ชีวิตอิสระ
ซาปา เมืองในสายหมอก กับยอดเขาฟานซีปัน
“ชีวิตอิสระ” ฉบับนี้ เราลัดฟ้าข้ามประเทศไปถึงเวียดนาม ลุยกับ FORD (ฟอร์ด) เจเนอเรชันใหม่ ก่อนขึ้นสู่ยอดเขาฟานซีปัน ที่ได้รับฉายาว่าเป็น "หลังคาแห่งอินโดจีน" ด้วยความสูงกว่า 3,000 ม. เหนือระดับน้ำทะเล
สัมผัสประสบการณ์อีกระดับ กับ FORD NEXT LEVEL
ทริพ FORD NEXT LEVEL EXPERIENCE ณ เมือง SAPA (ซาปา) เมืองในสายหมอกของประเทศเวียดนาม สัมผัสประสบการณ์การขับขี่กับ FORD รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 210 แรงม้า และแรงบิด 51.0 กก.-ม. พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4 ที่มีตัวเลือกโหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด มาพร้อมเทคโนโลยีระบบช่วยจอดอัจฉริยะ FORD RANGER STORMTRAK (ฟอร์ด เรนเจอร์ สตอร์มทแรค) ที่มาพร้อมราวหลังคา และสปอร์ทบาร์แบบปรับได้ถึง 5 ตำแหน่งด้วยมือเดียว FORD EVEREST WILDTRAK (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไวลด์ทแรค) ราวหลังคาแบบยกสูง
FORD RANGER RAPTOR (ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์) กับโหมดการขับขี่ที่มีมากถึง 7 โหมด ประกอบด้วย โหมดปกติ โหมดสปอร์ท โหมดถนนลื่น สำหรับทางเรียบ และโหมดการขับขี่แบบออฟโรดอย่าง โหมดหิน โหมดทราย โหมดโคลน และโหมดบาฮา รวมถึงการใช้ฟังค์ชัน TRAIL CONTROL ทำให้ผู้ขับขี่ผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากไปได้อย่างง่ายดาย
วันแรก ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 07.45 น. ถึงสนามบินนานาชาติ NOI BAI (โหน่ยบ่าย) หรือ NOI BAI INTERNATIONAL AIRPORT เมือง HANOI (ฮานอย) ประเทศเวียดนาม เวลา 09.35 น. (เวียดนามใช้เวลาเดียวกับบ้านเรา)
PHU THO เมืองหลักในประวัติศาสตร์
PHU THO (ฟูทอ) เป็นเมืองหลักประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้สืบย้อนไปถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช ตั้งอยู่ห่างจาก HANOI เป็นระยะทาง 80 กม. และห่างจากสนามบินนานาชาติ NOI BAI ประมาณ 50 กม.
ชาวคณะแวะเข้าเมือง PHU THO เพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม MOUNG THANH LUXURY PHU THO (มวง แทง ลักชัวรี ฟูทอ)
ใกล้ๆ กันมี VINCOM PLAZA และ WINMART เป็นห้างใหญ่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรม MOUNG THANH LUXURY PHU THO ในบริเวณ HUNG VUONG SQUARE ใจกลางเมือง PHU THO
อาหารมื้อแรกที่เวียดนาม แนะนำเมนูไข่ม้วน ตัดแบ่งเป็นชิ้น รสชาติคุ้นลิ้น ตึกแถวในย่านนั้นใช้เป็นที่อยู่อาศัย และร้านค้า ไม่คึกคักเหมือนเมืองใหญ่ รถยนต์ที่ใช้ส่วนหนึ่งก็จะเป็น VINFAST (วินฟาสต์) รถของเวียดนามเอง
VUA DEP LOP รองเท้าแตะยางรถในตำนาน
VUA DEP LOP หรือ KING OF SANDALS หรือราชาแห่งรองเท้าแตะ เป็นรองเท้าแตะยางรถในตำนาน เริ่มทำมาตั้งแต่ 1947 หรือ 76 ปี เวียดนามแฮนด์เมดจากยุคสงคราม ผลิตรองเท้าแตะที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุคสงคราม เป็นรองเท้ารีไซเคิลจากยางรถบรรทุกของกองทัพ และยางล้อเครื่องบิน กลายเป็นของใช้ และแฟชันที่หลายคนใส่ตามลุงโฮ “โฮจิมินห์” เป็นอีกหนึ่งในสินค้าแนะนำ นอกเหนือจากผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และสุรา ยาดอง
แยกจากไฮเวย์ถนนสายหลักเข้าถนนสายรองที่เป็นเส้นทางไปยังเมือง SAPA ผ่านช่องเขาตลอดเส้นทางจะเป็นทางโค้งสลับซ้าย/ขวาที่ใช้ความเร็วได้ไม่มาก
17.30 น. ถึงเมือง SAPA เชคอินที่ PAO’S SAPA LEISURE HOTEL (เปาส์ ซาปา เลซูร์ โฮเทล)
SAPA เป็นเมืองเล็กๆ ที่รายล้อมด้วยหุบเขา ตั้งอยู่ในเขตจังหวัด LAO CAI (หล่าวกาย) ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ติดกับชายแดนประเทศจีน มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และสวยงามตลอดทั้งปี ในอดีต SAPA เป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในเวียดนาม
LAO CAI เคยตกอยู่ในอำนาจยึดครองของฝรั่งเศส สถาปัตยกรรม และการวางผังเมืองของที่นี่ จึงมีลักษณะแบบอาณานิคมฝรั่งเศส (FRENCH COLONIAL) นอกจากตึกรามบ้านช่องที่มีการออกแบบสวยงามแล้ว เมืองนี้ยังมีทะเลสาบตั้งอยู่ใจกลางเมืองอีกด้วย
คนท้องถิ่น SAPA มีหลากหลายชนเผ่า ส่วนใหญ่เป็นชาวม้ง รองลงมา คือ ชาวเย้า และตามด้วยชาวญวน ชาวไต และชาวซั้ย คนส่วนมากสื่อสารด้วยภาษาเวียดนามเป็นหลัก แต่ก็มีบางส่วนที่สามารถพูดภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้คล่อง สิ่งที่ทำให้ SAPA เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คือ ภาพของนาข้าวขั้นบันไดสีเหลืองทองที่ลดหลั่นกันลงมาตามภูเขาสูงชัน และยังมีภูเขาน้อยใหญ่รายล้อม คู่กับทะเลหมอก
วันที่ 2 เวลา 08.00 น. สื่อมวลชนรับฟังการบรรยายข้อมูลการเดินทาง และกิจกรรม
คณะสื่อมวลชนร่วมเดินทางโดย FORD RANGER STORMTRAK, FORD EVEREST WILDTRAK และ FORD RANGER RAPTOR ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเบนซิน 3.0 ลิตร ท่ามกลางทัศนียภาพทางธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขา และทุ่งนาขั้นบันได จากนั้นเดินทางไป ยอดเขา FANSIPAN (ฟานซีปัน)
FANSIPAN หลังคาแห่งอินโดจีน
ยอดเขา FANSIPAN ตั้งอยู่ในเทือกเขา HOANG LIEN SON (ฮหว่าง เลียน เซิน) และได้รับฉายาว่าเป็น "หลังคาแห่งอินโดจีน" ด้วยความสูง 3,143 ม. เหนือระดับน้ำทะเล นับว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเวียดนาม และยังเป็นจุดสูงสุดของ 3 ประเทศในคาบสมุทรอินโดจีน ได้แก่ เวียดนาม, สปป.ลาว และกัมพูชา
เราเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา FANSIPAN ที่ SUNWORLD ด้วยกระเช้าลอยฟ้าแบบ 3 เคเบิลที่ยาวที่สุดในโลก ครองสถิติโลกของ GUINNESS ด้วยความยาวถึง 6,292 ม. หรือกว่า 6 กม. เมื่อกระเช้าออกจากสถานี ผู้โดยสารจะเริ่มลอยขึ้นเหนือนาข้าว และหน้าผาหินด้านล่างทันที หน้าต่างบานใหญ่ช่วยให้มองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ
เมื่อถึงปลายทาง เราต้องค่อยๆ ไต่ขึ้นไปยังปลายยอดเขาสูงตระหง่านเหนือเมฆ ด้วยการเดินผ่านทางเดินหิน และสวนที่เงียบสงบ พบกับต้นอาซาเลียโบราณ และรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ 18 ชิ้น ที่แกะสลักอย่างบรรจง ประติมากรรมเหล่านี้นำไปสู่พระพุทธรูปสูงเสียดฟ้า 21.5 ม. ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขา เป็นรูปปั้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม
ตอนเย็นชาวคณะรับประทานอาหารสุดหรูที่ร้าน CHIC RESTAURANT ณ HOTEL DE LA COUPOLE M GALLERY ร้านอาหารที่ผสานกลิ่นอายฝรั่งเศส มีระเบียงกว้างด้านนอกพร้อมวิวหุบเขาแห่ง SAPA เป็นอีกมุมถ่ายรูปที่แนะนำ
วันรุ่งขึ้นออกเดินทางสู่อ่างเก็บน้ำ SEO MY TY (เซียว มี ที) ผ่านถนนที่คดเคี้ยว และเล็กแคบของเมือง SAPA ความกว้างของ FORD RANGER RAPTOR ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่า FORD RANGER STORMTRAK และ FORD EVEREST WILDTRAK แต่เมื่อได้สัมผัสความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร และใช้กล้องมองรอบคัน 360 องศา ช่วยให้มองเห็นอุปสรรคได้รอบตัว เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับในการมุ่งหน้าสู่อ่างเก็บน้ำ SEO MY TY
SEO MY TY เป็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่สูงที่สุดจากระดับน้ำทะเลของเวียดนามที่ 1,600 ม. ท่ามกลางทัศนียภาพทางธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขา และทุ่งนาขั้นบันไดเขียวขจี เราแวะรับประทานอาหารกลางวัน (อาหารเวียดนามท้องถิ่นในสไตล์บาร์บีคิว) ที่ HOMESTAY SEO MY TY
ในช่วงเย็นมีมุมถ่ายภาพที่เราไม่ควรพลาดในทริพนี้ SAPA LAKE เป็นทะเลสาบซึ่งตั้งอยู่กลางเมือง SAPA กว้างใหญ่ และน้ำนิ่งสงบ มีจุดที่สามารถจอดรถเพื่อชมวิว และถ่ายภาพ/วีดีโอได้
วันสุดท้าย ก่อนออกเดินทางจาก SAPA ใกล้ๆ โรงแรมที่พักมีมุมถ่ายภาพที่บรรดานักท่องเที่ยวนิยมไปเก็บภาพยามเช้า MOANA SAPA จุดเชคอินแห่งใหม่ของเมือง SAPA คล้ายกับประตูสวรรค์ที่บาหลี ให้ถ่ายรูปเก๋ๆ กับมุมน่ารักๆ เช่น บันไดมือ มุมเล่นชิงช้า มุมเล่นเพียโน หรือโซนนั่งพักบนต้นไม้ที่มองวิวได้จากมุมสูง เมื่อมองออกไปจะเห็นวิวภูเขาสวยงาม
เราออกเดินทางตั้งแต่ 07.00 น. กลับมายังเมือง HANOI รับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน QUAN AN NGON RESTAURANT ร้านอาหารสไตล์เวียดนามชื่อดังแห่งเมือง HANOI อาหารที่นี่มีความหลากหลาย แยกออกเป็นซุ้มๆ รายล้อมอยู่ภายนอกอาคาร สำหรับอาหารนั้นมีทั้งที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างขนมเบื้องญวน
หลังจากอิ่มท้องก็ถึงเวลาชมเมือง HANOI นอกจากแหล่งซื้อของฝาก ยังมี DEN NGOC SON (วัดหงอกเซิน) เป็นวัดเก่าแก่บนทะเลสาบ HOAN KIEM LAKE (ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม) อยู่ในบริเวณสวนสาธารณะของเมือง HANOI ที่ต้องข้ามสะพานสีแดง ใกล้ๆ กับโรงละครหุ่นกระบอกน้ำ THANG LONG WATER PUPPET THEATRE เสียดายที่ทางการเวียดนามไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านในของวัด
จากนั้นก็ออกเดินทางไปสนามบินนานาชาติ NOI BAI INTERNATIONAL AIRPORT เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ พร้อมกับกล่าวภาษาเวียดนามง่ายๆ ว่า "ตาม เบียด" (ลาก่อน) และบอกกับทีมงาน FORD NEXT LEVEL EXPERIENCE ว่า "ก่าม เอิน" (ขอบคุณ)
ที่กิน
แนะนำร้านอาหาร RED DZAO HOUSE ร้านตกแต่งสวยงามสไตล์พื้นถิ่น SAPA พนักงานดูแลเอาใจใส่ดี บางคนพูดไทยได้เล็กน้อย อาหารอร่อยแนะนำหมูตะไคร้กระทะร้อน เนื้อปลาแซลมอนสด ราคาไม่แพง แล้วก็มีเมนูหม้อไฟ ที่ใส่ไก่สดทั้งตัวแต่สับมาให้ ผักสด และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ที่พัก
PAO’S SAPA LEISURE HOTEL (เปาส์ ซาปา เลซูร์ โฮเทล) โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขา MUONG HOA และเทือกเขา HOANG LIEN SON ที่มีทิวทัศน์อันงดงาม การตกแต่งห้องพักแต่ละห้องผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของ SAPA เข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และมีระดับอย่างลงตัว
ขอขอบคุณ
FORD ประเทศไทย สำหรับการเดินทางในครั้งนี้















ABOUT THE AUTHOR
ธ
ธนสาร เสาวมล
ภาพโดย : ธนสาร เสาวมล/บริษัทผู้ผลิตนิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2566
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)