ธุรกิจ
ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์
ไฟเขียว ! ต่อใบขับขี่ ไม่ต้องทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
ครม. อนุมัติร่างกฎกระทรวง ต่ออายุใบขับขี่ ไม่ต้องทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ ว่าด้วยการขอ และการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถดำเนินการผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ได้ โดยยกเว้นการทดสอบสมรรถภาพร่างกายสำหรับผู้ขอต่อใบอนุญาตขับรถที่ไม่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพ หรือมีอายุไม่เกินเกณฑ์ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
ส่วนผู้ที่มีอายุ หรือมีเงื่อนไขทางสุขภาพต้องเฝ้าระวัง ยังคงต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพขั้นพื้นฐาน เช่น การตอบสนองของปฏิกิริยา และสายตา รวมถึงการอบรมก่อนต่ออายุใบขับขี่ ทั้งนี้ กฎกระทรวงจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้น 90 วันนับจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมาตรการใหม่นี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถต่ออายุใบขับขี่ผ่านระบบออนไลน์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และยังคงมาตรฐานด้านความปลอดภัย และการตรวจคัดกรองผู้ขับขี่อย่างเข้มงวด
คุณสมบัติผู้ขอใบขับขี่
- อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้
- ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน
- ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึด หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
...............................................................................................................................
3 ทริคเอาตัวรอด เมื่อรถเบรคแตก !
1. ตั้งสติ ลดความเร็ว
เมื่อรู้ว่ารถมีอาการจากระบบเบรคที่มีปัญหา หรือเบรคแตกไปแล้ว พยายามตั้งสติ จับพวงมาลัยให้มั่น และถอนเท้าจากคันเร่งทันทีเพื่อลดความเร็ว หากความเร็วลดน้อยลงความรุนแรงก็จะน้อยลงไปด้วย ที่สำคัญยังทำให้เราสามารถประคองรถได้ง่าย โดยไม่พุ่งไปชนผู้อื่นอีกด้วย
ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ : ลดเกียร์ลงจากเกียร์ D เป็นเกียร์ต่ำลงเรื่อยๆ ส่วนเกียร์ธรรมดา : ให้เหยียบคลัทช์แล้วค่อยๆ ลดตำแหน่งเกียร์ลงตามลำดับ เพื่อใช้ความหน่วงของเครื่องยนต์เป็นตัวช่วยชะลอความเร็ว
2. ประคองรถเข้าจอดข้างทาง
เมื่อความเร็วลดลง จับพวงมาลัยให้มั่นคง พยายามประคองรถเข้าจอดข้างทาง หรือพื้นที่ปลอดภัย บีบแตรเป็นระยะ พร้อมกับเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อให้รถที่ตามมารวมถึงคนใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ได้รู้ว่ารถเรากำลังมีปัญหา เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
3. อย่าลืมเชคสภาพรถก่อนเดินทาง
ตรวจสอบระบบการทำงานของเบรคทุกครั้งก่อนออกเดินทาง และเมื่ออยู่บนท้องถนนให้ใช้ความเร็วที่เหมาะสม รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า เพื่อให้มีระยะเบรคหยุดรถได้อย่างปลอดภัย
สัญญาณเตือนระบบเบรคมีปัญหา
- เกิดเสียงผิดปกติขณะเหยียบเบรค
- เหยียบเบรคแล้วเบรคจม หรือยุบง่ายกว่าปกติ
- มีกลิ่นเบรคไหม้
วิธีตรวจสอบระบบเบรค
- เชคระดับน้ำมันเบรคในกระปุกให้อยู่ในระดับที่กำหนดอยู่เสมอ โดยน้ำมันเบรคต้องมีความใส หากเริ่มมีสีคล้ำต้องรีบเปลี่ยนทันที
- ตรวจสอบหม้อลมเบรค ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
- ตรวจเชคสายน้ำมันเบรคให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- ตรวจดูจานเบรค หากพบว่าจานเบรคบางเกินให้รีบเปลี่ยนทันที
- ตรวจเชคผ้าเบรค ถ้าร่องเริ่มตื้นให้ทำการเปลี่ยนทันที
...............................................................................................................................
Land Rover แนะนำ Defender Octa
Land Rover (แลนด์ โรเวอร์) สยามพารากอน พลิกโฉมใหม่ ทุ่มงบ 10 ล้านบาท ปรับโฉมโชว์รูมดีไซจ์นแนวบูทิคหรูแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิดตัว Defender Octa Edition One (ดีเฟนเดอร์ ออคทา เอดิชัน วัน) ยานยนต์ตระกูล Defender ที่ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากตลาดโลก
ชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า โชว์รูม Land Rover สยามพารากอน ใช้งบลงทุน 10 ล้านบาท ใช้เวลาปรับปรุงครั้งใหญ่นานถึง 1 ปีเต็ม ผ่านการออกแบบทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน เพื่อสะท้อนคอนเซพท์ Modern Luxury ของแบรนด์ Land Rover ออกมาอย่างโดดเด่น โดยนำแรงบันดาลใจมาจากการตกแต่งโชว์รูมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในมหานครอื่นๆ ของโลก ทั้งเซี่ยงไฮ้ ปารีส และลอนดอน ซึ่งเป็นโชว์รูมแนวบูทิคแห่งแรกของ Land Rover ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะที่แข็งแกร่งของแบรนด์ ร่วมกับโชว์รูมฟแลกชิพเดิม บนถนนพระราม 4
นอกจากเปิดโชว์รูมแล้ว ยังเปิดศักราชใหม่แห่งความหรูหรา ทันสมัย และสุดยอดสมรรถนะ ด้วยประสบการณ์ออฟโรดที่เหนือระดับของนักขับตัวจริง เปิดตัว Defender Octa Edition One ที่มาพร้อมสมรรถนะที่โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ Twin Turbo Mild-hybrid V8 ขนาด 4.4 ลิตร ให้กำลัง 635 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 750 นิวทันเมตร นำเสนอโหมดการขับขี่ใหม่ล่าสุด “Octa mode” เพื่อสร้างนิยามแห่งขีดความสามารถใหม่ ด้วยประสิทธิภาพสุดเร้าใจเต็มพลัง ทั้งบนท้องถนน และเส้นทางออฟโรดทุกรูปแบบ ในราคา 22,000,000 บาท
...............................................................................................................................
GWM ส่งออกสู่อาเซียน ละตินอเมริกา และออสเตรเลีย
GWM Thailand (กเรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด เดินหน้าขับเคลื่อนแผนการผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่นครอบคลุมทุกประเภทพลังงานจากโรงงานอัจฉริยะ (GWM Smart Factory) ในจังหวัดระยอง เพื่อขยายการส่งออกสู่ตลาดโลก
เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ปี 2568 นี้ GWM Thailand เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศต่างๆ ทั้งในอาเซียน ออสเตรเลีย และละตินอเมริกา โดยจะส่งรถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมียม Tank 500 HEV (แทงค์ 500 เอชอีวี) ไปยังประเทศมาเลเซีย ในขณะที่จะยังคงส่งออกรถยนต์ Tank 300 HEV (แทงค์ 300 เอชอีวี) สู่ประเทศอินโดนีเซีย และ Haval H6 HEV (ฮาวัล เอช 6 เอชอีวี) รวมถึงเจ้าสิงโตอารมณ์ดี Haval Jolion HEV (ฮาวัล โจไลออน เอชอีวี) ไปรุกตลาดในประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น ในเดือนเมษายนนี้ GWM Thailand เตรียมส่งออกเจ้าเหมียวไฟฟ้า New ORA Good Cat (โอรา กูด แคท) ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า 100 % รุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทยสู่ตลาดโลกเป็นครั้งแรก โดยจะส่งออกไปยังประเทศบราซิล ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ GWM Thailand ได้มีการส่งออกรถเอสยูวีไปยังประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนามมาแล้ว โดยได้ส่งออกรถยนต์รุ่น Tank 300 HEV, Tank 500 HEV และ Haval H6 HEV ไปยังประเทศอินโดนีเซีย ในขณะที่ประเทศเวียดนามได้ส่งออกรถยนต์ทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Haval H6 HEV และ Haval Jolion HEV ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประเทศดังกล่าว ทั้งหมดนี้ คือ การสะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของ GWM Thailand ในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการผลิต และส่งออกรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกพลังงานสู่ตลาดโลก สร้างงาน สร้างรายได้ และนำความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทย ด้วยการผลิตรถยนต์คุณภาพที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่ผลิตในประเทศไทย โดยคนไทย สู่การมอบประสบการณ์เพื่อการเดินทางที่ “เหนือกว่า” ให้แก่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ผ่านกลยุทธ์ “GWM Go with More"
"GWM และทีมงานชาวไทยทุกคนล้วนภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมสร้างการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจประเทศไทยด้วยการผลิต และส่งออกรถยนต์ GWM หลากหลายรุ่น ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานสู่ผู้ใช้งานทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และละตินอเมริกา ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในฐานะที่เป็นฐานการผลิตประจำภูมิภาคอาเซียน โดยการส่งออกรถยนต์ GWM ในไตรมาส 2/2568 นี้ สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการผลิต และมาตรฐานระดับโลกของโรงงานของเราที่จังหวัดระยอง โดยผลิตภัณฑ์ภายใต้ Tank ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในประเทศอินโดนีเซีย ส่วน Haval ก็ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากประเทศเวียดนาม ที่สำคัญในปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่เราจะส่งออก New ORA Good Cat ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจจากโรงงานผลิตขนาดใหญ่ของเรา โดยโรงงานที่จังหวัดระยองถือเป็นโรงงานการผลิตเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 ของ GWM นอกประเทศจีน (ถัดจากประเทศรัสเซีย) ทั้งนี้ GWM จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกรถยนต์ระดับโลกของ GWM เราพร้อมเติบโตไปในระยะยาวกับลูกค้ารวมถึงพาร์ทเนอร์ชาวไทย และสังคมไทยอย่างยั่งยืน"
ปัจจุบัน โรงงานอัจฉริยะของ GWM ในจังหวัดระยอง สามารถรองรับกำลังการผลิตสูงสุดถึง 80,000 คัน/ปี โดย GWM Thailand ได้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับการจำหน่ายในประเทศ และการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยรถยนต์ทุกรุ่น และทุกคันที่จำหน่ายในประเทศไทยล้วนผลิตจากโรงงานในประเทศไทยโดยฝีมือคนไทยทั้งสิ้น (ยกเว้นรุ่น ORA 07 ที่นำเข้าจากประเทศจีน) โดยล่าสุด All New Haval H6 ทั้งรุ่นไฮบริด และพลัก-อิน ไฮบริด และ New Tank 300 Diesel ที่เพิ่งเปิดตัวที่งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เมื่อปลายเดือนมีนาคม ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนๆ ชาวไทย และเริ่มส่งมอบให้แก่ลูกค้าชาวไทยไปแล้วนั้น ก็ผลิตจากสายการผลิตที่โรงงาน GWM จังหวัดระยอง เช่นเดียวกัน โดยมีพนักงานผู้มีความเชี่ยวชาญกว่า 1,100 คน ซึ่งปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานการผลิตระดับสากล พร้อมทั้งใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ (Local Content) ในสัดส่วนประมาณ 45-50 %
ในอนาคต GWM Thailand ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการบริหารจัดการซัพพลายเชน รวมถึงการบริหารจัดการอะไหล่สำหรับการบริการหลังการขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าทั่วทุกมุมโลกได้สามารถเข้าถึงยนตรกรรมอัจฉริยะในทุกรูปแบบพลังงานของ GWM ได้ง่ายขึ้น คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมรับประสบการณ์การเดินทางที่เหนือกว่าในทุกด้านอย่างแท้จริง
GWM Thailand เดินหน้าอย่างมั่นคง และต่อเนื่องในการผลิตรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกพลังงานในหลากหลายเซกเมนท์จากหลากหลายตระกูล ครอบคลุม Tank, Haval และ ORA เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย และส่งออกสู่ตลาดโลก และจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านดีไซจ์น สมรรถนะ และระบบขับเคลื่อนที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั่วโลก และส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่เวทีระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ
...............................................................................................................................
Honda แต่งตั้งประธานกรรมการบริหารและซีอีโอคนใหม่
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแต่งตั้ง โคจิ อิวานามิ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
โคจิ อิวานามิ มีความหลงใหลในรถยนต์มาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมศึกษา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์สูตรหนึ่ง หรือฟอร์มูลา วัน (Formula One) ที่ Honda (ฮอนดา) เป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เขาศึกษาต่อด้านวิศวกรรมเครื่องกล ด้วยเป้าหมายที่แน่วแน่ในการร่วมงานกับ Honda เพื่อสร้างสรรค์รถยนต์ในแบบที่เขาใฝ่ฝัน
ในปี 2546 โคจิ อิวานามิ เริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับ Honda ในตำแหน่งวิศวกรออกแบบระบบปรับอากาศ ณ Honda R&D ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนารถยนต์อย่างเต็มรูปแบบ เขาจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์รถยนต์ Honda รุ่นต่างๆ รวมถึงมีบทบาทเป็นผู้ช่วยหัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา Honda HR-V (ฮอนดา เอชอาร์-วี) ปี 2557 ที่เป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในระดับโลก และประเทศไทย จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างรอบด้าน จึงได้รับโอกาสก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนารถยนต์ โดยได้รับผิดชอบในกระบวนการพัฒนารถยนต์ ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ การวิจัย และพัฒนา การผลิต และการขาย
ด้วยผลงานที่สร้างคุณค่าให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โคจิ อิวานามิ จึงได้รับความไว้วางใจในการนำ Honda ไปสู่การเติบโตอีกขั้น โดยเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการหน่วยธุรกิจ ส่วนงานยานยนต์ Honda Motor และต่อมาได้รับโอกาสให้บริหารงานธุรกิจของ Honda ในต่างประเทศ โดยได้ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายธุรกิจ American Honda Motor ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง และเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของ Honda โดยดูแลทั้งด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ การวิจัย และพัฒนา และแผนการขายสำหรับรถยนต์รุ่นหลัก เริ่มจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ก่อนที่จะขยายไปดูแลเทคโนโลยียานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (BEV) และยังได้ขยายบทบาทการบริหารจัดการในการดูภาพรวมกลยุทธ์ทางธุรกิจตลอดจนการพัฒนาแบรนด์ทั่วตลาดสหรัฐอเมริกา
ด้วยประสบการณ์ที่แข็งแกร่งอย่างรอบด้าน ทั้งการวิจัย และพัฒนายานยนต์ การพัฒนาธุรกิจ และกลยุทธ์ โดยการเข้ารับตำแหน่งของ โคจิ อิวานามิ ในครั้งนี้ พร้อมที่จะผลักดัน และขับเคลื่อนคุณค่าหลักของ Honda ไปอีกขั้น เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ อีกทั้งมุ่งมั่นที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์ให้สร้างความผูกพันกับลูกค้า โดยทำให้ Honda กลายเป็นเพื่อนคู่ใจที่ลูกค้าไว้วางใจด้วยบริการหลังการขายที่อุ่นใจไร้กังวลในทุกเส้นทาง
ด้วยประสบการณ์ที่ครอบคลุมรอบด้านกว่า 20 ปี การเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและซีอีโอในครั้งนี้ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Honda โดยมี โคจิ อิวานามิ ที่พร้อมนำทัพ Honda สู่การแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่
โคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอของ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Honda คือ เพื่อนคู่ใจที่ไว้วางใจได้ในทุกเส้นทาง สร้างความผูกพันเชื่อมโยงกับลูกค้า ควบคู่ไปกับการส่งมอบยนตรกรรมอันยอดเยี่ยมที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจ และความมั่นใจ เพื่อก้าวสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ แห่งการขับเคลื่อน โดยเรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าในทุกทัชพอยท์ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่น และไว้วางใจได้ในผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขายของเรา ในขณะที่ก้าวเข้าสู่ยุคการขับเคลื่อนแห่งอนาคต เป้าหมายของผม คือ การยกระดับ และตอกย้ำความแข็งแกร่งของ Honda ในประเทศไทย เพื่อที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ และเหนือความคาดหมายของลูกค้าไปอีกขั้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความเชื่อมั่น และส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจตลอดการเป็นเจ้าของรถยนต์ Honda
ด้วยความรู้ และประสบการณ์ที่แข็งแกร่ง โคจิ อิวานามิ พร้อมนำ Honda ก้าวไปข้างหน้าโดยให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าระยะยาวแก่ลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ บริการที่ไร้รอยต่อ และความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับตัวแทนเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยยึดมั่นในคุณค่าหลักของแบรนด์โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน Honda ตั้งเป้าที่จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตยานยนต์ในประเทศไทย พร้อมเติบโตเคียงข้างคนไทยอย่างต่อเนื่อง และสานต่อพันธกิจในฐานะองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไปอย่างยั่งยืน
...............................................................................................................................
Mitsubishi เปิดศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยียานยนต์
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และวิทยาลัยเทคโนโลยีช่างกลพณิชยการนครราชสีมา (ช.พ.น.) จับมือเปิดศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยียานยนต์มิตซูบิชิ อย่างเป็นทางการ พร้อมมอบเครื่องยนต์ และชุดส่งกำลัง เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ และการฝึกอบรมด้านเทคนิค ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการศึกษา และพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ อีกทั้งการเสริมสร้างทักษะ และเตรียมความพร้อมให้นักเรียนสำหรับการทำงานจริงในอุตสาหกรรมยานยนต์
สาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ และบริษัท คำวาลุย ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ในสายงานยานยนต์ สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของเราในการมีส่วนร่วมส่งเสริมการศึกษาของไทยภายใต้วิสัยทัศน์ "สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย" โดยให้โอกาสนักเรียนเข้าถึงเทคโนโลยียานยนต์ที่ทันสมัย และการเรียนรู้เชิงปฏิบัติงานจริง เป้าหมายของเรา คือ การพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และสนับสนุนระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างยั่งยืน
ในโอกาสที่มีการเปิดศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยียานยนต์มิตซูบิชิ และการมอบเครื่องยนต์ ยังมีการฝึกอบรมภาคปฏิบัติจากผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษา และฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ และช่างเทคนิคจาก บริษัท คำวาลุย ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด โดยการฝึกอบรมครั้งนี้ มอบประสบการณ์ทำงานจริงให้นักเรียนได้สัมผัสเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัย ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ รหัส 4N16 รุ่นใหม่ที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นขุมพลังขับเคลื่อนใน New Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ทไรทัน) ใหม่ เครื่องยนต์ 4N15 ชุดเกียร์ธรรมดา รุ่น R6M5A เฟืองท้าย และชุดแรคพวงมาลัยเพาเวอร์
ผศ.ดร.ณัฐวัฒม์ วงษ์ชวลิตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ผู้จัดการ/ผู้ได้รับใบอนุญาต ช.พ.น. กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ และบริษัท คำวาลุย ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อนักเรียนของเรา ศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยียานยนต์มิตซูบิชิ และเครื่องยนต์ที่เราได้รับมอบจะช่วยให้นักเรียนได้รับประสบการณ์จริง และทักษะทางเทคนิคที่จำเป็น เพื่อความสำเร็จในการประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมยานยนต์ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะช่วยสร้างความพร้อมให้นักเรียนสามารถปรับตัวเข้ากับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ เพิ่มโอกาส และเส้นทางอาชีพของพวกเขา
จิระศักดิ์ พันธ์สายเชื้อ ประธานกรรมการ บริษัท คำวาลุย ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ในฐานะศูนย์บริการที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง การแข่งขันประเภทช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา จากการแข่งขันทักษะการบริการระดับโลกประจำปี 2024 ที่ประเทศญี่ปุ่น บริษัท คำวาลุย ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ให้ความสำคัญกับการเพิ่มทักษะทั้งของช่างเทคนิคของเรา และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนโครงการนี้ด้วยการจัดฝึกอบรมภาคปฏิบัติ และการแบ่งปันความรู้ เพื่อช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะที่มีคุณค่า การร่วมมือกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ไม่เพียงช่วยสนับสนุนภารกิจของวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์การทำงานจริงให้แก่นักเรียน พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของรถยนต์ และเทคโนโลยีของ Mitsubishi Motors
บริษัท คำวาลุย ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ยังจัดแสดงรถยนต์ Mitsubishi รุ่นใหม่ ได้แก่ Mitsubishi Xpander Cross HEV (มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ ครอสส์ เอชอีวี) Mitsubishi Pajaro Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท) รุ่นปี 2024 Mitsubishi Triton Athlete (มิตซูบิชิ ทไรทัน แอธลีท) ขับเคลื่อน 4 ล้อ และ Mitsubishi Attrage Smart (มิตซูบิชิ แอททราจ สมาร์ท) ซึ่งรถยนต์ทุกรุ่นพร้อมให้ผู้สนใจทดลองขับ และสัมผัสอย่างใกล้ชิด
โครงการมอบเครื่องยนต์ให้แก่สถาบันการศึกษา ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2558 สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ในการส่งเสริมการศึกษา และพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับปณิธานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการดำเนินกิจกรรม 3 ด้านหลัก ได้แก่ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
...............................................................................................................................
Shell Recharge ฉลองครบ 100 หัวชาร์จทั่วไทย
Shell Recharge ฉลองครบ 100 หัวชาร์จทั่วไทย พร้อมชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่สดชื่น และเต็มพลังในซัมเมอร์นี้ เพียงชาร์จครบ 250 บาท/ใบเสร็จ รับฟรีทันที…เครื่องดื่มขนาด 16 ออนซ์ 1 แก้วจาก Shell Cafe เลือกดื่มด่ำกับอเมริกาโนมะพร้าวเย็นชื่นใจ หรือจิบมัทฉะมะพร้าวหอมหวาน มูลค่า 70 บาท ชาร์จพลังรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมชาร์จความสดชื่นในทุกการเดินทางช่วงซัมเมอร์ มาร่วมฉลองกันได้แล้ววันนี้-31 พฤษภาคม 2568 ที่สถานี Shell Recharge ในปั๊ม Shell ทั่วประเทศ
ชคณาขวัญ วงศ์ชูศิริ รองกรรมการบริหารฝ่ายกลยุทธ์ และพัฒนาสถานีบริการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า Shell (เชลล์) มีความภูมิใจกับอีกก้าวของความสำเร็จ ในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Shell Recharge ครบ 100 หัวชาร์จทั่วไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Shell ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการจอง ชาร์จ และการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชันที่วางใจได้ มั่นใจทุกการชาร์จที่สถานีบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากเครื่องชาร์จสมรรถนะสูง 180-360 กิโลวัตต์ ควบคู่ไปกับการส่งมอบน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงจาก Shell เพื่อยกระดับทุกการเดินทางให้ปลอดภัย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ในโอกาสพิเศษนี้ Shell ขอมอบโปรโมชันต้อนรับซัมเมอร์ให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยเครื่องดื่มซิกเนเจอร์จาก Shell Cafe ที่เย็นฉ่ำ ช่วยคลายร้อนให้ทุกการเดินทาง สำหรับลูกค้าที่ชาร์จครบ 250 บาท/ใบเสร็จ ที่ Shell Recharge ในปั๊ม Shell กว่า 46 สถานีทั่วประเทศ รับฟรีเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ซัมเมอร์ คลายร้อนสูตรพิเศษ ขนาด 16 ออนซ์ มูลค่า 70 บาท มีให้เลือกถึง 2 เมนูสุดเอกซ์คลูซีฟ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาโนมะพร้าวที่ให้สัมผัสรสชาติกาแฟที่นุ่มละมุน หอมกรุ่น สกัดจากเมล็ดกาแฟ Arabica แท้ 100 % ผสานกับความหอมหวานของมะพร้าว หรือมัทฉะมะพร้าว ให้ได้ลิ้มรสมัทฉะเข้มข้นเกรดพรีเมียมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เติมความสดชื่นด้วยกลิ่นหอมของมะพร้าวแท้ ให้การเดินทางสู่ทุกจุดหมายเต็มไปด้วยความสดชื่น และมั่นใจไปกับ Shell Recharge เพียงจองใช้บริการง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชัน Recharge หรือ Reversharger
“Shell พร้อมเติมพลัง และมอบความสุขในทุกการเดินทางของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนนี้ เราตั้งใจคัดสรรเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ผสานความหอมของมะพร้าว ซึ่งเป็นผลไม้ไทยกับรสชาติเครื่องดื่มระดับพรีเมียม เพื่อดับกระหาย และเติมพลังให้ผู้ขับขี่รู้สึกสดชื่นตลอดการเดินทาง เราไม่เพียงแค่ส่งมอบพลังงานคุณภาพ แต่ยังใส่ใจในทุกรายละเอียด และมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ ณ สถานีบริการน้ำมัน Shell ทุกสาขา”
...............................................................................................................................
PTT Lubricants เปิดตัวน้ำมันเครื่อง Performa Super Synthetic
PTT Lubricants (พีทีที ลูบริแคนท์ส) ร่วมยกระดับคุณภาพน้ำมันหล่อลื่นไทยสู่มาตรฐานระดับโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “Performa Super Synthetic 0W-20” น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์เบนซินสังเคราะห์ 100 % ขั้นสูง ผ่านมาตรฐานล่าสุด API SQ และ ILSAC GF-7A จากสถาบัน The American Petroleum Institute (API) สหรัฐอเมริกา และยังได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ให้เป็นผลิตภัณฑ์รายแรกในประเทศไทยที่ผ่านมาตรฐานนี้ พร้อมตอบโจทย์เครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ รองรับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม EURO 5 Standard สอดรับพันธกิจด้านความยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนการลดมลพิษทางอากาศจากการใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นรูปธรรม
ไพศาล อุดมกุลวณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า PTT Lubricants มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมน้ำมันเครื่องคุณภาพสูง เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานระดับโลกอย่างแท้จริง โดยผลิตภัณฑ์ Performa Super Synthetic 0W-20 ได้รับการวิจัย และพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ ทั้งแบบ GDI, Turbo-GDI และเครื่องยนต์ที่ติดตั้งระบบกรองฝุ่นละออง GPF (Gasoline Particulate Filter) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษให้เป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐาน EURO 5 ตอบโจทย์ผู้ใช้รถในยุคที่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจสำคัญ
นอกจากนี้ Performa Super Synthetic 0W-20 ยังเป็นน้ำมันเครื่องที่ช่วยปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถลดปัญหา LSPI หรือการจุดระเบิดก่อนเวลา ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสียหายในเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น อีกหนึ่งจุดเด่นของน้ำมันเครื่องสูตรนี้ คือ ความสามารถในการลดการสึกหรอของโซ่ราวลิ้นได้มากถึง 20 % ตามมาตรฐาน API SQ/ILSAC GF-7A ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่เน้นเรื่องประสิทธิภาพ และสิ่งแวดล้อม การลดการสึกหรอในส่วนนี้ช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ ทำงานได้นุ่มนวล และมีความทนทานมากยิ่งขึ้น ในด้านการประหยัดพลังงาน น้ำมันเครื่อง Performa Super Synthetic 0W-20 มีค่าความหนืดต่ำ และเทคโนโลยีการหล่อลื่นขั้นสูง ช่วยลดแรงต้านในระบบเครื่องยนต์ ทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นถึง 16 % ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางในระยะยาว และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
PTT Lubricants เดินหน้ายกระดับคุณภาพน้ำมันหล่อลื่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค Performa Super Synthetic 0W-20 มาตรฐาน API SQ/ILSAC GF-7A พร้อมจำหน่ายเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto 10 สาขาแรกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล* ในวันที่ 23 เมษายน 2568 เป็นต้นไป และเตรียมพบกับการวางจำหน่ายสาขาอื่นๆ และร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศเร็วๆ นี้
*FIT Auto สาขาสนามเป้า, กาญจนาภิเษก-ตลิ่งชัน, เดอะ คริสตัล พีทีที (ชัยพฤกษ์), กล้วยน้ำไท, ประชาอุทิศ-ลาดพร้าว, แยกปทุมธานี 1, ศรีนครินทร์-บางเมือง, วิภาวดี, นครอินทร์ และวิภาวดี 62
