เยอรมนี-ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทของเมืองเบียร์ใช้ช่วงเวลาปลายเดือนพฤศจิกายนของปีกระต่าย เป็นฤกษ์งามยามดีในการเปิดตัวรถเก๋งซีดานสุดหรู PORSCHE PANAMERA (โพร์เช พานาเมรา) รุ่นใหม่ ซึ่งมีทั้งรถติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน และรถไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ พร้อมเปิดรับการสั่งจอง และยืนยันว่าจะเริ่มการส่งมอบรถได้ในเดือนมีนาคม 2024 โดยใช้โรงงานในเมือง LEIPZIG (ไลพ์ซิก) เป็นที่ผลิต
นับเป็นรถรุ่นที่ 3 (รหัสโรงงาน 972 CHASSIS G3) ถัดจากรถรุ่นแรก (970 CHASSIS G1) ซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2009 และรถรุ่นที่ 2 (971 CHASSIS G2) ซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2016 เป็นรถที่ผู้ผลิตประกาศสรรพคุณว่า ขยายความกว้างของขอบเขตระหว่างสมรรถนะทางไดนามิค และความสะดวกสบายของการขับขี่ มีระบบขับ E-HYBRID ที่ทรงพลังกว่าเดิม และมีระบบรองรับ (ระบบกันสะเทือน) ที่เหนือกว่ารถเก๋งซีดานระดับเดียวกันทุกรุ่นทุกแบบ
มีขนาดตัวถังยาว 5.052 ม. กว้าง 1.937 ม. และสูง 1.423 ม. คือ ใกล้เคียงกันมากกับรถรุ่นเดิมซึ่งยาว 5.049-5.053 ม. กว้าง 1.937 ม. และสูง 1.417-1.427 ม. หน้าตา และรูปทรงองค์เอวของตัวถัง เห็นได้ชัดว่าเป็นผลลัพธ์ของการออกแบบในลักษณะ EVOLUTION หรือ “วิวัฒน์” ไม่ใช่ REVOLUTION หรือ “ปฏิวัติ” เมื่อมองจากภายนอก ความแตกต่างระหว่างรถรุ่นใหม่กับรุ่นเก่ามีอยู่หลายจุด ที่สะดุดตา และเห็นได้ชัดเจนมาก คือ ส่วนหน้าของตัวรถ โดยเฉพาะดวงโคมไฟหน้า และช่องดักลมหน้า ที่เห็นไม่ชัดแต่จะทราบได้ทันทีเมื่อใช้งาน คือ ห้องเก็บของท้ายรถที่กว้างขึ้นมาก จนสามารถบรรจุถุงกอล์ฟ 2 ชุดได้สบาย
ในระยะแรกจะมีรถให้เลือกเพียง 3 โมเดล คือ PORSCHE PANAMERA PORSCHE PANAMERA 4 (โพร์เช พานาเมรา 4) และ PORSCHE PANAMERA TURBO E-HYBRID (โพร์เช พานาเมรา เทอร์โบ อี-ไฮบริด) ทุกโมเดลส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ PDK
โมเดลพื้นฐาน PORSCHE PANAMERA ซึ่งค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ในเยอรมนี เริ่มต้นที่ 107,800 ยูโร หรือประมาณ 4.10 ล้านบาทไทย เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 6 สูบ 2,894 ซีซี 260 กิโลวัตต์/353 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 272 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.6-10.5 ลิตร/100 กม. หรือ 9.5-10.4 กม./ลิตร กับมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 219-239 กรัม/กม. โดยเฉลี่ย
โมเดลถัดไป PORSCHE PANAMERA 4 ซึ่งค่าตัวรวมภาษีแพงขึ้นนิดหน่อย คือ เริ่มต้นที่ 111,900 ยูโร หรือประมาณ 4.25 ล้านไทย เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกันกับรถโมเดลพื้นฐาน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 270 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.1-11.2 ลิตร/100 กม. หรือ 8.9-9.9 กม./ลิตร กับปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 230-253 กรัม/กม. โดยเฉลี่ย
ส่วนโมเดลหัวกะทิ PORSCHE PANAMERA TURBO E-HYBRID ซึ่งค่าตัวรวมภาษีเริ่มต้นที่ 192.500 ยูโร หรือประมาณ 7.32 ล้านบาทไทย เป็นรถ PLUG-IN HYBRID หรือไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 8 สูบ 3,996 ซีซี ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า และแบทเตอรีขนาดความจุ 25.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ได้กำลังรวมสูงสุด 500 กิโลวัตต์/680 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 315 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 1.2-1.7 ลิตร/100 กม. หรือ 58.8-83.3 กม./ลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 26-38 กรัม/กม. และวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 92 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม