ขอแสดงความเสียใจอย่างสูงสุด มายังสมาชิกในครอบครัวของ พตต. ศิวกร สายบัว ครับ ผมเชื่อว่าขอบเขตของความสูญเสียนี้ กว้างกว่าที่ถูกเอ่ยถึง และบรรยายกันในสื่อต่างๆ มากนัก เพราะเพียงแค่ดูผลงาน “เฉพาะกิจ” ของนายตำรวจที่ซื่อตรงผู้นี้ ที่ถูกคัดเลือกให้มาต่อต้านการร่วมกันทำลายถนนหลวงของชาติ และประชาชน โดยกลุ่ม “อัปรีย์ชน” ในคราบตำรวจเลว และฝูงนักธุรกิจจอมละโมบ ในพื้นที่เพียงไม่กี่จังหวัด ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าช่วยปกป้องสมบัติของชาติ ในรูปของทางหลวงแผ่นดิน ได้เป็นมูลค่ามากเพียงใด
ผมเชื่อว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่มาจากประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย และได้มาเห็นหลายสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศที่พัฒนาแล้วของประเทศของเรา รวมทั้งรูปแบบของถนนหลวงที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ซึ่งดีเกินกว่าที่พวกเขาคาดหวังไว้ จะต้องตะลึง และไม่น่าจะยอมเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ถ้าเราบอกพวกเขาว่า ถนนเหล่านี้ถูกสร้างมาด้วยการฉ้อโกงทุกขั้นตอน แม้กระทั่งตอนถูกใช้งานเมื่อสำเร็จแล้ว
เอาเป็นว่าผมจะลองเล่าเรื่องในฝันที่เกิดขึ้นในประเทศสารขัณฑ์ เป็นเรื่องสมมติที่ไม่ใช่ประเทศไทยก็แล้วกัน (จะได้ไม่ถูกมันฟ้องร้อง ขอดูหลักฐาน หรือใบเสร็จ) ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศสารขัณฑ์นี้ ล้วนเป็นการบ่อนทำลายชาติ ที่น่าจะเป็นฝีมือของชาวต่างชาติ ที่มันมายึดครองประเทศนี้ แต่กลับเป็นการกระทำของพลเมืองชาตินี้เองแท้ๆ เริ่มตั้งแต่การประกวดราคาหาผู้มารับเหมาก่อสร้าง ก็โกงกันแล้ว ผมขอไม่ลงรายละเอียดนะครับ เพราะชาวไทยเราก็รู้กลวิธีนี้กันดีอยู่แล้ว ขั้นตอนในการก่อสร้าง ก็ฉ้อโกงกันทุกขั้นตอน วัสดุประเภทไหนราคาสูง และตรวจสอบยากเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ก็จะถูกลดขนาด หรือไม่ก็ปริมาณ
สงสัยเลยใช่ไหมครับว่า ทำไมในประเทศนี้ ไม่มีผู้ควบคุมงานก่อสร้างที่เอาใจใส่เหมือนในประเทศไทย มีครับ แต่มัน “ตาถั่ว” กันหมด เพราะถูกฟาดที่ใบหน้าด้วยธนบัตรที่มัดรวมกันเป็นตั้งจนแข็งเกือบเท่าท่อนไม้ ช่วงสุดท้าย คือ การแต่งผิวหน้าของถนน ซื่งแน่นอนว่าต้องมีความเรียบ ได้ตามมาตรฐานสากล ผู้ตรวจรับงานของไอ้ประเทศนี้ มันฟังผิดครับ นึกว่าให้มันทำหน้าที่ “ตรวจรับเงิน” มันก็เลยไปเพ่งแต่จำนวนเงิน ที่ผู้รับเหมาให้มันตรวจ
พลเมืองผู้ใช้รถส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ก็พากันสงสัยว่า ถนนที่เพิ่งสร้างเสร็จแค่ไม่ถึงเดือน ทำไมผิวของมันจึงชำรุด จนรถสะท้านไปทั้งคัน ที่จริงแล้วมันยังไม่ทันเสียหายหรอกครับ แต่มันถูกฉาบผิวคอนกรีทด้วยมือ (บางคนก็บอกว่าด้วยส้นเท้า) ของคนงาน เพราะผู้รับเหมามันไม่ต้องการลงทุนซื้อเครื่องมือฉาบผิวตามมาตรฐานสากล
สรุปแล้วเงินที่ชาวสารขัณฑ์จ่ายให้รัฐบาลในรูปของภาษี แค่ส่วนเดียวเท่านั้น ที่กลับคืนมาเป็นถนนสุดห่วย เงินส่วนต่างที่เหลือ ไปอยู่ในบัญชีของผู้รับเหมา ข้าราชการกรมถนน ไล่เรียงกันมาจนถึงอธิบดีกรมถนน ที่ใครได้ตำแหน่งนี้ ก็จะผันตัวเองไปเป็นเศรษฐีระดับชาติได้ทุกคน แต่จะเม้มมากไปก็อยู่ไม่ได้นานนะครับ เพราะเป็นประเพณีสารขัณฑ์ที่สืบเนื่องกันมายาวนานเกือบครบศตวรรษแล้ว ที่อธิบดีกรมถนน จะต้องให้ลูกน้องหิ้วกระเป๋าบรรจุเงินสด (งดรับเชค) ไปส่งให้แก่ รมว. กระทรวงสัญจร เดือนละครั้ง อย่ารู้มูลค่าเลยนะครับ เอาแค่น้ำหนักก็พอ คือ ระดับไหล่เอียง และเดินแทบไม่ตรงทาง ถ้าน้ำหนักไม่ถึงตามข้อมูลเชิงลึก ที่ใช้ลูกน้องคนสนิทไปสืบมา ก็เตรียมตัวถูกปลดได้เลย
ตื่นจากฝันกลับมาอยู่กับความจริงที่ประเทศไทยของเรา ซึ่งสถานการณ์แทบจะไม่ต่างกันครับ ถนนที่สร้างมาอย่างห่วยนั้น ถ้าใช้กันให้ถูกหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ดี ช่วยกันควบคุมไม่ให้ผู้ใดละเมิด โดยการบรรทุกน้ำหนักเกินกำหนด ก็น่าจะมี อายุใช้งานยืนนานกว่าที่พวกเราเห็นกันหลายเท่าครับ
แต่ปัญหานี้ก็ยังไม่เคยมีใครแก้ได้ หรืออาจจะไม่มีใครเคยพยายามแก้อย่างจริงจังก็ได้ มันมีมานานแค่ไหนผมก็ไม่ทราบ แต่ผมได้ยินปัญหานี้มาตั้งแต่ยังไม่ 10 ขวบ ซึ่งหมายความว่า มันมีอยู่คู่ประเทศไทยเกินครึ่งศตวรรษแล้ว การยอมให้รถบรรทุกละเมิดกฎหมายควบคุม น้ำหนักบรรทุก จนทำให้ทางหลวงแผ่นดินชำรุดก่อนกำหนดนี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชาติเราอย่างมหาศาลครับ แทนที่จะเอางบประมาณแผ่นดินในส่วนที่ใช้ไปกับการ ซ่อมแซมถนน มาพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม และงบประมาณที่ว่านี้ก็ไม่ได้ไปอยู่ที่ถนนทั้งหมดหรอกครับ จำนวนไม่น้อย ตกไปอยู่ในกระเป๋าของข้าราชการกรมทางหลวงส่วนใหญ่ที่ไร้จรรยาบรรณ หลายคนกลายเป็นเศรษฐีใหญ่ แล้วก็เอาเงินที่ว่านี้ ย้อนกลับมาแสวงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เล่ห์เหลี่ยมโกงชาติตามเดิม หรือบวกกับแบบอื่นๆ ได้อีกหลายรอบ ผู้รับเหมาสร้างถนน ก็ไม่ต้องสร้างให้มีคุณภาพตามที่กำหนด หรือตามที่ควรจะเป็น สร้างให้มันห่วยเข้าไว้ แล้วติดสินบนผู้ควบคุมงาน ผู้ตรวจรับงาน ก็ได้กำไรเพิ่มขึ้นอีกมากแล้ว
ยังมีผลพลอยได้อีกครับ ถนนห่วยที่โกงไว้ตอนซ่อม หรือสร้าง มันย่อมมีอายุสั้นลงมากมาย จนต้องซ่อมกันถี่กว่าที่ควรหลายเท่า พูดง่ายๆ ก็คือ ยิ่งสร้างห่วยก็ยิ่งโกงได้มากขึ้น และบ่อยขึ้นด้วย ผู้รับเหมาสร้างทางก็ร่ำรวย กลายเป็นเศรษฐีระดับชาติกันไปหลายตระกูลแล้ว ดูกลุ่มผู้บริหารประเทศแล้ว เพื่อนผมคนหนึ่งให้ความเห็นว่า ยังมองไม่เห็น “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” ครับ เขาเสริมว่าถ้าเปรียบประเทศไทยเป็นคนคนหนึ่ง ก็เป็นคนที่มีกรรมเก่าติดตัวมามากพอสมควร มีโรคร้ายติดตัวมาหลายโรค พอหวังว่าจะรักษาให้ทุเลาได้บ้าง ก็เจอทั้ง “หมอหน้าเงิน” และยาปลอมเข้าไปอีก