เมื่อต้องขับลงเขา การแตะเบรคเป็นระยะ จะช่วยชะลอความเร็วของรถได้ดี แต่อย่าเหยียบแป้นเบรคแช่ยาว เพราะจะทำให้เบรคไหม้ ดังนั้น ให้แตะเบรคในจังหวะที่จำเป็น และใช้เกียร์ต่ำ (D2 D1) เพื่อให้แรงหน่วงของเครื่องยนต์ ช่วยชะลอความเร็ว พร้อมรักษาระดับความเร็วลงเขาให้อยู่ที่ 40-50 กม./ชม.
เพิ่มโหลดให้เครื่องยนต์
เมื่อขับลงเขา ให้ลองใช้คอมเพรสเซอร์แอร์ และอัลเทอร์เนเตอร์ช่วยเบรค ด้วยการเปิดแอร์ และปรับอุณหภูมิให้เย็นที่สุด เปิดกระจกหน้าต่างทุกบาน และเปิดไฟหน้า เป็นอีกวิธีที่ทำให้รถแล่นช้าลงจนรู้สึกได้
รับรู้อาการ
เบรคไหม้ไม่ใช่การเกิดไฟลุกผ้าเบรค แต่คือ การที่ผ้าเบรคมีความร้อนสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ความฝืดของผ้าเบรคหมดไป ทำให้จับจานเบรคไม่อยู่ ผู้ขับขี่จะรับรู้ได้จากกลิ่นเหม็นไหม้ ตามด้วยอาการเบรคจม กดเบรคติดพื้นรถ ทำให้รถเบรคไม่อยู่
ได้กลิ่นไหม้ให้รีบจอด
เมื่อได้กลิ่นเหม็นไหม้มาจากรถ ขณะขับลงเขา สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจเกิดจากเบรคไหม้ ให้รีบจอดในที่ปลอดภัยทันที อย่าฝืนขับต่อเด็ดขาด พักจนกว่าเบรคจะเย็นลง (ประมาณ 20-30 นาที) รวมถึงตรวจเชคความร้อนของเครื่องยนต์ และสาเหตุอื่นๆ (ถ้าระยะทางยาวมาก ควรพักรถเป็นระยะ และเชคน้ำมันเบรคสักหน่อย)
ห้ามราดน้ำ
เมื่อเบรคมีอาการไหม้ จากการเบรคบ่อย หรือเบรคหนักมาตลอดทาง อย่าเอาน้ำราดจานเบรคหลังจอดเด็ดขาด เพราะความร้อนที่สะสมบนจานเบรค จะทำให้จานขยายตัว เมื่อโดนน้ำ ซึ่งเป็นสารละลายที่นำพาความร้อนได้ดี จานจะหดตัวอย่างรวดเร็วจน “คด” ได้ 
