ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงกันเยอะ เพราะนี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้สัมผัส ฮอนดา ซิที อาร์เอส หลังจากช่วงปลายเดือน ธค. 62 ที่ผ่านมา “ฟอร์มูลา” มีโอกาสทดลองขับใน สนามทดสอบ ฮอนดา อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี และเป็น “สื่อมวลชนกลุ่มแรกของโลก” ที่ได้สัมผัส ฮอนดา ซิที ใหม่ โดยเป็นการทดลองขับในสนามปิด แต่ครั้งนี้เป็นการทดลองขับเต็มรูปแบบบนท้องถนน โดยใช้เส้นทางในจังหวัดเชียงราย จาก อ. เมือง มุ่งหน้าสู่ อ. เชียงของ รวมระยะทางไป/กลับ 196 กม.ก่อนเริ่มทดลองขับ คณะสื่อมวลชนได้รับฟังข้อมูล และรายละเอียดของการพัฒนา ฮอนดา ซิที ใหม่ จาก ซาโตรุ อะซุมิ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนาฯ ของ ฮอนดา อาร์แอนด์ดี ประเทศญี่ปุ่น หลังจากรับทราบข้อมูลรถ และเส้นทางที่ใช้ทดลองขับแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทาง สิ่งที่สัมผัสได้หลังนั่งประจำที่ในตำแหน่งผู้ขับขี่ คือ การทำงานช่วงรอบต่ำของขุมพลัง 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ราบเรียบนุ่มนวลไม่เหมือนกับเครื่องยนต์ 3 สูบ ที่เคยสัมผัสมาก่อนหน้านี้ หลังออกตัวไปแล้วรู้สึกถึงแรงบิดมีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ จนลืมคำว่า “เทอร์โบแลก” ไปเลย สำหรับอัตราเร่งแม้จะไม่หวือหวาเหมือนกับเครื่องยนต์ความจุสูงพ่วงระบบอัดอากาศ แต่การตอบสนองมีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำยันรอบสูง ไม่หมดแรงง่ายๆ แบบที่หลายคนคิดไว้ โดยพละกำลังที่ได้ถือว่าใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ความจุ 1.8 ลิตร ที่ไม่มีระบบอัดอากาศเลยทีเดียว การทำงานของระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติแปรผัน หรือ CVT เจเนอเรชันล่าสุด มีการบรรจุเทคโนโลยีใหม่เพิ่มเติมเข้ามา อาทิ สายพานที่ออกแบบให้มีความฝืดลดลง, มีการติดตั้ง ELECTRIC OIL PUMP เพื่อช่วยหมุนเวียนน้ำมันเกียร์อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งช่วงออกตัว และขณะที่ระบบ START/STOP ทำงาน ด้วยจุดประสงค์เพื่อให้เกียร์มีการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น เพิ่มความทนทาน และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลดลง การตอบสนองของพวงมาลัยช่วงความเร็วต่ำมีน้ำหนักค่อนข้างเบา แต่เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นน้ำหนักของพวงมาลัยก็เพิ่มขึ้นตามอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องการควบคุมทิศทางตอบสนองเที่ยงตรงตามความต้องการของผู้ขับขี่แบบไม่ต้องลุ้น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการใช้ยางขนาด 185/55 R16 ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรุ่น อาร์เอส เส้นทางการทดลองขับเป็นเส้นทางที่มีรถสัญจรไม่มาก เนื่องจากบางช่วงเป็นถนนใหม่ที่เพิ่งเปิดใช้งานได้เพียง 3 เดือน สภาพถนนจริงมีความสมบูรณ์มาก จึงมีโอกาสได้ทดสอบสมรรถนะกันแบบเต็มที่ ด้วยรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งทางตรงยาว ทางโค้งคดเคี้ยว ขึ้น/ลงเขา ฯลฯ ซึ่งเป็นสภาพปกติของเส้นทางแถบภาคเหนือ ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม สามารถรับมือกับพละกำลัง และสภาพเส้นทางได้เป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกนุ่มนวล มั่นคง ไม่กระด้าง ไม่ว่าจะเป็นในโค้งแคบ หรือโค้งกว้าง ทั้งขึ้น และลงเขา ช่วงความเร็วเดินทาง 80-120 กม./ชม. ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องใช้งานกันเป็นประจำ สังเกตได้ว่าเสียงรบกวนในห้องโดยสารนั้นเงียบกว่าเจเนอเรชันก่อนอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการฉีดโฟมเข้าไปในโครงสร้างตัวถัง รวมถึงการพัฒนาวัสดุซับเสียงใหม่ทั้งหมด โดยอัตราเร่งในช่วงความเร็วดังกล่าวตอบสนองได้อย่างฉับไว ไม่ต้องลุ้นกันเหมือนตอนที่ใช้ขุมพลัง 1.5 ลิตร หายใจเอง โดยช่วงความเร็วเกิน 120 กม./ชม. ก็ยังมีพละกำลังเหลือให้ใช้อีกยาวๆ แต่น่าเสียดายที่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 200 กม./ชม. !?! ฮอนดา ซิที อาร์เอส คันนี้ถือว่าทิ้งภาพลักษณ์ของ “รถแม่บ้าน” แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมให้เห็น จากการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเจเนอเรชันก่อนทุกด้าน ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองในการทดลองขับเกือบ 100 กม. บนสภาพเส้นทางตามที่กล่าว และใช้ความเร็วสูงกว่าการขับขี่ใช้งานทั่วไปตลอดเส้นทาง (บางช่วงไปถึงความเร็วที่ถูกจำกัด) หน้าจอยังแสดงผลอยู่ที่ 15.0 กม./ลิตร !?!
บทความแนะนำ