ฮันเด ซันตา เฟ เจเนอเรชันที่ 4 เป็นรถเอสยูวีขนาดมิดไซซ์ หรือดี-เซกเมนท์ เป็นคู่แข่งกับ สโกดา โคดิอัค และแลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี สปอร์ท จุดเด่นก็คือ ขนาดตัวที่ไม่ได้ใหญ่โตนัก ราคาปานกลาง ประหยัดน้ำมันกว่าบรรดารถหรูทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เอาดี คิว 7, โวลโว เอกซ์ซี 90, แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี และอื่นๆ สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ถึง 7 คน ผู้ใหญ่สามารถลงไปนั่งที่เบาะแถว 3 ได้อย่างสบาย ตอบสนองงานลุยได้เป็นอย่างดี มีสมรรถนะเพียงพอต่อการลากจูงรถบ้าน หรือรถบรรทุกม้าฮันเด มีรูปทรงที่สวยแม้จะไม่งดงามเท่ากับ แจกวาร์ เอฟ-ไทพ์ แต่การออกแบบมีความประณีต ทันสมัย ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุระดับพรีเมียม ฟังค์ชันต่างๆ มีมาพร้อม ติดตั้งหน้าจอขนาด 8 นิ้ว แบบทัชสกรีน รองรับระบบ APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO ที่มีการตอบสนองการใช้งานอย่างรวดเร็ว ฐานล้อขนาด 2,765 มม. เพิ่มขึ้นจากเดิม 65 มม. ช่วยให้ห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขึ้นพอสมควรในทุกตำแหน่งที่นั่ง พื้นที่วางขาที่นั่งแถว 2 มีมากขึ้น ในส่วนของที่นั่งแถว 3 มีพื้นที่เหนือศีรษะมากพอที่จะไม่รู้สึกอึดอัด การเข้า/ออกที่นั่งแถว 3 ทำได้สะดวกจากการพับสไลด์เลื่อนที่นั่งแถว 2 ทำได้ง่ายดายด้วยระบบไฟฟ้า ห้องเก็บของด้านท้ายมีพื้นที่ 40-625 ลิตร การเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกทำได้ดี มีแค่เสียงลมปะทะกระจกมองข้างอยู่บ้าง ให้ความสะดวกสบาย ผ่อนคลายสำหรับการเดินทางไกล ยางติดรถจากโรงงาน มีขนาด 235/55 R19 และความสูงจากใต้ท้องรถถึงพื้นดิน 185 มม. มีส่วนช่วยให้การใช้งานบนเส้นทางทุรกันดารเป็นไปได้อย่างสะดวก เครื่องยนต์มีให้เลือก 3 ตัวด้วยกัน คือ เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 235 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 35.9 กก.-ม. ต่อด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 186 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.9 กก.-ม. ปิดท้ายด้วย ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.2 ลิตร กำลังสูงสุด 202 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 44.9 กก.-ม. ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ และมีระบบขับเคลื่อนออลล์วีลดไรฟ เป็นอุปกรณ์พิเศษให้เลือก ในอนาคตอันใกล้ ฮันเด อาจวางเครื่องไฮบริดเต็มระบบ หรือพลัก-อิน ไฮบริด เพื่อลดปริมาณไอเสียลง สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร ค่อนข้างเหมาะกับขนาดตัวรถ มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 11.2 วินาที อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมือง 11.34 กม./ลิตร นอกเมือง 14.74 กม./ลิตร ความจุถังน้ำมัน 64 ลิตร เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังจะมีรัศมีการเดินทางได้ไกลกว่า 900 กม. เลยทีเดียว ด้านสมรรถนะในการควบคุม ซันตา เฟ จะมากับระบบ HTRAC หรือชุดควบคุมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ออลล์วีลดไรฟ ซึ่งจะควบคุมการกระจายแรงบิดโดยอัตโนมัติระหว่างเพลาหน้า/หลัง ด้วยระบบไฟฟ้าแปรผันกำลังตามสภาพการขับในขณะนั้น เช่น ในโหมดปกติ (NORMAL) เพลาหน้าจะถูกตัดการทำงาน และใช้กำลังจากเพลาหลัง 100 % ในขณะที่เมื่อเริ่มเข้าโค้ง HTRAC จะเริ่มมีการส่งแรงบิดไปที่เพลาหน้าทีละน้อยตามมุมโค้ง เช่น 30:70 และสามารถปรับกำลังได้สูงสุดถึง 40:60 ส่วนโหมดสปอร์ทนั้น บนทางตรงจะมีการกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้า/หลังเอาไว้ที่ 20:80 ในเบื้องต้น และปรับสูงสุดได้ถึง 10:90 ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นผิวถนนในขณะนั้นว่าตัวรถต้องการการยึดเกาะมาก หรือน้อยเพียงใด ส่วนในการขับบนพื้นที่มีความลื่น เช่น ทางลูกรัง หรือทางเปียก ระบบ HTRAC จะตั้งค่าการกระจายแรงบิดเอาไว้ที่ 50:50 เพื่อช่วยป้องกันการลื่นไถล ในส่วนของระบบช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ เช่น ระบบแจ้งเตือนการปะทะทางด้านหน้า พร้อมหยุดรถอัตโนมัติในกรณีที่ผู้ขับไม่ตอบสนอง (FORWARD COLLISION WARNING), ระบบเตือนเมื่อผู้ขับออกนอกเลนของตัวเองโดยไม่ตั้งใจ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบเรดาห์ และกล้องช่วยตรวจจับวัตถุด้านหน้า เช่น รถ หรือคนเดินถนน พร้อมช่วยเบรคอัตโนมัติ และระบบตรวจจับวัตถุที่จะวิ่งตัดมาทางด้านหลังขณะถอย (REAR CROSS-TRAFFIC ALERT) ผลการทดสอบการชนตามมาตรฐานยุโรป ฮันเด ซันตา เฟ ทำได้ในระดับ 5 ดาว เอสยูวีจากแดนกิมจิ มีข้อเด่นหลายๆ ด้านที่เหนือกว่ารถคู่แข่ง แถมมีราคาที่จับต้องได้