X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เขาว่าอย่างนั้นจริงไหม ?
30 Dec 2020
เชครถก่อนเดินทางไกล ไม่ใช่ช่างก็ทำได้...จริงไหม ?
เขาว่า... : ตรวจเชครถก่อนเดินทางไกล ไม่ใช่ช่างก็ทำได้...จริงไหม ?
จริง : เพราะเป็นการตรวจเชครถเบื้องต้น ผู้ใช้รถทั่วไปก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีความเข้าใจเพียงพอ
รถของเรา เมื่อผ่านการใช้งานมาหลายปี มักเจอปัญหาต่างๆ เช่น ท่อน้ำฉีก สายพานขาด ปั๊มน้ำรั่ว แบริง (ลูกปืน) ของปั๊มน้ำ หรือของอัลเทอร์เนเตอร์ชำรุด วิธีเชคของช่างส่วนใหญ่ มักใช้เพียง “สายตา” มองว่ามีน้ำรั่วที่ท่อน้ำหรือไม่ มันไม่รั่วอยู่แล้วครับ เพราะถ้ารั่วก่อนถูกตรวจ เจ้าของคงขับมาไม่ถึง ที่เป็นแบบนี้เพราะช่างไทยไม่ได้ตรวจความพร้อมของรถด้วยวิธีที่ถูกต้อง วิธีมองว่าท่อน้ำยังเป็นปกติ แล้วบอกว่าใช้ต่อได้ ผ่านการตรวจแล้ว แบบนี้เจ้าของรถก็ทำเองได้ครับ การตรวจสภาพสายพานของช่างไทยเกือบทุกคน ใช้วิธีมองดูว่ามันแตกร้าวหรือยัง แต่จะมองเฉพาะส่วนที่มองเห็นเท่านั้น ถ้าบังเอิญเครื่องยนต์หยุดหมุนตอนดับเครื่อง แล้วรอยร้าวที่เกือบจะขาด มันไปจมอยู่ในร่องของพูลเลย์ ก็จะไม่มีการหมุนเครื่องยนต์ตรวจให้ครบทั้งเส้น ส่วนวิธีตรวจท่อน้ำของเครื่องยนต์ ที่ช่างควรปฏิบัติ คือ เอามือบีบดูว่าเนื้อยางแข็งกรอบหรือยัง มีรอยปริให้เห็นตอนบีบหรือไม่ ใครที่ชอบตรวจสภาพรถก่อนเดินทางไกล จะเห็นเลยว่าทำเองได้ไม่ยาก ยางปัดน้ำฝนต้องอยู่ในสภาพดี ปัดน้ำจากกระจกได้เกลี้ยง แม้ไม่ใช่ฤดูฝนก็ต้องพร้อมใช้งาน ส่วนไฟส่องสว่างของรถรุ่นใหม่นั้น ไม่ต้องห่วงครับ เพราะทนทานไว้ใจได้ ส่วนรถที่มีอายุมากพอสมควรอาจตรวจยาก เพราะต้องถอดหลอดไฟออกมา ถอดได้แล้วก็ต้องมีประสบการณ์เพียงพอที่จะดูไส้หลอด และเปลือกแก้วของหลอดว่าผ่านการใช้งานมานานแค่ไหน และจะเหลืออายุใช้งานอยู่อีกเท่าใด ทางที่ดี คือ จดกำหนดเวลาที่เริ่มใช้หลอดไฟไว้ ถ้าใช้งานกลางคืนหนักเป็นประจำ สักปีครึ่ง หรือ 2 ปี ก็เปลี่ยนใหม่ได้แล้ว โดยไม่ต้องรอให้ไส้หลอดขาด แต่ถ้าใช้รถน้อยก็เพิ่มระยะเวลาที่ว่านี้เข้าไปอีก อย่าไปเสี่ยงใช้ต่อเพื่อให้ “คุ้ม” นะครับ เพราะหากไปดับบนถนนต่างจังหวัดที่ไม่มีไฟ มันจะยุ่ง แถมยังจะได้ไฟที่สว่างกว่าเดิมอีกด้วย เพราะความสว่างมันลดลงตามอายุการใช้งาน แต่ถ้าเป็นโคมไฟแบบซีนอนของรถรุ่นใหม่ ไม่ต้องสนใจอายุใช้งานครับ ใช้ไปจนกว่าจะเกิดปัญหาให้เราเห็น และอย่าลืมตรวจลมยางของล้ออะไหล่ด้วย ที่เป็นปัญหาประจำของผู้ใช้รถชาวไทย คือ พอเปลี่ยนเอาล้ออะไหล่ใส่ แล้วเอาแม่แรงลง จึงรู้ว่าไม่ได้เติมลมล้ออะไหล่มาเกือบปีแล้ว
อ่านต่อ
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2564
คอลัมน์ Online : เขาว่าอย่างนั้นจริงไหม ?
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/354080
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
เขาว่าอย่างนั้นจริงไหม ?
เขาว่าอย่างนั้นจริงไหม ?
25 Nov 2023
เขาว่า... ติดเครื่องนอนในรถ อาจตายไม่รู้ตัว...จริงไหม ?
เขาว่าอย่างนั้นจริงไหม ?
25 Oct 2023
ยางประหยัดน้ำมัน จะทำให้รถไหลได้ไกลกว่า...จริงไหม ?
เขาว่าอย่างนั้นจริงไหม ?
25 Sep 2023
ต้องให้ เด็กเล็ก นั่งเฉพาะ CAR SEAT เท่านั้น...จริงไหม ?