แล่นไปในสายน้ำ
SUNSEEKER SUPERHAWK 55
ยาว 56 ฟุต 10 นิ้ว (17.32 ม.) กว้าง 16 ฟุต 1 นิ้ว (4.90 ม.) เครื่องยนต์ เครื่องยนต์คู่ VOLVO PENTA IPS-950 725 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 38 นอท ราคา เริ่มต้น 1.425 ล้านปอนด์ ไม่รวม VAT ติดต่อ www.sunseeker.com
SUNSEEKER SUPERHAWK 55 (ซันซีเคอร์ ซูเพอร์ฮอว์ค 55) เป็นเรือลำเล็กที่สุดของ DUSSELDORF (ดัสเซลดอร์ฟ) หน้าต่างยาวลาดเอียงด้านข้างเรือ และด้านบน ทำให้มันเป็นเรือเปิดประทุนที่ดูมีมิติอย่างน่าอัศจรรย์ เนื่องจากหน้าต่างด้านบนติดตั้งในระดับสายตา ทัศนียภาพเหนือทางเดินจากห้องโดยสารชั้นล่างจึงดีมาก รวมถึงมีแสงส่องด้านล่างสว่างเป็นพิเศษ
SUNSEEKER จัดวางดาดฟ้าหลักไว้รอบพวงมาลัย มีบาร์ผสมเครื่องดื่มภายในพื้นที่คนขับ บริเวณขอบด้านหลังที่นั่งทั้ง 3 ตรงพวงมาลัย เมื่อเชื่อมกับทางเดินด้านข้างผ่านประตูขนาดเล็ก 2 ฝั่งของพวงมาลัย ทำให้ส่วนคนขับด้านหลังมีพื้นที่ใช้สอยกว้าง ลึก อีกทั้งใช้เฟอร์นิเจอร์แบบปรับแต่งได้
คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับที่นั่งด้านหลังที่หันหน้าไปทางท้ายเรือ ตรงส่วนหน้าของห้องคนขับ พร้อมทางเดินกลางอันกว้างขวางนำไปสู่บาร์ผสมเครื่องดื่ม หรือเพียงกดปุ่มก็สามารถเลื่อนที่นั่งทั้ง 2 เข้าด้านใน เพื่อสร้างพื้นที่รับประทานอาหารตรงกลาง พร้อมกับมีพื้นที่รอบๆ ให้เดินผ่านไป/มาได้ทั้ง 2 ฝั่ง
นอกจากนี้ ยังมีตัวทีวีแบบปรับขึ้น/ลงได้ ติดตั้งไว้บริเวณด้านหน้าบาร์ผสมเครื่องดื่ม รวมถึงเบาะอาบแดดท้ายเรือ พร้อมช่องเก็บของในตัวสำหรับใส่ของเล่นทางน้ำต่างๆ และโรงเก็บเรือที่ใช้งานรวดเร็ว รองรับเรือเล็กอย่าง WILLIAMS MINIJET (วิลเลียมส์ มีนีเจท) ได้
ชั้นล่างมีห้องโดยสาร 2 ห้อง เน้นความสว่าง และอเนกประสงค์ ห้องโดยสารด้านหน้ามีห้องน้ำในตัว ห้องโดยสารบริเวณท้ายเรือมาพร้อมตัวเลือกเตียงเลื่อน ทั้งแบบเตียงใหญ่ และเตียงคู่ พร้อมห้องอาบน้ำ และห้องสุขา ระหว่างทั้ง 2 ห้องเป็นเลาน์จ์ส่วนกลางแบบเปิดสุดหรูหรา มีพื้นที่ให้นั่งเล่นตรงกราบขวา และครัวตรงกราบซ้าย พร้อมดาวน์ไลท์แบบฝังเพดาน และทีวีปรับขึ้น/ลงได้อีก 1 ตัว เหนือพื้นที่ส่วนครัว
เครื่องยนต์ VOLVO PENTA D11 IPS950 กำลัง 725 แรงม้า/1 เครื่อง ความเร็วสูงสุดประมาณ 38 นอท ควบคุมทิศทางด้วยจอยสติค
PRINCESS S72
ยาว 74 ฟุต 9 นิ้ว (23.09 ม.) กว้าง 17 ฟุต 11 นิ้ว (5.45 ม.) เครื่องยนต์ เครื่องยนต์คู่ MAN V12 (1,650-1,800 แรงม้า) ความเร็วสูงสุด 36 นอท ราคา ยังไม่ประกาศ ติดต่อ www.princessyachts.com
PRINCESS (พรินเซสส์) เปิดตัว S72 (เอส 72) ลำใหม่ ในฐานะที่เป็นเรือยอชท์ S CLASS (เอส คลาสส์) ติดตั้ง SPORTBRIDGE ขนาดใหญ่ ห้องโถงชั้นเดียวที่สว่างไสวของ S72 มีเลาน์จ์อยู่บริเวณด้านหลังพวงมาลัย 2 ที่นั่ง และพื้นที่รับประทานอาหารด้านหลังอยู่ตรงข้ามกับห้องครัวที่กราบขวา ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวที่ไม่มีอะไรมาบังผ่านหน้าต่างระดับต่ำ และเนื่องจาก SPORTBRIDGE อยู่ด้านหลัง ส่งผลให้มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่ด้านบนของโซนหน้าห้องโถง
ส่วนชั้นล่าง มีห้องโดยสารหลักพร้อมบันไดส่วนตัว และห้องน้ำในตัวที่กว้างขวาง รวมถึงห้องที่มีเตียงใหญ่อีกห้องบริเวณหัวเรือ ห้องโดยสารเล็กแบบคู่ พร้อมห้องน้ำแบบใช้ทางเข้าร่วมกัน มันเป็นเรือที่มีความเป็นสปอร์ท ตัวถังรูปทรงตัว V เครื่องยนต์ MAN V12 กำลัง 1,800 แรงม้า แบบคู่ ความเร็ว 36 นอท การขับขี่ราบรื่น โทนสีกลางๆ วัสดุธรรมชาติ ลวดลายไม่ซับซ้อน การตกแต่งเรียบง่าย ทำให้ S72 เข้าใกล้ความเป็นเรือยอชท์สุดหรูมาก
PRINCESS Y85
ยาว 86 ฟุต (26.20 ม.) กว้าง 20 ฟุต 7 นิ้ว (6.26 ม.) เครื่องยนต์ เครื่องยนต์คู่ MAN V12-1900 ดีเซล ความเร็วสูงสุด 31 นอท ราคา ยังไม่ประกาศ ติดต่อ www.princessyachts.com
Y85 (วาย 85) ลำล่าสุดจาก PRINCESS แสดงความแข็งแกร่งของ Y CLASS (วาย คลาสส์) คลาสสิค โถงดาดฟ้าหลักมีพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะอาหารกลมสำหรับ 8 ที่ ห้องน้ำซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ดาดฟ้าเรือด้านข้างเข้าถึงได้ง่ายผ่านทางหางเสือ ห้องครัวบริเวณด้านหน้า ทำให้ลูกเรือสามารถเดินผ่านไป/มาได้โดยไม่รบกวนผู้โดยสาร ม่านในห้องครัวยังช่วยให้พื้นที่พักผ่อนเป็นส่วนตัวมากขึ้น ชั้นล่างมีพื้นที่มากมายสำหรับห้องโดยสาร 4 ห้อง แต่ละห้องได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติ ดาดฟ้าด้านบนกว้างออกไปทางท้ายเรือ เพื่อได้พื้นที่กว้างเท่าตัวเรือ เช่นเดียวกับส่วนคนขับด้านล่าง มีพื้นที่นั่งเล่นทางกราบซ้าย และด้านบนสามารถสังสรรค์ได้เป็นอย่างดี มีที่นั่งคู่ และคอนโซลกลาง ล้อมรอบด้วยที่นั่งเลาน์จ์ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่รับประทานอาหารขนาดใหญ่ และบาร์ผสมเครื่องดื่มพร้อมอุปกรณ์ครบครัน อยู่ด้านล่างของหลังคาฮาร์ดทอพเปิดประทุนที่เป็นตัวเลือกเสริม มีพื้นที่สำหรับวางเบาะอาบแดดที่กราบซ้าย และดาดฟ้าท้ายเรือเปิดโล่งขนาดใหญ่
พลังของรุ่น 10
V10 VERADO (วี 10 เวอราโด) 400 แรงม้า รุ่นใหม่ของ MERCURY (เมอร์คิวรี) เป็นเครื่องยนต์ 10 สูบ เครื่องแรกของโลก
ทุกครั้งที่เรากำลังคิดว่า การออกแบบเครื่องยนต์เรือนั้นมาถึงขีดสุดแล้ว ก็จะมีใครบางคนที่ดันเพดานขึ้นไปอีกเสมอ ตอนแรกเป็นเครื่อง V8 กำลัง 425 แรงม้า ของ YAMAHA (ยามาฮา) จากนั้น MERCURY ก็ดันเพดานไปด้วยเครื่อง V12 ขนาด 7.6 ลิตร ที่ 600 แรงม้า ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะทำได้อีกครั้งด้วยเครื่องที่มีกำลังน้อยกว่า แต่แปลกใหม่อย่างเครื่อง V10 กำลัง 400 แรงม้า เราได้เห็นผ่านตามาบ้างแล้ว หลังจากที่เปิดตัวเครื่อง V6 กำลัง 175-225 แรงม้า เครื่อง V8 กำลัง 250-300 แรงม้า และเครื่อง V12 กำลัง 500-600 แรงม้า นั่นเป็นช่วงก่อนที่ MERCURY จะมาถมช่องว่างด้วยเครื่องยนต์ 350 และ 400 แรงม้า ตัวใหม่ล่าสุด ทว่ายังไม่ได้คาดการณ์เรื่องการมาของเครื่อง V10 ไม่เพียงแค่ไม่เคยมีใครกล้าผลิตเครื่องยนต์ V10 มาก่อน แต่มันเป็นความจริงที่ว่ามีผู้ผลิตเครื่องยนต์ไม่กี่รายในวงการที่กังวลกับการตั้งค่าเครื่องยนต์ที่หาได้ยากเช่นนี้ นอกเหนือจากรถแข่งไม่กี่คัน และรถยนต์กำลังสูงอย่าง AUDI (เอาดี), BMW (บีเอมดับเบิลยู) และ LAMBORGHINI (ลัมโบร์กินี) เท่านั้น นั่นเลยทำให้เครื่องยนต์ V10 นั้นหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แล้วเหตุใด MERCURY ถึงเลือกเส้นทางนี้ และอะไรที่ทำให้มันพิเศษนักหนา ?
เวทมนตร์โมดูลาร์
คำตอบง่ายๆ เลยก็คือ โมดูลาร์ และการประหยัดงบจากขนาดที่ได้จากมัน โดยพื้นฐานแล้ว เครื่องยนต์ V6, V8 และ V10 VERADO ล้วนมีการออกแบบด้วยโมดูลาร์แบบเดียวกัน โดยเริ่มจากมุมแคบ 64 องศา ระหว่างทั้ง 2 ด้านของกระบอกสูบ ซึ่งจะช่วยให้หัวจ่ายกำลังบางลงกว่ามุมเอียงที่ 90 องศาแบบทั่วไป ที่จะพบได้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่ นั่นหมายความว่า แม้แต่เครื่อง V10 ที่มีขนาดใหญ่ก็ยังสามารถเว้นระยะเพียง 26 นิ้ว ได้ในการติดตั้งเครื่องยนต์แบบหลายตัว นอกจากนี้ ยังช่วยให้มันสามารถใช้อะไหล่แบบเดียวกันได้เป็นจำนวนมากด้วย เครื่อง V10 มีการวัดระยะกระบอกสูบ และระยะชักเท่ากันทุกประการกับเครื่อง V6 และ V8 (92x86 มม.) ทำให้พวกมันสามารถอยู่ในไลน์การผลิตเดียวกัน และติดตั้งลูกสูบแบบเดียวกันได้
มันอาจฟังดูเหมือนการประหยัดงบประมาณ แต่ว่าให้ประโยชน์ที่แท้จริงกับผู้ใช้งาน ด้วยขนาดกระบอกสูบแบบสั้น และความจุขนาดใหญ่ที่ 5.7 ลิตร ได้รับการกล่าวขานว่า ให้แรงบิดในระดับแนวหน้าในการเร่งความเร็วแบบครั้งเดียว ตามเคยว่า MERCURY จะไม่ให้ค่าแรงบิดที่แม่นยำมา แต่การเปลี่ยนบลอคขนาดใหญ่ และอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่น่าประทับใจ (400 แรงม้า:316 กก.) ในขณะที่ช่วงรอบเครื่องกว้างถึง 6,400 รตน. นั้นก็เหมาะกับทุกอย่าง ตั้งแต่ห้องคนขับยันเรือยางเทพๆ สักลำ แต่ที่สำคัญมากไปกว่ากำลังทั้งหมด นั่นคือ การปรับแต่งใหม่ของเครื่อง V10
การประหยัดเชื้อเพลิง จนถึงตอนนี้ ช่องว่างระหว่างเครื่อง V8 กำลัง 300 แรงม้า และเครื่อง V12 กำลัง 600 แรงม้า ถูกเติมเต็มด้วยเครื่องยนต์ L6 ขนาด 2.6 ลิตร 6 สูบ รุ่นก่อนที่ได้รับการเพิ่มกำลังด้วย SUPERCHARGED ขนาด 350 และ 400 แรงม้า ผลที่ได้ต้องแลกด้วยเสียงกลไกดังสนั่น และการเผาผลาญเชื้อเพลิงมหาศาล ในทางกลับกัน เครื่อง V10 ตัวใหม่ เป็นเครื่องยนต์ประจุอากาศด้วยตัวเองแบบ QUAD-CAM ไม่ต้องใช้ตัวช่วยอื่นๆ ในการส่งกำลัง
MERCURY กล่าวว่า เครื่อง V10 รุ่นใหม่เงียบกว่าคู่แข่งถึง 56 % ขณะเร่งเต็มที่ แม้ตัวเลือกการควบคุมเสียงขั้นสูงจะช่วยให้เจ้าของเรือสามารถสตาร์ทเครื่องได้กระหึ่มขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านแตกตื่น และเลือกลดเสียงได้เมื่อไม่มีการใช้งาน
พลัง และการควบคุม
กระปุกเกียร์ใหม่ทั้งหมด และใบพัดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่อย่าง REVOLUTION-X พร้อมใบพัดที่กว้างกว่าปกติ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากแรงบิดของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ได้เต็มที่ในการควบคุมพวงมาลัยที่ความเร็วต่ำ การเร่ง และอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิง ตลอดจนสามารถใช้งานได้ในระยะยาว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานได้กับระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าตัวใหม่ของ MERCURY ที่ใช้สำหรับการติดตั้งเครื่องยนต์ด้านนอกแบบหลายเครื่อง ระบบได้มอบการตอบสนองที่ดี การควบคุมที่ง่ายขึ้น รวมถึงการใช้งานด้วยจอยสติค
สิ่งที่คุ้มอีกอย่าง คือ เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับที่ให้กำลังไฟสูงสุดถึง 150 แอมพ์ เพื่อป้อนไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่กินไฟสูง เช่น เครื่องปรับอากาศ และเครื่องรักษาความเสถียรของเรือ รวมถึงการชาร์จเร็วสำหรับแบทเตอรีบ้าน และแบทเตอรีสำหรับสตาร์ท ตรงส่วนนี้สามารถอัพเกรดเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 48 โวลท์/12 โวลท์ ที่จับคู่กับระบบ LITHIUM-ION FATHOM E-POWER ใหม่ของ NAVICO เพื่อลบความจำเป็นในการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าบนเรือออกไป
MERCURY V10 VERADO
ความเร็ว : 350 และ 400 แรงม้า
รตน. : 5,800-6,400 รตน.
ความจุน้ำมัน : 5.7 ลิตร
กระบอกสูบ : 10 สูบ
ความกว้างกระบอกสูบxระยะชัก : 92x86 มม.
น้ำหนัก : 316 กก.
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า : 12V/150A, 48V/150A
อัตราส่วนเกียร์ : 2.08:1
น้ำมัน : 87 OCTANE
ความยาวของเพลา : 20, 25, 30, 35 นิ้ว
การซ่อมบำรุง : ทุกปี หรือทุก 100 ชม. ที่มีการใช้งาน
TIM REID รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ และวิศวกรรมของ MERCURY กล่าวว่า “เราได้ท้าทายทีมวิศวกรของเราในการปรับปรุงอัตราเร่ง และประสิทธิภาพโดยรวมด้วยเครื่องยนต์ V10 VERADO รุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็สามารถทำให้มันเงียบ และเบากว่าเรือคู่แข่งลำอื่นในช่วงแรงม้าเดียวกันด้วย เป็นอีกครั้งที่พวกเขาทำได้เกินความคาดหมาย ในขณะเดียวกันก็สามารถรวมเอาเทคโนโลยีที่ทำให้การควบคุมเรือ และการบำรุงรักษานั้นเป็นเรื่องง่าย”
การบำรุงรักษา
ช่วงระยะการตรวจเชค และซ่อมแซมแบบระยะสั้นจะอยู่ที่ 100 ชม. ส่วนระยะตรวจเชคครั้งใหญ่จะอยู่ที่ 300 ชม. ซึ่งเหมือนกับเครื่องยนต์ L6 ปัจจุบัน ขณะที่เครื่องยนต์ V10 ทั้ง 350 และ 400 แรงม้า มีความยาวของเพลาให้เลือกหลายขนาด
ทดสอบวิธีเตรียมเรือให้พร้อม
ขั้นตอนเหล่านี้ คือ สิ่งที่ต้องดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า เรือของคุณจะอยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยมตลอดเวลา
JON MENDEZ ดูเพิ่มเติมได้ที่ mby.com/howto
หน้าหนาวอาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการใช้งานเรือของคุณ แต่ก็อาจเป็นโอกาสที่จะให้มันได้พักผ่อนสัก 2-3 เดือน และทำกิจกรรมอื่นๆ แทน ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหนก็ตาม ขั้นตอนเหล่านี้ คือ วิธีที่จะช่วยให้แน่ใจได้ว่า เรือของคุณจะกลับมาใช้งานได้ดีเช่นเดิมในการออกเรือครั้งหน้า
ภายนอก
ไม่ว่าจะจอด หรือใช้งาน ภายนอกเรือจะต้องได้รับการทำความสะอาด และป้องกันจากลม ฝน หิมะ รอให้ถึงวันที่แดดออกเพื่อล้างคราบเหล่านั้น เคลือบเงาเพื่อป้องกันวัสดุน้ำหนักเบา แข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก (GRP) และสเตนเลสส์ เช่นเดียวกับส่วนของหลังคาที่ต้องเคลือบสารกันน้ำให้มากขึ้นเพื่อกันฝน หากคุณไม่ต้องการที่จะออกเรือในช่วงหน้าหนาว ให้ลองลงทุนซื้อผ้าคลุมเรือแบบเต็มลำ และหากจะจอดเรือทิ้งไว้ก็ให้เพิ่มเชือกขึงให้มากเป็นพิเศษ รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์ป้องกันการเสียดสี
ภายใน
เบาะ และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องคนขับมีแนวโน้มจะอับชื้นในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นเราแนะนำให้ใช้เครื่องลดความชื้นเพื่อไล่ความชื้นจากอากาศ และเพิ่มความอบอุ่นสักเล็กน้อย เปิดประตูห้องโดยสาร และห้องน้ำทิ้งไว้ พยายามยกสูงเพื่อให้มันสามารถระบายน้ำได้เอง หากไม่มีไฟฟ้า เราแนะนำให้ใช้ตัวดัก และถุงดูดความชื้นแบบไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ถึงแม้จะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม
การระบายอากาศ ช่วยป้องกันการเกิดน้ำค้างได้ ดังนั้น พยายามเน้นให้มีอากาศถ่ายเทผ่านพื้นที่ปิดบนเรือ หรือเปิดหน้าต่าง และช่องแสงที่ถูกลอคทิ้งไว้ เบาะรองนั่ง และฟูก ก็ควรต้องวางตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศรอบๆ ให้มากขึ้นด้วย
หากเรือของคุณมีเครื่องปรับอากาศ นั่นหมายความว่า มันอาจมีโหมดลดความชื้นในช่วงฤดูหนาวให้มาด้วย ถ้าหากไม่มี ให้วางเครื่องทำความร้อนแบบท่อไว้ตามจุดที่สำคัญต่างๆ แนะนำให้เป็นเครื่องทำความร้อนแบบที่มีปรอทวัดอุณหภูมิในตัว เครื่องเหล่านี้สามารถขจัดความหนาวเย็นออกไปได้โดยไม่กินพลังงานมากจน
เกินไป
ระบบน้ำจืดจำเป็นต้องระบายออกให้หมด โดยเฉพาะเมื่อเรือถูกยกขึ้นจอดบนบกที่มีอุณหภูมิลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง มันสามารถทำให้ท่อ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีน้ำขังอยู่นั้นแตกได้ หรือหากเรือลอยลำทิ้งไว้ก็อาจตั้งค่าระบบให้อยู่ในระดับต่ำสุดเพื่อป้องกันน้ำขังระหว่างช่วงฤดูหนาว และทำความสะอาดด้วยอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หากเรือของคุณเป็นสุขาแบบราดน้ำ ให้เทน้ำมันพืชจำนวน 50 มล. ลงไปในโถเพื่อหล่อลื่นซีล
ห้องเครื่อง
หากเรือลอยลำอยู่ ห้องเครื่องก็ไม่น่าจะเป็นน้ำแข็ง เว้นแต่ว่ามันเย็นมากจริงๆ ตามที่ได้กล่าวไว้ว่า การเตรียมการที่เหมาะสมก็คือ การติดตั้งเครื่องทำความร้อนแบบท่อ ส่วนเรือที่ขับเคลื่อนด้วยเพลาให้ตรวจสอบกล่องว่าไม่มีการรั่วซึมใดๆ หากเป็นเครื่องยนต์ภายนอกให้ปรับตัวเรือไม่ให้เอียงตามลูกคลื่น และป้องกันไม่ให้ตัวเพรียงเกาะ
เจ้าของเรือบางท่านชอบนำผ้าปูที่นอนเก่าๆ คลุมเครื่องยนต์ไว้เพื่อให้มันอุ่น แต่ถ้าจะทำอย่างนั้นอย่าลืมเขียนโนทแผ่นใหญ่ๆ แปะไว้ด้วย เพราะเคยมีเรือลำหนึ่งไฟไหม้เนื่องจากสตาร์ทเรือโดยไม่เอาผ้าคลุมออก
หากนำเรือขึ้นจอดเก็บบนฝั่ง ให้ทำความสะอาดเครื่องยนต์โดยใช้น้ำมันทาทุกชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวทั้งหมด ถ้าเป็นไปได้ให้ปิดรูเครื่องยนต์เพื่อลดอากาศเย็นที่เข้าไป และถอดสายพาน รวมถึงใบพัดออก เพื่อป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนเหล่านี้แข็ง ก่อนที่จะทำทั้งหมดนั่น ให้เติมสารลดการแข็งตัวลงในระบบหล่อเย็นน้ำทะเลไว้ด้วย อย่าพึ่งพาเครื่องทำความร้อนเพียงอย่างเดียว หากไฟฟ้าเกิดดับ คุณจะต้องเสียค่าซ่อมแพงมาก
ขั้นตอนสุดท้าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบทเตอรีมีการเชื่อมต่อกับเครื่องชาร์จไฟอัตโนมัติ หรือหากเรือมีปัญหาให้ถอดแบทเตอรีออก และนำไปชาร์จไฟไว้ที่บ้านแทน
เชื้อเพลิง
เรือที่ใช้น้ำมัน ให้น้ำมันค้างในถังน้อยที่สุด เติมน้ำยารักษาสภาพน้ำมันลงไป และเดินเครื่องเพื่อให้น้ำยาเข้าไปในระบบ ถ้าเป็นเรือเครื่องยนต์ดีเซล ให้หาน้ำมันดีเซลที่มีค่าปริมาณของไบโอดีเซลต่ำ (ต่ำกว่า 7 % ของน้ำมันดีเซล B7) มาเติมลงในถัง และเหลือที่ว่างไว้เล็กน้อยสำหรับการขยายตัว วิธีนี้จะลดการควบแน่นที่บริเวณด้านข้างของถัง และลดความเสี่ยงของการเกิดเชื้อราในน้ำมันดีเซล หากคุณไม่สามารถหาน้ำมันดีเซลที่ไม่มีไบโอดีเซลได้ ให้เหลือน้ำมันค้างในถังให้ร้อนที่สุดเช่นกัน เนื่องจากไบโอดีเซลสามารถดึงดูดน้ำเข้าภายในถังได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม อย่าลืมเติมสารป้องกันเชื้อราในน้ำมันดีเซลลงไปเพื่อความชัวร์ ขั้นตอนสุดท้าย ให้ถอด หรือคลุมเครื่องยนต์ที่ติดตั้งบริเวณท้ายเรือ เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เหล่านั้นจมน้ำ ขึงเรือให้ตึง และจัดเก็บ หรือถอดเครื่องยนต์ไปเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อป้องกันโจรฉวยโอกาส รวมถึงไม่ให้เครื่องเป็นน้ำแข็งด้วย
1. เตรียมการภายนอก ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ภายนอกของเรือนั้นสะอาด เงา เพื่อป้องกันเรือจากลม ฝน และสารปนเปื้อนต่างๆ หากเรือจอดอยู่ในน้ำผ่านช่วงฤดูหนาว ให้ใช้เชือกผูกเพิ่ม ทาสารป้องกันการเสียดสีเพื่อป้องกันเชือก และ GELCOAT ของเรือ
2. คลุมผ้า อาจใช้ผ้าคลุมกันหนาวสำหรับตัวเรือ เพื่อป้องกันส่วนที่เปราะบางของเรือ และยืดอายุการใช้งานของผ้าคลุมจากช่วงฤดูร้อน ถ้าใช้ผ้าคลุมแบบธรรมดา แนะนำให้ทาสารเคลือบกันน้ำเพื่อช่วยให้คงคุณสมบัติการกันน้ำเอาไว้ให้นานที่สุด
3. กันชื้น ยกเบาะรองนั่งตั้งขึ้นเพื่อตากให้แห้ง และให้น้ำไหลออก หรือถ้าคุณมีเครื่องลดความชื้น ให้วางเครื่องไว้ด้านล่าง เพื่อทำให้เบาะแห้งจริงๆ ควรติดตั้งเครื่องลดความชื้นดีๆ สักเครื่องไว้ที่อ่างล้างจาน เพื่อช่วยให้ภายในอ่างนั้นแห้ง และกันเชื้อรา
4. ดูแลห้องน้ำ ระบบน้ำสะอาด และห้องน้ำจะต้องถูกระบายน้ำออกให้หมด เพราะอาจมีโอกาสที่น้ำภายในจะเป็นน้ำแข็งได้ นอกจากนี้ ควรแง้มหน้าต่างด้านบนทิ้งไว้เล็กน้อยเพื่อระบายอากาศ เพราะหากไม่มีอากาศไหลเวียน ห้องน้ำอาจเกิดเชื้อราได้
5. ดูแลถังน้ำมันให้สะอาด เติมน้ำมันให้เต็มด้วยน้ำมันที่ไม่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล หรือปล่อยให้ถังน้ำมันเหลือน้อยที่สุด แต่เติมสารป้องกันเชื้อราลงไป ปรับตัวเรือไม่ให้เอียงตามลูกคลื่น และป้องกันตัวเพรียงมาเกาะที่ตัวถังเรือ ซึ่งอาจทำให้ซีลเรือเสียหาย
6. เก็บเรือยางให้เรียบร้อย เรือยางอาจเป็นที่สะสมของขยะ ดังนั้นควรเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนนำเรือยางออก ขั้นตอนสุดท้าย คลุมเรือให้เรียบร้อย หรือเอาลมออก และนำออกไปเพื่อป้องกันน้ำเข้า
ABOUT THE AUTHOR
M
MOTOR BOAT
ภาพโดย : MOTOR BOATนิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2566
คอลัมน์ Online : แล่นไปในสายน้ำ