มุมมองนักออกแบบ
คู่แฝดคนละฝา ใหม่ล่าสุดของวงการกระบะไทย
ในที่สุด ก็ถึงคิวการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่หมด หรือ โมเดลเชนจ์ "MODEL CHANGE" ของรถกระบะคู่แฝดคนละฝาอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ (RANGER) สัญชาติอเมริกัน และ มาซดา บีที-50 (BT-50) สัญชาติญี่ปุ่น กันสักที หลังจากที่ต้องรอกันมานานเกือบปี
อีซูซุ ดี-แมกซ์ พยายามกอดก่ายเก้าอี้แชมพ์อย่างเหนียวแน่น โดยไม่ยินยอมให้ โตโยตา ไฮลักซ์ วีโกโค่นบันลังก์แชมพ์ได้ง่ายๆ ทั้งๆ ที่พยายามงัดกลยุทธ์ระดับสุดยอดต่างๆ นานามากมาย แต่ในขณะที่มิตซูบิชิ ทไรทัน ซึ่งทำท่าว่าจะมาแรง และสร้างความฮือฮาในวงการ ด้วยรูปทรงที่แตกต่าง ก็ยังไม่สามารถทำอะไรกับยอดขายภายในประเทศได้มากนัก
จวบจนมาถึง ฟอร์ด และ มาซดา ที่ได้ฤกษ์เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ 2006 ที่ ไบเทค ซึ่งอาจเป็นช่วงจังหวะที่ถือว่าโชคร้ายกับเรื่องการเมืองที่ยังหาทางออกไม่ได้ ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะด้านจิตวิทยาของประชาชนในการใช้จ่ายเงิน ทำให้เกิดการลังเลชะลอการซื้อ หรือตัดสินใจไม่ซื้อไปเลย ในช่วงที่การเมืองยังไม่นิ่งแบบนี้ นับว่าเป็นปัจจัยที่ทำนายล่วงหน้าได้ยากมาก เพราะมันขึ้นอยู่กับดวงจริงๆ
เรามาเริ่มวิเคราะห์กันที่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ กันก่อน ด้วยรูปทรงเดิมๆ ก่อนเปลี่ยนโฉมนั้น ต้องยอมรับเลยว่า ยังอนุรักษนิยมแบบสุดๆ นี่คงเป็นเหตุผลด้านต้นทุนการผลิตที่ยังไม่คุ้มค่าแม่พิมพ์เลยจำเป็นต้องขายตัวถังเดิมนานหน่อย ก็เลยดูโบราณมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเจ้าตลาดทั้งหลาย ที่เน้นการพัฒนารูปลักษณ์ให้ดูทันสมัยขึ้นเป็นหลัก
แต่ ฟอร์ด ยังคงใช้นโยบายของบริษัทแม่อย่างเหนียวแน่น ด้วยสโลแกนหลัก "BUILD TOUGH" ถือว่าชัดเจนดีแล้ว สำหรับความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถ ฟอร์ด ทุกคัน
เนื่องจาก ฟอร์ด เป็นองค์กรใหญ่ ระดับโลก ความรวดเร็วในการตัดสินใจใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบใหม่ๆ จึงทำได้ไม่เต็มที่นักในบ้านเรา กับสภาวะการแข่งขันด้านกลยุทธ์การตลาดในปัจจุบันโดยเฉพาะตลาดรถกระบะนั้น นับว่าดุเดือดสุดๆ เรียกว่าต้องแก้เกมกันตลอดเวลา แบบวินาที/วินาที และการตลาดในแต่ละประเทศก็จะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นกลยุทธ์ของแต่ละประเทศก็จะไม่เหมือนกัน จึงต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม สนองตอบต่อกลุ่มลูกค้าของประเทศนั้นๆ ให้ได้ตรงใจพวกเขามากที่สุด
ก็ต้องยอมรับว่า ฟอร์ด ในบ้านเรา ยังคงยึดสไตล์อนุรักษนิยมอย่างเหนี่ยวแน่น ซึ่งทำให้มีผลต่อยอดขายโดยตรง ด้านรูปลักษณ์ที่ไม่สะดุดตา และไม่โดนใจผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนที่จะเปิดตัว เรนเจอร์ ใหม่ นี้ ฟอร์ด ได้ส่งรถต้นแบบที่ชื่อว่า 4 ทแรค แต่ก่อนหน้านี้ปลายปีที่แล้วที่งาน "MOTOR EXPO" ถือได้ว่าเรียกร้องความสนใจของบรรดาผู้ที่นิยมรถกระบะได้ไม่น้อยทีเดียวอาจเป็นเพราะการออกแบบที่มีลูกเล่นแพรวพราว ซึ่งต่างจากรถกระบะ ฟอร์ด ทั่วไป ที่เคยพบเห็นเป็นอย่างมาก หลายคนตั้งความหวังว่า ถ้าออกมาใกล้เคียงแบบนี้ น่าจะทำยอดขายได้ดีกว่ารุ่นเดิมแน่ๆ
ในที่สุด เรนเจอร์ ใหม่ ก็ถูกเปิดตัวแบบเป็นทางการ ด้วยสไตล์อนุรักษนิยมเช่นเดิม เน้นความเรียบง่าย และความแกร่ง เป็นหลักอย่างเหนียวแน่น ตัวถังภายนอกใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่เท่า โตโยตาไฮลักซ์ วีโก รูปลักษณ์ภายนอกยังคงความเป็นรถกระบะดั้งเดิมอยู่ ไฟหน้า แบบเรียบง่าย ไฟท้ายคล้ายกันกับ โตโยตา อินโนวา ภายในถูกออกแบบใหม่หมด สไตล์รถเก๋ง ที่ดูเรียบง่ายสไตล์ ฟอร์ดมาตรวัดแบบ 3 ห่วง ทำให้ได้ความรู้สึกสปอร์ทขึ้นตามสมัยนิยม
เช่นเดียวกันกับ มาซดา บีที-50 ที่ยังคงมีเอกลักษณ์ความสปอร์ท ZOOM...ZOOM อย่างเหนี่ยวแน่น ถึงแม้จะใช้โครงสร้างเดียวกัน แต่หน้าตาก็แตกต่างกัน ซึ่ง ฟอร์ด ดูแล้วก็รู้ว่าเป็นรถอเมริกันส่วน มาซดา ยังไงๆ ก็ต้องเป็นรถญี่ปุ่นแน่ๆ ด้วยลักษณะไฟหน้าที่มีลูกเล่นเช่นเดียวกับไฟท้ายมีดีไซจ์นมากกว่า ฟอร์ด นี่คือลูกเล่นที่รถญี่ปุ่นชอบใช้ ซึ่งมักจะโดนใจคนไทย ด้านการออกแบบภายในใกล้เคียงกันมาก
อาจพอสรุปได้ว่า การเปิดตัวของรถทั้ง 2 รุ่นนี้ ถ้ามาดูกันด้านรูปลักษณ์แล้ว ถือว่ายังไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการรถกระบะบ้านเราเท่าไรนัก เรียกว่ายังคงความเรียบง่าย แบบอนุรักษนิยมไว้อย่างเหนียวหนึบ ซึ่งอาจเป็นผลทำให้ไม่สามารถไปกระตุ้นต่อมอารมณ์ความอยากซื้อของผู้บริโภคได้อย่างเพียงพอ ให้เหมือนกับคู่แข่งที่เล่นกับการกระตุ้นอารมณ์ผู้ซื้อ ด้วยรูปลักษณ์ที่มีลูกเล่นตลอดเวลา ซึ่งกลยุทธ์การแก้เกมนั้น ผมว่าก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เพราะ ฟอร์ด ที่สหรัฐอเมริกาก็ทำสำเร็จมาแล้ว
แต่ผมก็ยังสงสัยว่าทำไม ฟอร์ด ที่สหรัฐ ฯ นั้น นับว่าเป็นรถที่คนนิยมมากจริงๆ ด้านความสวยงามสามารถกระตุ้นความรู้สึกอยากซื้อได้อย่างเพียงพอ ซึ่งต่างจากบ้านเราอย่างสิ้นเชิง ดูตัวอย่างจากงาน SEMA ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน ทุกปีทางบริษัท ฟอร์ด เขาจะส่งรถให้กับสำนักตกแต่งที่มีชื่อเสียงหลายบริษัท นำไปตกแต่งมาเพื่อประกวดกันทุกปี ผู้ชมก็จะได้เห็นความสวยงามที่แตก
ต่างกันของรถในรุ่นเดียวกัน หลายๆ รสนิยม แทนที่จะเห็นเพียงแค่ สแตนดาร์ด ธรรมดาๆแบบเดียวกันหมด
ตรงนี้ผมรู้สึกทึ่งกับไอเดียการตกแต่งที่หลากหลาย ที่สร้างสีสัน และความเร้าอารมณ์ ของผู้ที่พบเห็นให้เกิดอาการอยากซื้อได้มาก ซึ่งจริงๆ แล้ว วิธีนี้ถือว่าทุกฝ่ายชนะหมด ตั้งแต่ค่ายรถ ก็ขายรถได้มากขึ้น ค่ายตกแต่งก็ได้โชว์ผลงาน และขายได้มากขึ้น ผู้ซื้อรถก็พึงพอใจที่ได้รถที่สวยงามตามรสนิยมของเขา
ผมว่าบ้านเราส่วนใหญ่ก็มักจะกั๊กกันเองซะเป็นส่วนใหญ่ เหมือนกันกับการเมือง ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมั่นคงสักที น่าจะเป็นชาติหน้าตอนบ่ายๆ แน่ๆ เลย
เรื่องโดย : แมน ดีไซจ์น
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52816