ด่วนนรก 402 กม./ชม. !

อนาคตรถโดยสารสาธารณะเร็วที่สุดในโลก เหาะอยู่เหนือราง ในยุคก่อนศตวรรษที่ 19 ตั้งแต่รถไฟขบวนแรกถูกสร้างขึ้น บรรดาวิศวกรเน้นการพัฒนารถโดยสารประเภทนี้ให้มีขนาดใหญ่ คุณภาพดีขึ้น และสำคัญที่สุด คือ เร็วขึ้น   โลกปัจจุบัน รถไฟสามารถวิ่งแบบปกติได้ และเร็วกว่าที่คนในสมัยนั้นวาดฝันไว้มาก รถไฟรุ่นใหม่ๆ จะทำให้การเดินทางไปถึงจุดหมายในเวลาสั้น จนผู้โดยสารแทบไม่ทันได้ทอดสายตามองวิวทิวทัศน์ด้านนอกหน้าต่างเลยก็ว่าได้   โลกยุคนี้ เชื่อมต่อถึงกันได้ง่ายหลากหลายช่องทาง ทีมวิศวกรด้านรถไฟ จึงไม่หยุดหาวิธีใหม่ๆ เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางไปยังจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว   เมื่อครั้งรถไฟไอน้ำเปิดตัวครั้งแรก ด้วยอัตราความเร็วที่ทำได้ 16 กม./ชม. ซึ่งถือเป็นความเร็วที่มหัศจรรย์แล้วในสมัยนั้น รูปแบบการเดินทางของคน และการขนส่งสินค้าก็เปลี่ยนไป และในวันนี้เราจะได้นั่งรถไฟความเร็วสูงที่สามารถเดินทางถึงจุดหมายปลายทางได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่ารถไฟในอดีตถึง 30 เท่า     รถไฟหัวกระสุนส่วนใหญ่พบในโซนเอเชีย และยุโรป ด้วยความเร็วที่สูงมาก หน้าตาล้ำสมัย รถไฟหัวกระสุนเหล่านี้ กลายเป็นสิ่งขับเคลื่อนในการท่องเที่ยวทางรถไฟ และเร็วๆ นี้ ความเร็วในการเดินทางจะเพิ่มขึ้นไปอีก เหมือนก้าวเข้าสู่เครื่องเคลื่อนย้ายสสาร และรถไฟใต้ดินที่อัดแน่นด้วยผู้คน จะถูกแทนที่ด้วยยานพาหนะที่เร็วกว่ายานพาหนะใดๆ บนโลก   รู้หรือไม่ ? อังกฤษเป็นสถานที่แรกที่ใช้รถไฟแบบ MAGLEV สำหรับการเดินทางไปยังสนามบินเบอร์มิงแฮม    

รถไฟที่เร็วที่สุดในโลก

SHANGHAI MAGLEV

เซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ใช้ความเร็ว 429 กม./ชม.     รถไฟขบวนนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2004 เพื่อขนส่งผู้โดยสารทั้งไป/กลับจากสนามบินนานาชาติ PUDONG รถไฟจะออกทุก 15-20 นาที และระยะเดินทางได้ไกลถึง 30.58 กม. ในเวลาไม่เกิน 8 นาที    

FUXING HAO

ปักกิ่ง ไป เซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ความเร็ว 400 กม./ชม.     ด้วยความสามารถในการเพิ่มระยะทางให้รถไฟวิ่งได้ไกลขึ้น จีนจึงเป็นผู้นำในโลกแห่งรถไฟความเร็วสูง ซึ่งคำว่า FUXING นั้น หมายถึง ยุคเฟื่องฟู รถไฟขบวนนี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของแดนมังกร    

SHINKANSEN H5 & E5

โทโฮคุ ไป ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ความเร็ว 360 กม./ชม.     รถไฟความเร็วสูงนับเป็นเรื่องปกติสำหรับญี่ปุ่น เพราะได้รับการพัฒนาให้วิ่งเร็วกว่ารถไฟความเร็วสูงเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1964 ดังนั้น คนญี่ปุ่นจึงเดินทางระหว่างเมืองได้รวดเร็วตามตารางเวลาที่แม่นยำ    

ITALO AND FRECCIAROSSA

มิลาน ไป ฟลอเรนศ์ และโรม ประเทศอิตาลี ความเร็ว 354 กม./ชม.     หากการเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด ยังไม่น่าพอใจ เราอยากให้รู้ว่า รถไฟขบวนนี้ใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ว่าคุณจะเดินทางจากมิลาน ไป ฟลอเรนศ์ หรือโรม ก็ใช้เวลาไม่เกิน 3 ชม.    

JINGZHANG INTERCITY

ปักกิ่ง ไป จางเจียโข่ว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ความเร็ว 349 กม./ชม.     เพื่อโอ้อวดว่ามีรถไฟไร้คนขับที่เร็วสุดในโลก จีนจึงผลิตรถไฟขบวนนี้ขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพการเดินทาง ก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคในปี 2022    

ยานพาหนะแห่งอนาคต

เทคโนโลยีระบบไฮเพอร์ลูพ สามารถขนส่งผู้โดยสารด้วยความเร็วสูง 1,126 กม./ชม. ได้อย่างไร ?  

พัดลมคอมเพรสเซอร์

พัดลมขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงส่วนหัวรถไฟจะดูดอากาศที่อยู่ในท่อเหล็ก และระบายอากาศไปด้านหลังแคพซูล  

การเคลื่อนที่ของอากาศ

เนื่องจากอากาศถูกดูด และระบายไปด้านหลัง จึงทำให้ความดันอากาศที่เกิดขึ้นเมื่อรถไฟเคลื่อนตัวลดลง  

องค์ประกอบแบบแยกส่วน

รถไฟขบวนนี้ เป็นการเชื่อมกันของแคพซูลขนาดเล็กหลายส่วน ข้อดีของการแยกส่วนต่างๆ ออกจากกัน คือ ช่วยให้รับแรงกระแทกจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ปลอดภัยกว่า  

ระบบลอยตัว

อากาศจะถูกปั๊มผ่านรูขนาดเล็กที่ด้านล่างของตัวพอด ทำให้ฐานรถไฟลอยอยู่เหนือพื้นท่อเหล็กในขณะเคลื่อนที่  

ลดแรงต้าน

การถูกห่อหุ้มอยู่ในท่อแรงดันต่ำ เสมือนสุญญากาศ จะทำให้รู้สึกถึงแรงต้านน้อยกว่าการนั่งรถไฟในที่โล่ง  

ระบบไฟฟ้าเพื่อความยั่งยืน

ตัวไฮเพอร์ลูพจะอยู่พอดีกับแผงโซลาร์เซลล์ที่อยู่เหนือท่อแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า ด้วยแรงเสียดทานต่ำ สามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงโดยใช้พลังงานเพียงเล็กน้อย  

ท่อเหล็ก

แคพซูลจะอยู่ในท่อเหล็ก เป็นโครงสร้างสำหรับใช้ขนส่งผู้โดยสาร ไม่ว่าจะอยู่บนพื้นดิน หรือใต้ดิน  

การเดินทางแบบลอยตัว

ผู้โดยสารจะนั่งอยู่ในแคพซูลที่ลอยอยู่ในท่อ โดยใช้พลังงานแม่เหล็กสร้างความสมดุล  

ระบบแม่เหล็ก

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ติดอยู่ด้านข้างของตัวรถไฟจะถูกดูดไปยังแม่เหล็กด้านในท่อ เพื่อทำให้ขบวนรถไฟเคลื่อนที่   รู้หรือไม่ ? บรรยากาศในไฮเพอร์ลูพสุญญากาศจะเหมือนกับการเดินทางที่ความสูงในระดับ 60,960 ม.    

วิวัฒนาการของรถไฟ

ปี 1804

    RICHARD TREVITHICK มีชื่อเสียงจากการคิดค้นรถไฟพลังไอน้ำขบวนแรก ชื่อ PEN-Y-DARREN    

ปี 1825

    LOCOMOTION รถไฟไอน้ำที่เคลื่อนที่ได้ 24 กม./ชม. ใช้ขนส่งตู้บรรทุกถ่าน และแป้ง 36 ตู้    

ปี 1830

    GEORGE STEPHENSON สร้างรถไฟไอน้ำขบวนแรกเพื่อเดินทางระหว่างเมืองลิเวอร์พูลไปยังแมนเชสเตอร์  

ปี 1879

    WERNER VON SIEMENS รถไฟฟ้าขบวนแรกสร้างขึ้นเพื่อใช้ขนส่งผู้โดยสาร 90,000 คน ในระยะเวลา 4 เดือน    

ปี 1881

    SIEMENS เริ่มสร้างรถรางไฟฟ้าขบวนแรก หลังจากประสบความสำเร็จในการใช้ระบบไฟฟ้า    

ปี 1892

    เครื่องยนต์ดีเซลที่ได้รับสิทธิบัตรของ RUDOLF DIESEL เป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องยนต์สันดาปภายในสำหรับรถไฟ  

ปี 1950

    เครื่องยนต์ดีเซลเพิ่มจำนวนมากขึ้น และได้รับความนิยมกว่าเครื่องยนต์แบบอื่น เนื่องจากขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าได้    

ปี 2000

    ระบบลอยตัวด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้วงการรถไฟก้าวไกลกว่าการใช้เชื้อเพลิงดีเซล    

ปี 2020

    รถไฟไฮเพอร์ลูพถูกทดสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาการเดินทางที่เร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด   รถไฟชินคันเซนของญี่ปุ่น ขณะแล่นผ่านภูเขาไฟฟูจิ    

รถไฟหัวกระสุน VS รถไฟไฮเพอร์ลูพ

    ถ้าพูดถึงการทำความเร็ว ท่อสุญญากาศของรถไฟไฮเพอร์ลูพนั้นชนะขาด แต่สิ่งหนึ่งที่รถไฟทั้ง 2 ประเภทมีเหมือนกัน คือ ขบวนรถ ลอยตัวจากราง โดยอาศัยพลังแม่เหล็ก ทำให้ลดแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อน ซึ่งการใช้พลังของแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้   หากเอาแม่เหล็กขั้วตรงข้ามกันมาไว้ใกล้กัน แม่เหล็กทั้ง 2 จะถูกดึงดูดเข้าหากัน ในขณะที่แม่เหล็กขั้วเดียวกันจะผลักกัน รถไฟแบบ MAGLEV ใช้แม่เหล็กที่แข็งแรงในการยกตู้โดยสารขึ้นจากราง โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ใช้แรงดูด และประเภทที่ใช้แรงผลัก   ในขณะที่รถไฟแบบ MAGLEV ใช้หลักการทั้ง 2 เพื่อลดแรงเสียดทานจากล้อ รถไฟหัวกระสุนกลับเคลื่อนตัวได้ช้ากว่า เพราะมีแรงต้านอากาศ ยิ่งไปกว่านั้น รถไฟไฮเพอร์ลูพวิ่งในอุโมงค์ ทำให้มีโอกาสถูกสร้างเป็นรถไฟใต้ดินได้ด้วย      

การเดินทาง

อย่างมีสไตล์มากกว่า คุณต้องมั่นใจว่า อุปกรณ์ที่มีจะช่วยสร้างความสะดวกสบายบนท้องถนนได้ดังใจ  

1. TESLA MODEL 3

    หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15 นิ้ว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และระยะเดินทางที่ไปได้ไกล 560 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง พร้อมห้องผู้โดยสารสำหรับ 5 คน รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระที่พอเพียง ทำให้ TESLA (เทสลา) เป็นรถไฟฟ้าที่สร้างขึ้นเพื่อผู้ขับอย่างแท้จริง ราคาเริ่มต้น 38,500 ปอนด์ tesla.com    

2. MOSHI SNAPTO CAR MOUNT

อุปกรณ์สุดเจ๋งที่มาพร้อมคอนเซพท์ SNAPTO แค่ติดแผ่นแม่เหล็กที่โทรศัพท์ และวางกับตัวฐาน ก็สามารถใช้งานได้เลย ที่สำคัญ คือ มีฟังค์ชันชาร์จแบบ QI ด้วย ราคา 60 ปอนด์ moshi.com    

3. LUME TRAVELER 360 NO.1

รถพ่วงอลูมิเนียมที่ภายในประกอบด้วย เตียงขนาดใหญ่สุดหรู ห้องครัวเต็มรูปแบบ และตู้เย็นขนาด 40 ลิตร ช่วยให้การเดินทางเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ตัวรถพ่วง มีหลังคาที่เปิดได้กว้าง เมื่อคลุมมุ้งกันยุง ก็สามารถนอนเล่นชมแสงดาวได้อย่างเพลิดเพลิน และถ้าดึงกระโจมด้านหลังออก (หรือจะตั้งกระโจมป้องกันอากาศก็ได้) ก็จะมีที่รับประทานอาหาร พร้อมรับลมเย็นสบาย หรือจะจุดแกสทำบาร์บีคิวก็ได้เช่นกัน เป็นรถพ่วงที่ดีที่สุด เพื่อการใช้ชีวิตได้อย่างเรียบง่าย ราคาเริ่มต้น 42,000 ปอนด์ lumetraveler.com