป็นรถเยอรมนี ?

    เริ่มตั้งแต่ในราวปี1886 ผู้คิดค้นเครื่องยนต์สันดาปภายในใช้น้ำมันเบนซิน ทำงาน 4 จังหวะตามวัฏจักรอทโท ใช้งานได้จริงจังเป็นคนแรก คือ GOTTLIEB DAIMLER ชาวเมืองเซินโดร์ฟ ประเทศเยอรมนี แต่ตอนทำเครื่องยนต์ เขาย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่คันน์ชทุทท์ ใกล้ ชทุทการ์ท เขาเป็นผู้ช่วยมือขวาของ NICOLAUS OTTO )ผู้บัญญัติ วัฏจักรอทโท เขาได้ผลิตเครื่องยนต์ และรถยนต์ในชื่อ ไดม์เลร์ เป็นรถยนต์คันแรกๆ ของโลก จำหน่ายไปทั่วยุโรป มีคิวการสั่งซื้อยาวเหยียด   ต่อมาในปี 1890 FREDERICK RICHARD SIMMS นักธุรกิจอังกฤษ ได้ซื้อเครื่องยนต์จาก GOTTLIEB DAIMLER มาจัดจำหน่ายและสร้างเป็นรถยนต์ของตนเองในเมืองโคเวนทรี ประเทศอังกฤษ โดยได้สิทธิ์ใช้ชื่อ เดมเลอร์ (อังกฤษอ่านว่า “เดมเลอร์”) นาน 99 ปี เท่าสัญญาการเช่าเกาะฮ่องกง แยกพัฒนาสินค้าอย่างเป็นอิสระ   ดังนั้น รถยนต์ที่ติดเครื่องหมาย DAIMLER จาก 2 แหล่ง จึงมีรูปร่างแตกต่างกัน จนสิ้นสุดเหลือ DAIMLER เยอรมนีเพียงแห่งเดียวในปลายศตวรรษที่ 20    

กษัตริย์ ประมุข และผู้นำประเทศที่ใช้รถยนต์ เดมเลอร์ ดีอี 36 ตัวถังโดย ฮูเพอร์

      พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร, ประธานาธิบดีเชคโกสโลวาเกีย, กษัตริย์แห่งอัฟกานิสถาน, พระราชินีแห่งฮอลแลนด์, ข้าหลวงเครือจักรภพแห่งไซปรัส, ข้าหลวงเครือจักรภพแห่งนาทาล-แอฟริกาใต้, เจ้าชายเรเนียร์แห่งโมนาโค, จักรพรรดิไฮเล เซลาสซีแห่งอบิสซีเนีย, พระเจ้าจอร์ชที่ 6 แห่งอังกฤษ, ข้าหลวงเครือจักรภพแห่งแอฟริกาใต้, SIR BERNARD DOCKER ประธาน บริษัทเดมเลอร์, LORD BEAVERBROOK รัฐมนตรีสงคราม และองคมนตรีอังกฤษ, ข้าหลวงเครือจักรภพแห่งออสเตรเลีย, ข้าหลวงเครือจักรภพแห่งนิวซีแลนด์, สำรองในราชสำนักเซนท์เจมส์ 1 คัน, เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำเปรู และสั่งโดยรัฐบาลแห่งแอฟริกาใต้ อีกราว 10 คัน    

ขออภัย

เนื่องจากในคอลัมน์ “สังคมรถโบราณ” ฉบับ มิ.ย. 62 มีภาพและคำบรรยายสลับกัน จึงขอแก้ไขเป็นดังนี้  

• เบนท์ลีย์ 3 ลิตร สปีด โมเดล ปี 1926

 

• บูกัตตี ไทพ์ 13 บเรสกีอา ปี 1925