VOLKSWAGEN TOUAREG R EHYBRID แรงสุด และค่าตัวแพงสุดของยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์

รถเยอรมันอีกแบบหนึ่งที่นำมาบรรจุไว้ใน “ระเบียงรถใหม่” เดือนนี้ เป็นผลงานของผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ซึ่งขณะนี้มี CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย คือ ตั้งแต่รถขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด VOLKSWAGEN T-CROSS (โฟล์คสวาเกน ที-ครอสส์) ซึ่งตัวถังยาวแค่ 4.108 ม. ไปจนถึงรถขนาดกลาง คือ VOLKSWAGEN TOUAREG (โฟล์คสวาเกน ตูอเรก) ซึ่งยาวถึง 4.878 ม. เฉพาะอนุกรมท้ายสุด คือ VOLKSWAGEN TOUAREG ซึ่งนับจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023 ขายทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 1.13 ล้านคัน เป็นรถที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า MID-SIZE CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลาง และเป็นรถเยอรมันที่ไม่ได้ผลิตในเยอรมนี แต่ใช้โรงงานที่เมือง BRATISLAVA (บราติสลาวา) ของประเทศสโลวะเกียเป็นฐานการผลิต รถรุ่นแรกซึ่งออกแบบ/พัฒนา และใช้ชิ้นส่วนหลายชิ้นร่วมกันกับรถร่วมค่ายร่วมเครืออีก 2 แบบ คือ AUDI A7 (เอาดี เอ 7) และ PORSCHE CAYENNE (โพร์เช คาเยนน์) เริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2002 ตามมาด้วยรถรุ่นที่ 2 ในปี 2010 และรถรุ่นที่ 3 ซึ่งออกแบบ/พัฒนา และใช้ชิ้นส่วนบางชิ้นร่วมกันกับรถ AUDI A7 (เอาดี เอ 7) AUDI A8 (เอาดี เอ 8) PORSCHE CAYENNE (โพร์เช คาเยนน์) BENTLEY BENTAYGA (เบนท์ลีย์ เบนเทย์กา) และ LAMBORGHINI URUS (ลัมโบร์กินี อูรุส) ตามมาในปี 2018 รถที่จำหน่ายในเมืองเบียร์ขณะนี้ เป็นรถรุ่นที่ 3 ซึ่งได้รับการปรับปรุงแบบ MID-LIFE FACELIFT หรือ “ยกหน้าช่วงกึ่งกลางชีวิต” และเพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2023 ก่อนเริ่มการจำหน่ายแบบ PRE-SALE หรือขายก่อนล่วงหน้า 2 วันหลังวันเปิดตัว ในส่วนของตัวถังทั้งภายนอก และภายใน มีการเปลี่ยนแปลงหลายจุด ทั้งจุดที่มีนัยสำคัญ และจุดที่ไม่มี ตัวอย่าง คือ ส่วนหน้า และส่วนท้ายรถที่ออกแบบใหม่เกือบทั้งหมด เปลี่ยนโลโกที่ติดตรงท้ายรถจากโลโกธรรมดาเป็นโลโกเรืองแสง ที่วางแขนของเก้าอี้คู่หน้า และจุดสัมผัสของคอนโซลกลางบุด้วยวัสดุที่อ่อนนุ่มกว่าเดิม เพื่อปกป้องหัวเข่าของผู้ขับ และผู้โดยสาร ฯลฯ ในส่วนของระบบความปลอดภัย ระบบช่วยขับ และเครื่องยนต์กลไก ก็มีสิ่งใหม่อยู่หลายจุด และทั้งหมดเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่แบบถอนรากถอนโคน สรุปได้ว่า รถที่เพิ่งผ่านการปรับปรุงแบบยกหน้านี้ มีระบบขับให้เลือก 3 แบบ คือ ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง และขับด้วยระบบ PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮบริด) หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี ทั้งหมดเป็นระบบขับทุกล้อ 4MOTION (4 โมชัน) ซึ่งส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TIPTRONIC (ทิพทรอนิค) VOLKSWAGEN TOUAREG R EHYBRID (โฟล์คสวาเกน ตูอเรก อาร์ อีไฮบริด) ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ เป็นรถโมเดลหัวกะทิ รวมทั้งเป็นรถที่แรงกว่า และค่าตัวแพงกว่ารถโมเดลใดๆ ของค่าย VOLKSWAGEN เปิดตัวเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ปีกระต่าย พร้อมกันกับรถโมเดลอื่นๆ แต่เพิ่งเริ่มการจำหน่ายแบบ PRE-SALE เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2023 จุดเด่น และจุดขายสำคัญที่สุดของรถโมเดลนี้ คือ ระบบขับไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง วี 6 สูบ 2,995 ซีซี 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TIPTRONIC ได้กำลังรวมสูงสุด 340 กิโลวัตต์/462 แรงม้า ตามตัวเลขของผู้ผลิต รถแรง รถเร็วโมเดลนี้ใช้เวลาเพียง 5.1 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 2.1-2.5 ลิตร/100 กม. หรือ 40.0-47.6 กม./ลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 48-56 กรัม/กม. และวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆได้ไกล 52 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP ค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของเยอรมนี เริ่มต้นที่ 95,360 ยูโร หรือประมาณ 3.62 ล้านบาทไทย เมื่อคิดว่า เงินฝรั่ง 1 ยูโร แลกได้ด้วยเงินไทย 38 บาทถ้วน   VOLKSWAGEN TOUAREG R EHYBRID รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ ขับทุกล้อด้วยระบบไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊ก มิติตัวถัง 4.902x1.984x1.693 ม. ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง+มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวม 340 กิโลวัตต์/462 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ราคารวมภาษีในเยอรมนี 95,360 ยูโร (ประมาณ 3.62 ล้านบาทไทย)