บทความ
แก้รถติด ! ใช้เทคโนโลยี “ไฟจราจรอัตโนมัติ” นำร่อง 72 แยกทั่วกทม.

กทม. นำร่อง 72 แยก ใช้ระบบไฟจราจรอัจฉริยะ Adaptive Control ปรับสัญญาณตามปริมาณรถจริง ใช้กล้องวัด-ปล่อยรถตามความแน่น เเก้ปัญหาลดรถติด เพิ่มความคล่องตัวHighlight
กทม. นำร่องติดตั้งไฟจราจรอัตโนมัติ 72 แยก ปรับสัญญาณไฟตามปริมาณรถ แก้ลดรถติด เพิ่มความคล่องตัว
กรุงเทพมหานคร และสำนักการจราจรและขนส่ง ลงพื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิท 101/1 เพื่อติดตามการทำงานระบบสัญญาณไฟจราจรอัตโนมัติ Adaptive Control หรือการปรับสัญญาณไฟตามปริมาณการจราจร โดยปัจจุบันสัญญาณไฟจราจรในกรุงเทพฯ ประมาณ 500 แยก เป็นระบบอัตโนมือ คือ ให้ตำรวจเป็นคนกดสัญญาณไฟตามสภาพการจราจร หรือแบบตั้งเวลาไว้ เช่น หากผู้ขับขี่เห็นสัญญาณไฟ เมื่อแดงปุ๊บแล้วมีการนับถอยหลังเลยจะเป็นแบบตั้งเวลาไว้ ไม่ได้ปรับตามสภาพการจราจร ซึ่งแบบนี้บางครั้งรถโล่งแต่ยังเป็นไฟเขียวอยู่ แต่ฝั่งที่เป็นไฟแดงรถติดยาว หรือหากเป็นตำรวจกดเองก็อาจไม่เห็นสภาพการจราจรทั้งหมด
ตอนนี้มีการติดตั้งระบบ Adaptive Control โดยเป็นการใช้กล้องวัดปริมาณจราจร และใช้คอมพิวเตอร์คำนวณว่าจะปล่อยรถอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งขณะนี้ติดตั้งไปแล้ว 72 แยก ตามแนวถนนสุขุมวิท แนวถนนเพชรบุรี แนวถนนพระราม 4 แนวถนนพหลโยธิน และบริเวณย่านสีลม โดยมีแผนจะติดตั้งเพิ่มอีก 200 แยก ในปีหน้า
จากการนำร่องทดลองใช้ระบบ Adaptive Control พบว่า ในช่วงที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนการจราจรดีขึ้นประมาณ 15 % ส่วนในชั่วโมงเร่งด่วนอยู่ระหว่างเก็บข้อมูลกับทางตำรวจ อาจมีบางแยกที่รถติดหนักมากก็ต้องใช้ตำรวจมากดสัญญาณไฟ ซึ่งต้องดูความเหมาะสมประสานทั้ง 2 ระบบควบคู่กัน
ทางกรุงเทพฯ เผยว่า การปรับสัญญาณไฟตามปริมาณรถ บางครั้งบอกล่วงหน้าไม่ได้เพราะไม่รู้ว่ารถจะหมดเมื่อไร อาจจะเห็นแค่ 5 วินาทีสุดท้าย แต่ไม่เห็นทั้งช่วง แต่สิ่งสำคัญ คือ ระเบียบวินัยจราจร เทคโนโลยีอะไรฉลาดแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ถ้าคนไม่ปฏิบัติตามกฎ ไม่มีวินัยจราจร