พิเศษ
SUZUKI 100th ANNIVERSARY ถักทอเส้นทาง สร้างสรรค์ไม่สิ้นสุด
SUZUKI ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี 1909 และพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมทอผ้าขนาดใหญ่ จนกลายเป็นผู้ผลิตยานพาหนะหลากหลายประเภท โดยเฉพาะรถยนต์ที่ทันสมัย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นที่ต้องการของลูกค้าทั่วทุกมุมโลกประวัติ 100 ปี รวมไทม์ไลน์ เหตุการณ์สำคัญ 1909 SUZUKI ก่อตั้งโดย มิจิโอะ ซูซูกิ (MICHIO SUZUKI) เจ้าของธุรกิจผลิตเครื่องทอผ้า ในเมือง MINAMI-KU, HAMAMATSU ผู้มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าออกมาตอบสนองลูกค้าในยุคนั้น ซึ่งต้องการเครื่องจักรที่สามารถผลิตเสื้อผ้าที่มีลายแนวตั้ง และแนวนอนได้ 1920 มิจิโอะ ซูซูกิ ต้องการขยายกิจการการทอผ้าให้ใหญ่โตขึ้น จึงรวบรวมทุนทรัพย์จำนวน 500,000 เยน ก่อตั้งบริษัท SUZUKI LOOM MANUFACTURING COMPANY หรือ SUZUKI JODOSHA KOGYO (SJK) นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนคู่แข่ง เช่น เครื่องทอผ้าที่สามารถใช้ด้ายย้อม ทอผ้าหลากสี ซึ่งทำให้บริษัทกลายเป็นผู้ผลิตเครื่องทอผ้ารายใหญ่ลำดับต้นๆ ของประเทศ 1929 แม้จะประสบความสำเร็จอย่างดีในธุรกิจผลิตเครื่องทอผ้า แต่การที่ญี่ปุ่นจะก้าวสู่การเป็นประเทศที่เน้นอุตสาหกรรมหนัก และการขยายตัวยังมีอีกมาก ธุรกิจเครื่องทอผ้าอย่างเดียว คงไม่อาจทำให้บริษัทอยู่รอดได้ในระยะยาว SUZUKI จึงเริ่มมองหาธุรกิจอื่นที่น่าจะลงทุน และธุรกิจที่ว่า คือ "รถยนต์" โดยสมัยก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2 ในสังคมญี่ปุ่น ราคาของรถยนต์ยังมีราคาแพง มีแต่คนฐานะดีเท่านั้นถึงจะมีรถยนต์ขับ มิจิโอะ ซูซูกิ จึงคิดการณ์ใหญ่ขึ้นมา 1937 มิจิโอะ ซูซูกิ สั่งซื้อรถยนต์ AUSTIN SEVEN จากอังกฤษ มาให้วิศวกร และนายช่างในโรงงาน ช่วยกันถอดชิ้นส่วนเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างรถยนต์ของตนเอง โดยมีเป้าหมายจะผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ 1939 พวกเขาได้ลองสร้างรถยนต์ต้นแบบออกมาสำเร็จ โดยติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งถือว่าล้ำยุคล้ำสมัย ไปไกลหลายปี แต่ความฝันที่จะผลิตรถยนต์ต้องล้มเลิก เมื่อรัฐบาลให้เหตุผลว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย 1940-1945 ช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 SJK เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับมอบหมายให้สนับสนุนการผลิตอาวุธยุทธภัณฑ์ ในปี 1940 SJK จึงไปสร้างโรงงาน TAKATSUKA ที่เขต KAMI-MURA, HAMANA-GUN จังหวัดชิซูโอกะ 1947 เมือง HAMAMATSU รวมถึงโรงงานของ SJK ถูกฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีทางอากาศจนเสียหายอย่างหนัก ทำให้ SJK ต้องย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่โรงงาน TAKATSUKA ก่อนจะย้ายมาอยู่บนที่ตั้งปัจจุบันในเดือนพฤษภาคม ปี 1947 พร้อมผลิตเครื่องทอผ้าอัตโนมัติออกจำหน่ายอีกครั้ง 1949 ช่วงหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาผู้นำฝ่ายสัมพันธมิตร อนุญาตให้ส่งออกฝ้ายมายังญี่ปุ่น เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่ง SJK ก็ได้เข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้น TOKYO OSAKA และ NAGOYA 1950-1951 สภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นจากสงคราม ทำให้ตลาดสิ่งทอของญี่ปุ่นพังครืนลงในปี 1951 วิกฤตการณ์ด้านการเงินเริ่มถาโถมสู่ SJK จนเกือบจะอยู่ในภาวะล้มละลาย ส่งผลให้ต้องหันไปเจาะธุรกิจอื่น ซึ่งการผลิตยานพาหนะเป็นความท้าทายที่พวกเขาอยากลอง 1952 ผลงานชิ้นแรกของ SUZUKI เป็นยานพาหนะแบบ 2 ล้อ ที่เหมือนนำจักรยานมาติดเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ขนาด 36 ซีซี เปิดตัวเมื่อปี 1952 ในชื่อ POWER FREE (เพาเวอร์ ฟรี) ด้วยรูปทรงที่เรียบง่ายเช่นเดียวกับการใช้งาน และการดูแลรักษา ทำให้มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก 1953 เดือนมีนาคม ปี 1953 ด้วยความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ POWER FREE ทำให้ SUZUKI เริ่มพัฒนาเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ในชื่อ "DIAMOND FREE" ขนาด 60 ซีซี 2 แรงม้า ต่อมาเดือนธันวาคม ปี 1953 ได้ผลิตรถจักรยานยนต์รุ่น COLLEDA ออกจำหน่าย ซึ่งถือเป็นรถจักยานยนต์คันแรกที่เรียกได้ว่าเป็นรถจักรยานยนต์จริงๆ โดยผลิตรุ่นแรก คือ COLLEDA CO ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้เกิดรถรุ่นต่างๆ ตามมา 1954 เดือนมิถุนายน ปี 1954 SUZUKI เปลี่ยนชื่อเป็น SUZUKI MOTOR CO., LTD. ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน 1955 SUZUKI ขยายตัวสู่ตลาดรถยนต์ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดเล็ก รุ่น SUZULIGHT ในปี 1955 ใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะ 360 ซีซี และถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกๆ ในญี่ปุ่นที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อ และพวงมาลัยแบบฟันเฟือง และตัวหนอน 1958 สัญลักษณ์รูปตัว S ของ SUZUKI ที่เรียบง่าย แข็งแรง และสวยงาม ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เริ่มใช้เป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปี 1958 จากการออกแบบของ มาซามิจิ เทเซนิ (MASAMICHI TEZENI) 1959 เดือนกรกฎาคม ปี 1959 เจเนอเรชันต่อมาของ SUZULIGHT ก็ออกสู่ตลาด นั่นคือ SUZULIGHT VAN 360 เครื่องยนต์ 2 จังหวะ 21 แรงม้า ที่ตัวรถดูคล้ายกับรถยนต์ MINI รุ่นแรกๆ อยู่ไม่น้อย 1961 นอกจาก SUZULIGHT 360 แบบเก๋งแล้ว ในเดือนตุลาคม ปี 1961 SUZUKI ได้ออกรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ ที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกัน คือ SUZULIGHT CARRY เครื่องยนต์ 2 สูบ 2 จังหวะ 359 ซีซี 1963 เดือนมีนาคม ปี 1963 SUZUKI เปลี่ยนโฉมใหม่รถรุ่น FRONTE เป็น SUZULIGHT FRONTE SEDAN 360 โดยปรับบั้นท้ายให้ใกล้เคียงกับรถซีดานมากขึ้น พร้อมเปลี่ยนชุดกระจังหน้า และไฟเลี้ยวใหม่ ให้ดูกว้างขึ้น วางเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 21 แรงม้า 1965 FRONTE 800 รหัสรุ่น C10 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1965 ถือเป็นรุ่นที่วางรากฐานในการพัฒนารถยนต์นั่งส่วนบุคคล พิกัดใหญ่กว่ากลุ่ม KEI-JIDOSHA หรือ K-CAR (รถขนาดเล็ก) 1967 พัฒนาการสำคัญของ SUZUKI ในตลาดรถเล็ก ได้แก่ SUZUKI FRONTE 360 รหัสรุ่น LC10 รถยนต์ 4 ล้อรุ่นแรก ที่ใช้ยี่ห้อ SUZUKI แทน SUZULIGHT และเป็นเจเนอเรชันที่ 2 ของ FRONTE ออกแบบตัวถังใหม่ ใช้เครื่องยนต์แบบ 3 สูบ 2 จังหวะ 356 ซีซี 1968 ในปี 1968 SUZUKI FRONTE SS ถูกผลิตออกมาเพื่อตอบโต้กระแสความแรง ของบรรดารถยนต์ขนาดเล็กในตลาด K-CAR สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ FRONTE LC10 แต่นำเครื่องยนต์ ของ FRONTE LC10 มาเพิ่มกำลังเป็น 36 แรงม้า รถต้นแบบถูกส่งไปทดสอบความทนทานถึงประเทศอิตาลี โดยวิ่งบนทางหลวง AUTOSTRADA DE SOLE จากเมืองมิลาน ผ่านกรุงโรม ไปจบที่เมืองเนเปิล ระยะทางรวม 750 กม. ใช้ความเร็วเฉลี่ย 122.44 กม./ชม. ผู้ขับ 1 ใน 2 คน ที่ทำสถิติดังกล่าว คือ เซอร์ สเตอร์ลิง มอสส์ (SIR STIRLING MOSS) นักแข่งชื่อก้องโลกชาวอังกฤษ อีกคนหนึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นชื่อ มิสึโอะ อิโต (MITSUO ITOH) 1970 SUZUKI ร่วมมือกับ YUASA BATTERY ผลิต SUZUKI CARRY ELECTRIC VAN เพื่อใช้เป็นรถรับ/ส่งผู้เข้าชมงาน EXPO ’70 ที่นครโอซากา บนพื้นฐานของรถบรรทุกเล็ก SUZUKI CARRY รุ่น L40V วางเครื่องยนต์ 2 สูบ 2 จังหวะ 359 ซีซี เส้นสายภายนอกออกแบบโดย โจร์เกตโต จูจาโร (GIORGETTO GIUGIARO) นักออกแบบรถยนต์ชื่อดัง SUZUKI ทำสัญญาซื้อลิขสิทธิ์การพัฒนา และการผลิตเครื่องยนต์โรตารี จาก AUDI NSU AUTO UNION แห่งเยอรมนี ที่ถือสิทธิ์โดยตรงจาก เฟลิกซ์ วังเคล (FELIX WANKEL) ผู้ประดิษฐ์เครื่องยนต์โรตารี เปิดตัวรถยนต์รุ่นตำนาน SUZUKI JIMNY LJ10 เครื่องยนต์ 2 จังหวะ 2 สูบ 359 ซีซี 25 แรงม้า ต้นตำรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตัวถังแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา สามารถขับในเส้นทางทุรกันดาร 1971 SUZUKI FRONTE COUPE ออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 1971 โดยจุดเด่นของรถคันนี้ คือ เป็นการร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง SUZUKI กับ โจร์เกตโต จูจาโร และขายกันจนถึงปี 1976 1979 รถยนต์รุ่นสำคัญอีกรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ SUZUKI มีชื่อว่า SUZUKI ALTO เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม ปี 1979 ราคาเพียง 470,000 เยนเท่านั้น ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจล้นหลาม เพิ่มความนิยมให้รถยนต์ประเภท K-CAR แบบก้าวกระโดด 1981 SUZUKI JIMNY เจเนอเรชันที่ 2 รุ่น SJ30 เปิดตัวครั้งแรก วางเครื่องยนต์ LJ50 เหมือนรถรุ่นก่อน แต่ตัวถังมีขนาดใหญ่ขึ้น และเป็นต้นกำเนิดตระกูล CARIBIAN ในบ้านเรา 1982 รถ ATV คันแรกของ SUZUKI ออกสู่ตลาด สามารถขับได้บนพื้นผิวที่หลากหลาย รวมถึงโคลนเนินเขา และทะเลทราย SUZUKI เปิดตัวรถ 4x4 สายพันธุ์ใหม่ นั่นคือ SJ410 เป็นต้นตระกูลของ SJ ซีรีส์ ตัวรถกว้างขว้าง ทันสมัย ดึงจุดเด่น และแก้ไขจุดด้อยของ LJ ซีรีส์ ที่ผลิตก่อนหน้านี้ ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 970 ซีซี 45 แรงม้า 1983 SUZUKI CULTUS รุ่นแรก เปิดตัวเมื่อปี 1983 ทำตลาดถึงปี 1988 และเข้ามาขายในบ้านเราช่วงปี 1986 เป็นรุ่น 5 ประตู ในชื่อ SUZUKI SA413 ส่วนรุ่นที่ 2 เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1988 ช่วงแรกมีทั้งตัวถังแฮทช์แบค 3 กับ 5 ประตู ก่อนที่ตัวถังซีดาน 4 ประตู ในชื่อ ESTEEM จะตามมาในปี 1990 SUZUKI มองเห็นตลาดสำหรับรุ่น SJ410 และ SJ413 โดยออกแบบใหม่ ขยายฐานล้อออกไป 13.5 นิ้ว และขยายความยาวของตัวรถอีก 23 นิ้ว มีหลายรุ่นให้เลือก ตั้งแต่รุ่นเปิดประทุน ที่มีทั้งแบบ 4 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ไปจนถึงรุ่นหลังคาแข็ง 1988 เดือนพฤษภาคม ปี 1988 เปิดตัวรถขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นใหม่ SUZUKI VITARA ซึ่งตระกูล VITARA มีชื่อทำตลาดเฉพาะญี่ปุ่นว่า ESCUDO และเริ่มส่งออกสู่ตลาดยุโรป ภายใต้ชื่อ SUZUKI VITARA ส่วนในสหรัฐอเมริกา จะมีทั้งชื่อ VITARA สำหรับทำตลาดเอง และชื่อ GEO TRACKER 1989 SIDEKICK รถ 3 ประตู หลังคาอ่อน เผยโฉมครั้งแรกในปี 1989 ผลิตที่โรงงานในแคนาดา เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง SUZUKI และ GM CAMI ใช้เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร ก่อนที่จะอัพเกรดเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเครื่องยนต์หัวฉีด TBI 1.6 ลิตร 8 วาล์ว 80 แรงม้า สำหรับแฟนๆ ในเอเชีย SIDEKICK รู้จักในอีกชื่อหนึ่ง คือ ESCUDO ส่วนในตลาดยุโรป และออสเตรเลีย รู้จักกันในชื่อ VITARA SUZUKI ส่งออกรุ่น FRONTE ไปยังตลาดต่างๆ ในปี 1968 ทำให้กิจการผลิตรถยนต์ของ SUZUKI ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียง 21 ปี ในการเพิ่มจำนวนการผลิตเป็น 10 ล้านคัน ในปี 1989 1991 สปอร์ทเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ในตำนานของ SUZUKI เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี 1991 ภายใต้ชื่อ SUZUKI CAPPUCCINO โดยเลือกใช้ชื่อเหมือนกาแฟ สื่อให้เห็นถึงแนวเส้นตัวถังที่โค้งมน ลื่นไหล และลงตัว วางเครื่องยนต์ 3 สูบ 657 ซีซี 4 จังหวะ CAPPUCCINO ผลิตทั้งสิ้น 27,656 คัน จนถึงเดือนสิงหาคม ปี 1998 1993 SUZUKI WAGON R ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในฐานะรถขนาดเล็กที่ออกแบบได้สวยงามลงตัว และมีสมรรถนะการใช้งานดีเยี่ยม การันตีด้วยรางวัล RJC NEW CAR OF THE YEAR 1993 2001 SUZUKI MR-WAGON เคยเป็นรถต้นแบบ ในงานมหกรรมยานยนต์โตเกียว 1999 เริ่มออกจำหน่ายในญี่ปุ่น เดือนธันวาคม ปี 2001 มีรูปลักษณ์แบบ MONO-FORM ภายในเน้นความอเนกประสงค์ 2003 SUZUKI เป็นเจ้าพ่อตัวจริงในตลาดรถยนต์ KEICAR พิสูจน์ด้วยการครองตำแหน่งบริษัทที่มียอดขายรถยนต์ประเภทนี้ต่อปีสูงสุดในญี่ปุ่น 30 ปีติดต่อกัน (1973-2003) 2004 เปิดตัว SUZUKI SWIFT รุ่นแรก ที่งานมหกรรมยานยนต์ปารีส 2004 โดยมีเครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ 1.3 ลิตร 92 แรงม้า (ไม่มีขายในไทย) และ 1.5 ลิตร 102 แรงม้า (มีขายในไทย) ตัวถัง 3 ประตู และ 5 ประตู ในญี่ปุ่นมีเฉพาะรุ่น 5 ประตู ส่วน 3 ประตู มีขายในเยอรมนี คู่กับ 5 ประตู 2005 เปิดตัว SUZUKI SWIFT SPORT เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 123 แรงม้า แต่งสปอร์ท ส่วนในไทยก็เปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร โดยบริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ในงาน MOTOR EXPO 2009 2006 SUZUKI CERVO โฉมใหม่ แฮทช์แบค 5 ประตู ทรงสูง รูปลักษณ์สวยล้ำสมัย ภายในเรียบง่าย เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก เครื่องยนต์ 660 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 54 แรงม้า 2008 นับจากปี 1990 เป็นต้นมา SUZUKI มียอดการผลิตรถยนต์ต่อปีเกิน 1 ล้านคัน ก่อนจะเพิ่มเป็น 2 ล้านคัน ในปี 2005 และในปี 2002 ก็ฉลองยอดผลิตสะสมครบ 30 ล้านคัน และ 40 ล้านคัน ในปี 2008 2009 เดือนเมษายน ปี 2009 SUZUKI เปิด SUZUKI PLAZA ที่เมือง HAMAMATSU เพื่อจัดแสดงรถยนต์ SUZUKI ในช่วงตลอดทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของ SUZUKI ตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม 2010 SUZUKI มียอดขายสะสมในประเทศญี่ปุ่น 20 ล้านคัน พร้อมการฉลองครบรอบ 40 ปีของ JIMNY รถขับเคลื่อน 4 ล้อขนาดเล็ก 2011-2012 เปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดเล็ก SUZUKI ALTO ECO โฉมใหม่ เครื่องยนต์ 3 สูบ 660 ซีซี รหัส R06A ที่ควบมากับเทคโนโลยีระบบ START-STOP ประหยัด และขับง่าย ด้วยระบบเกียร์ CVT ที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อส่งกำลังไปขับเคลื่อนล้อหน้า 2014 SUZUKI HUSTLER เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมกราคม ปี 2014 โดยเป็นรถเอสยูวีในกลุ่ม KEI-CAR มิติตัวถังยาว 3.3 ม. กว้าง 1.4 ม. และสูง 1.6 ม. พร้อมสีหลังคาที่สะดุดตา เครื่องยนต์ขนาด 3 สูบ 660 ซีซี 52 แรงม้า 2016 SUZUKI ประกาศร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ TOYOTA 2018 SUZUKI SWIFT 2018 ใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน DUALJET 1.2 ลิตร เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของ SWIFT ที่ได้รับรางวัล RJC CAR OF THE YEAR 2018 จากการคัดเลือกโดยสถาบันนักวิจัย และผู้สื่อข่าวยานยนต์แห่งญี่ปุ่น 2 เจเนอเรชันก่อนหน้านี้ เคยคว้ารางวัลนี้มาแล้วในปี 2005 และ 2010 2019 ALL NEW SUZUKI JIMNY รุ่นที่ 4 ถูกเสนอชื่อในรอบสุดท้ายของ WORLD CAR AWARDS 2019 และสามารถคว้ารางวัล WORLD URBAN CAR OF THE YEAR 2019 ได้สำเร็จ โดยเป็นรถเอสยูวีขนาดกะทัดรัดหนึ่งเดียว ที่ยึดมั่นในแนวคิดนี้มาเกือบ 50 ปี พร้อมประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยมทั้งทางเรียบ และทางลุย 2020 SUZUKI XL7 ครอสส์โอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง เปิดตัวในอินโดนีเซีย ดีไซจ์นภายนอกดูสมบุกสมบัน ไฟหน้าแบบ LED ขุมพลังเวอร์ชันอินโดนีเซีย เป็นเครื่องยนต์เบนซิน K15B แบบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 104 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ MICHIO SUZUKI (1920-1957) SHUNZO SUZUKI (1957-1973) JITSUJIRO SUZUKI (1973-1978) OSAMU SUZUKI (1978-2000) MASAO TODA (2000-2003) HIROSHI TSUDA (2003-2008) OSAMU SUZUKI (2008-2015) TOSHIHIRO SUZUKI (2015-ปัจจุบัน) ประมวลผังโรงงานผลิตทั่วโลก ญี่ปุ่น สำนักงานใหญ่ของ SUZUKI (HAMAMATSU PLANT) ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางธุรกิจของญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางของการผลิตทั้งหมด โรงงานโคไซ (KOSAI PLANT) ผลิต และประกอบรถยนต์นั่งสำหรับขายในประเทศ เช่น ALTO, WAGON R, SPACIA, HUSTLER และ JIMNY รวมไปถึงเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์รุ่นต่างๆ และเครื่องยนต์เรือ พื้นที่ 1,190,000 ตารางเมตร โรงงานอิวาตะ (IWATA PLANT) ผลิต และประกอบรถยนต์นั่ง และรถเพื่อการพาณิชย์ สำหรับขายในประเทศ อาทิ EVERY, EVERY WAGON และ CARRY พื้นที่ 298,000 ตารางเมตร โรงงานซาการา (SAGARA PLANT) ผลิต และประกอบรถยนต์นั่งสำหรับขายในประเทศ และส่งออก อาทิ IGNIS, SWIFT, SOLIS และ XBEE พื้นที่ 1,970,000 ตารางเมตร โรงงานโอซูกะ (OSUKA PLANT) ผลิตอะไหล่เครื่องยนต์ต่างๆ พื้นที่ 151,000 ตารางเมตร โรงงานฮามามะสึ (HAMAMATSU PLANT) ผลิต และประกอบรถจักรยานยนต์ทุกรุ่น พื้นที่ 177,000 ตารางเมตร เอเชีย ไทย SUZUKI MOTOR (THAILAND) CO., LTD. ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ SUZUKIในประเทศไทย อินเดีย MARUTI SUZUKI INDIA LIMITED SUZUKI MOTOR GUJARAT PRIVATE LIMITED ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของอินเดีย ปากีสถาน PAK SUZUKI MOTOR CO., LTD. ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในปากีสถาน อินโดนีเซีย PT. SUZUKI INDOMOBIL MOTOR ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ SUZUKI รายหลักสำหรับในประเทศอินโดนีเซีย และส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน เวียดนาม VIETNAM SUZUKI CORP. ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ SUZUKI ในประเทศเวียดนาม ก่อตั้งเมื่อปี 1955 เมียนมาร์ SUZUKI (MYANMAR) MOTOR CO., LTD. ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ SUZUKI ในประเทศเมียนมาร์ ก่อตั้งเมื่อปี 2013 ยุโรป ฮังการี MAGYAR SUZUKI CORPORATION LTD. ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ SUZUKI ในประเทศฮังการี อเมริกาใต้ บราซิล SVB AUTOMOTORES DO’ BRASIL LTDA. ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ SUZUKI ในประเทศบราซิล แอฟริกา อียิปต์ SUZUKI EGYPT S.A.E. ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ SUZUKI ในประเทศอียิปต์ ย้อนอดีต SUZUKI ในเมืองไทย SUZUKI เข้าสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทยมานานกว่า 30 ปี ในยุคแรกดำเนินงานโดย บริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือสยามกลการ นำรถเข้ามาจำหน่ายหลายรุ่น อาทิ CARRY, CARIBIAN, SPORTY, ESTEEM, FRONTE และ VITARA เป็นต้น จากนั้น ประเทศไทยได้มีโครงการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ ECO CAR ทาง SUZUKI MOTOR CORPORATION แห่งประเทศญี่ปุ่น จึงร่วมหุ้นกับสยามอินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่นฯ ในสัดส่วน 60:40 เปิดบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SAT ในปี 2003 ต่อมาในปี 2011 บริษัทแม่ตัดสินใจลงทุนทำตลาดด้วยตัวเอง โดยเปิดตัว บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SAMT ดูแลกิจการค้าขายรถยนต์ SUZUKI ในเมืองไทยต่อจาก SAT พร้อมสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ SUZUKI ใน กลุ่มอีโคคาร์ ณ นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์น ซีบอร์ด จังหวัดระยอง ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี มิโนรุ อามาโนะ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ จำหน่ายรถทั้งหมด 7 โมเดล ได้แก่ SWIFT, CIAZ, CELERIO, ERTIGA, XL7 และ CARRY ก้าวสำคัญเปิดโรงงานผลิตรถแห่งแรกในไทย บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ SUZUKI อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 12 ธันวาคม 2012 ณ นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง เพื่อเป็นฐานการผลิตรถยนต์อีโคคาร์ ด้วยกำลังการผลิตถึง 100,000 คัน/ปี 4 ทศวรรษ รถยนต์ SUZUKI ในเมืองไทย ปี 1975 เปิดตัว SUZUKI JEEP รุ่น LJ 50 รถยนต์ SUZUKI กระบะเล็ก รุ่น L50 รุ่น ST 20 รุ่น ST 20-2 รุ่น ST 80 ปี 1984 เปิดตัว SUZUKI FRONTE เครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ 550 ซีซี กับ 800 ซีซี รถยนต์ SUZUKI กระบะเล็ก รุ่น ST 90 ปี 1987 เปิดตัว SUZUKI รุ่น SJ 410 (JIMNY 1000) เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร, SUZUKI CARIBIAN รุ่น SJ 413 W เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง OHC 8 วาล์ว 1.3 ลิตร (SJ413) ระบบจ่ายน้ำมัน คาร์บูเรเตอร์เดี่ยวท่อคู่ กำลังสูงสุด 70 แรงม้า ระบบส่งกำลังขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบกันสะเทือน แหนบ และคานแข็ง 4 ล้อ ปี 1991 เปิดตัว SUZUKI SWIFT รุ่น SA 413 (CULTUS) ปี 1992 เปิดตัว SUZUKI CARIBIAN รุ่น SJ 413 WK • เปิดตัว SUZUKI VITARA หรือ SUZUKI ESCUDO โดยเริ่มจำหน่ายรุ่น 3 ประตู เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ 3 จังหวะ ก่อนจะเปิดตัวรุ่น 5 ประตู ช่วงล่างของ VITARA ด้านหน้าอิสระ ปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังคานแข็ง แต่ก็เป็นแบบคอยล์สปริงเช่นกัน ปี 1995 SUZUKI ESTEEM หรือ SUZUKI CULTUS CRESCENT รุ่น SY 416 ไทยเปิดตัวใช้ชื่อ SUZUKI ESTEEM มีตัวถังแบบเดียว คือ ซีดาน 4 ประตู ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร M16A แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 112 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า มีเกียร์ 2 แบบให้เลือก คือ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ปี 1996 เปิดตัว SUZUKI VITARA รุ่น V6 • SUZUKI CARIBIAN เปลี่ยนเป็นพวงมาลัยเพาเวอร์ กับเครื่องยนต์หัวฉีด (SINGLE POINT) 4 สูบเรียง OHC 8 วาล์ว 1.3 ลิตร G13B กำลังสูงสุด 69 แรงม้า ปี 2002 เปิดตัว SUZUKI GRAND VITARA รุ่น XL7 ปี 2005 เปิดตัว SUZUKI APV (APV: ALL PURPOSE VEHICLE) รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก (MINI MPV) สร้างขึ้นจากพื้นฐานของ SUZUKI CARRY โดยเป็นรถนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 92 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ไมเนอร์เชนจ์เมื่อปี 2008 ปี 2006 เปิดตัวรถยนต์ SUZUKI กระบะ SUZUKI CARRY เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 92 แรงม้า มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา ปี 2008 SUZUKI MOTOR CORPORATION ประเทศญี่ปุ่น ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ของไทยในการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2007 โดยสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์น ซีบอร์ด จังหวัดระยอง ในชื่อ บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด) ในระหว่างนั้นบริษัทฯ ได้นำรถยนต์เข้ามาจำหน่าย ปี 2009 เปิดตัว SUZUKI SWIFT 1.5 ลิตร ที่ประกอบในอินโดนีเซีย และนำเข้ามาทั้งคัน ปี 2010 เปิดตัว SUZUKI SX4 ตัวถังแฮทช์แบค 5 ประตู COMPACT CROSSOVER SUV ออกแบบโดย โจร์เกตโต จูจาโร (GIORGETTO GIUGIARO) นำเข้าจากโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย รุ่น 1.6 ลิตร เครื่องยนต์เบนซิน M16A 1.6 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 112 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ปี 2012 บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มการผลิตพร้อมเปิดจำหน่าย SUZUKI SWIFT อีโคคาร์ (Eco car) คันแรก ขนาดเครื่องยนต์ 1.25 ลิตร รหัส K12B กำลังสูงสุด 91 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแปรผัน (CVT) มีให้เลือก 3 รุ่น คือ GA, GL และ GLX • ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน เริ่มทำตลาด SUZUKI SWIFT ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ อีก 2 รุ่น คือ GA และ GL ปี 2013 นำเข้า SUZUKI ERTIGA เอมพีวี 5 ประตู จากประเทศอินโดนีเซีย เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร เกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ และจะมีแอร์แถวที่ 3 มีรุ่น GA, GL และ GX ปี 2014 เปิดตัว SUZUKI CELERIO อีโคคาร์ 5 ประตู เครื่องยนต์แบบ 3 สูบ 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 68 แรงม้า มีให้เลือก 3 รุ่น คือ รุ่นเกียร์ธรรมดา GA MT เกียร์อัตโนมัติ GL CVT และรุ่นทอพ GX CVT ปี 2015 เปิดตัว SUZUKI CIAZ อีโคคาร์ซีดาน เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว เครื่องยนต์ 1.25 ลิตร รหัส K12B กำลังสูงสุด 91 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแปรผัน (CVT) และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เหมือนกับ SUZUKI SWIFT รุ่นที่ 3 โดยมีให้เลือก 4 รุ่น คือ GA MT, GL CVT, GLX CVT, และ RS CVT ปี 2016 เปิดตัว SUZUKI ERTIGA ไมเนอร์เชนจ์ โดยเพิ่มรุ่น DREZA เข้ามา แล้วตัดรุ่น GA ออกไป ปี 2018 เปิดตัว SUZUKI SWIFT รุ่นที่ 4 พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ รหัส K12M 4 สูบ DOHC ขนาด 1.2 ลิตร ระบบหัวฉีดคู่ DUAL JET กำลังสูงสุด 83 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 37 ลิตร รองรับ E20 มี 4 รุ่น คือ GA, GL, GLX และ GLX-NAVI ปี 2019 เปิดตัว SUZUKI ERTIGA รุ่นที่ 2 นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย เปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว รหัส K15B กำลังสูงสุด 105 แรงม้า เปิดตัว ALL NEW SUZUKI JIMNY รถขับเคลื่อน 4 ล้อขนานแท้ กับนิยาม “NOBODY BUT JIMNY” ที่มีเอกลักษณ์สะท้อน JIMNY DNA ทรงเหลี่ยม ไฟหน้า LED ทรงกลมทันสมัย เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 102 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ALLGRIP PRO และ LOW TRANSFER GEAR ที่สามารถปรับการทำงานระหว่างระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 2 ล้อ ได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ • เปิดตัว SUZUKI CARRY รุ่นที่ 11 ผลิตโดย PT SUZUKI INDOMOBIL MOTOR ในอินโดนีเซีย มีขนาดใหญ่กว่า KEI-CLASS CARRY ที่จำหน่ายในญี่ปุ่น ใช้เครื่องยนต์ K15B-C ขนาด 1.4 ลิตร 97 แรงม้า ปี 2020 เปิดตัว NEW SUZUKI CIAZ กระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าพโรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟหรี่แบบ LED จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน APPLE CAR PLAY • เปิดตัว SUZUKI XL7 รถครอสส์โอเวอร์ 7 ที่นั่ง นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว รหัส K15B กำลังสูงสุด 105 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการ 4wheels
ภาพโดย : อินเตอร์เนทนิตยสาร 417 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2563
คอลัมน์ Online : พิเศษ(4wheels)