ตลอดเดือนนี้ โลกทั้งใบจะหยุดหมุนเพื่อรอดูว่าอังกฤษจะเอาอย่างไรกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ บเรกซิท (BREXIT)โบริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ยืนยันว่าถ้าพูดกับ อียู และรัฐสภาไม่รู้เรื่อง เขาจะนำอังกฤษถอนตัวแบบ “โนดีล” ใน วันที่ 31 ตุลาคมนี้ อย่างแน่นอน เมื่อกลางเดือนสิงหาคม มีเอกสารทางการที่ใช้ชื่อรหัส “ปฏิบัติการค้อนสีเหลือง” (OPERATION YELLOW HAMMER) รั่วไหลออกมา และหนังสือพิมพ์ ซันเดย์ไทม์ส์ นำไปตีพิมพ์เผย-แพร่ บรรยายให้เห็นภาวะอาฟเตอร์ชอค ที่มีโอกาสเกิดขึ้นจากการบเรกซิทแบบโนดีล เช่น การประท้วงแสดงความไม่พอใจของสาธารณชน, ท่าเรือแออัด และการจราจรติดขัด เพราะรถบรรทุก 85 % ไม่ผ่านการตรวจของด่านศุลกากรฝรั่งเศส ฯลฯ นอกจากนี้ อาจต้องมีการจัดตั้งด่านพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือของอังกฤษ กับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ซึ่งยังคงเป็นสมาชิกอียู สำนักงานของ โบริส จอห์น-สัน แถลงว่าไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเอกสารดังกล่าว ส่วนรัฐมนตรีที่รับผิดชอบประสานงานการออกจากอียูแบบโนดีลยืนยันว่าได้เร่งรัดวางแผนรับมือไปมากแล้ว เช่นเดียวกับรัฐมนตรีพลังงานที่เชื่อว่า อังกฤษจะ “เอาอยู่” เมื่อถึงเวลานั้น ขณะที่ภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในธุรกิจยานยนต์ได้ใช้จ่ายเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ บเรกซิทไปแล้วกว่า 300 ล้าน ปอนด์ พร้อมๆ กับที่ยอดผลิตรถยนต์ในอังกฤษ ช่วงครึ่งปีแรกลดลงไป 1 ใน 5 จาก 8 แสนกว่าคัน เหลือเพียง 6 แสนกว่าคัน และยอดการลงทุนเพิ่ม เหลือแค่ 90 ล้านปอนด์ จาก 347 ล้านปอนด์ในปีที่แล้ว ตอนจบ (ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้น) ของมหากาพย์บเรกซิท จะเป็นอย่างไร สิ้นเดือนนี้รู้กัน !