ในสายการผลิตของ SKODA (สโกดา) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวของสาธารณรัฐเชค มีรถกิจกรรมกลางแจ้งอยู่มากถึง 5 อนุกรม คือ SKODA KAMIQ (สโกดา คามิค) SKODA KAROQ (สโกดา คารค) SKODA KOIAQ (สโกดา โคดีอัค) SKODA ENYAQ IV (สโกดา เอนยัค ไอวี) และ SKODA ENYAQ COUPE IV (สโกดา เอนยัค คูเป ไอวี) ทุกอนุกรมล้วนเป็น CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ ซึ่งตัวถังมีโครงสร้างเหมือนรถเก๋ง เป็นตัวถังที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า UNIT BODY (ยูนิท บอดี) หรือ UNIBODY (ยูนิ บอดี) หรือ MONOCOQUE (โมโนคอก) นั่นเอง
เฉพาะ SKODA KODIAQ ซึ่งเป็นรถขนาดกลาง รุ่นแรกที่เริ่มการผลิตเมื่อปลายปี 2016 มีตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 4.630-4,697 ม. กว้าง1.882 ม. สูง 1.676-1.683 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.312 เป็นตัวถังซึ่งใช้ชิ้นส่วนหลายชิ้นรวมทั้งพแลทฟอร์ม ร่วมกันกับรถร่วมค่ายร่วมเครืออีก 2 แบบ คือ VOLKSWAGEN TIGUAN ALLSPACE (โฟล์คสวาเกน ทีกวน ออลล์สเปศ) กับ SEAT TARRACO (เซอัต ทาร์ราโก) เป็นรถที่มีการผลิตทั้งในสาธารณรัฐเชค ยูเครน อินเดีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยอดผลิตจนถึงเดือนกันยายน 2023 สูงถึง 841,900 คัน (ร้อยละ 60 เป็นรถ 5 ที่นั่ง/ร้อยละ 40 เป็นรถ 7 ที่นั่ง)
ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ เป็นรถรุ่นที่ 2 เพิ่งเปิดตัวในสาธารณรัฐเชค เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2023 และมีกำหนดเริ่มจำหน่ายตอนต้นปีมังกรทอง โดยมีตลาดรองรับทั่วโลกถึง 60 ตลาด ซึ่งตลาดใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรก คือ เยอรมนี สหราชอาณาจักรอังกฤษ และสาธารณรัฐเชค
มีตัวถังเพียงแบบเดียว เป็นตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 4.758 ม. กว้าง 1.864 ม. และสูง 1.659 ม. คือ ยาวขึ้น 6.1 ซม. แต่แคบลง 1.8 ซม. เมื่อเทียบกับตัวถังของรถรุ่นแรก ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศซึ่งบ่งบอกความลื่นลมลดลงมาก คือ จาก 0.312 เป็น 0.282 หน้าตา และรูปทรงองค์เอวตัวถังซึ่งก็มีทั้งแบบ 5 และ 7 ที่นั่ง เป็นผลลัพธ์ของการออกแบบสไตล์อนุรักษนิยม แต่ก็มีอยู่หลายจุดที่ดูแปลกไปจากเดิม ตัวอย่างเช่น แผงกระจังหน้ารูปหกเหลี่ยมที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด แผงหน้าหม้อที่ลวดลายมากมาย โลโกแบบใหม่ และชื่อรุ่น KODIAQ ที่ใช้ตัวอักษรฟอนท์ใหม่
มีทั้งรถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน รถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในพร้อมระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน และรถ PLUG-IN HYBRID หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี ซึ่งไม่มีในรถรุ่นแรก รถทุกแบบที่กล่าวนี้ ส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG
รถเครื่องยนต์สันดาปภายในมี 3 โมเดล คือ SKODA KODIAQ 2.0 TSI (เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 4 สูบเรียง 1,984 ซีซี 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า ขับเคลื่อนทุกล้อ) SKODA KODIAQ 2.0 TDI (เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 4 สูบเรียง 1,968 ซีซี 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า) และ SKODA KODIAQ 2.0 TDI (เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 4 สูบเรียง 1,968 ซีซี 142 กิโลวัตต์/193 แรงม้า ขับเคลื่อนทุกล้อ) ส่วนรถเครื่องยนต์สันดาปภายในพร้อมระบบไฮบริดแบบอ่อนมีโมเดลเดียว คือ SKODA KODIAQ 1.5 TSI MHEV (เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 4 สูบเรียง 1,498 ซีซี 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า)
รถไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กก็มีโมเดลเดียว คือ SKODA 1.5 TSI PHEV ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 4 สูบเรียง 1,498 ซีซี 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด และแบทเตอรีขนาดความจุ 25.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ได้กำลังรวมสูงสุด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า กับวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกลกว่า 100 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP
เป็นรถที่มีกระทะล้ออัลลอยให้เลือกใช้หลายขนาด คือ ตั้งแต่ 17 นิ้ว จนถึง 20 นิ้ว และตัวถังมีให้เลือกรวม 9 สี เป็นสีทึบ 2 สี กับสีเมทัลลิค 7 สี
SKODA KODIAQ
รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลาง ขับล้อหน้า และขับทุกล้อ
มิติตัวถัง 4.758x1.864x1.659 ม. 5/7 ที่นั่ง สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.282
เครื่องยนต์สันดาปภายใน 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า-150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า
เครื่องยนต์สันดาปภายในพร้อมระบบไฮบริดแบบอ่อน 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า
ระบบไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า