X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
มุมมองนักออกแบบ
1 Mar 2007
"จีน" ผู้นำคนใหม่แห่งโลกอุตสาหกรรมรถยนต์
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งได้พบเห็น สภาพบ้าน
เมืองที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในทุกๆ ด้าน ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศจีนนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่มี
การเปิดประเทศ ทำให้จีนกลายเป็นแหล่งผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกก็ว่าได้
ด้วยจำนวนประชากรมหาศาล และค่าครองชีพที่แสนถูก จีนจึงเป็นแหล่งผลิตสินค้าของคนทั่วโลกที่มี ต้นทุนต่ำที่สุด เพราะการผลิตแบบจำนวนมหาศาล โดยใช้หลัก ECONOMY OF SCALE หมายถึง ยิ่ง ผลิตจำนวนมากเท่าไร ต้นทุนต่อชิ้นก็จะถูกลงเท่านั้น หลังจากมีการสั่งผลิตสินค้าจากทั่วโลก สินค้าบแรนด์ดังๆ มากมายได้มาว่าจ้างให้จีนผลิต ทำให้มีการ ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตอย่างต่อเนื่อง จีนจึงมีศักยภาพที่จะผลิตสินค้าได้หลากหลาย แต่บ แรนด์เนมดังๆ ที่ให้โรงงานในจีนผลิตล้วนแล้วแต่โดนละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยของกอพพีมากมาย ถ้าสังเกตกันดีๆ แล้ว ปัจจุบันของกอพพีเหล่านั้นถูกดัดแปลงให้แตกต่างจากของแท้ออกไป ด้วยการออกแบบของคน จีนเอง ซึ่งน่าจะถึงเวลาของ "ทฤษฎี การพัฒนาแบบต่อยอด" แล้วนั่นเอง เนื่องจากปัจจุบัน ความรู้ต่างๆ ถูกถ่ายทอดกันได้อย่างรวดเร็ว ประเทศจีนจึงนำทฤษฎีการพัฒนาแบบ ต่อยอดนี้มาใช้พัฒนาประเทศ ความหมายก็คือ นำสิ่งที่ผู้อื่นพัฒนามาจนใช้ได้ดีแล้ว มาพัฒนาต่อซึ่งจะ สามารถประหยัดงบประมาณได้อย่างมหาศาล เช่นเดียวกับวงการรถยนต์ของจีน ที่เริ่มจากศูนย์ เพราะสมัยก่อนนั้นใช้แต่จักรยาน เมื่อเริ่มเปิดประเทศ ก็เริ่มมีบริษัทรถยนต์จากต่างประเทศเข้ามาลงทุน ที่ เห็นมากที่สุดก็น่าจะเป็นกลุ่ม โฟล์คสวาเกน ต่อมารถยนต์สัญชาติจีนอีกหลายยี่ห้อก็เกิดขึ้นในหลายรูปแบบ ตั้งแต่เลือกซื้อสายพานการผลิตของรถ รุ่นที่คิดว่าเหมาะกับการใช้งานในภูมิภาคนั้น เช่น ยี่ห้อ LANDWIND ก็ซื้อสายพานการผลิตของ อีซูซุ เวกา มาทั้งหมด เพื่อมาผลิตและขายใหม่ เป็นต้น ในระยะแรกนั้น เครื่องไม้เครื่องมือยังไม่ดีพอ ทำให้รถที่ออกมาดู ไม่เรียบร้อย บวกกับการออกแบบที่ ไม่ใช่มืออาชีพ ทำให้รถจีน ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หลายปีผ่านไป การพัฒนาด้านวงการ รถยนต์ของจีนมีมากขึ้น หน้าตาของรถรุ่นใหม่ๆ ดูดีกว่าเมื่อหลายปีก่อน ด้วยการพัฒนาแบบต่อยอด สังเกตได้ว่า รถจีนที่ได้เห็นหลายรุ่นมีเค้าโครงจากรถที่เรารู้จักกันดีทั้งนั้น เช่น เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี- คลาสส์ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5 มิตซูบิชิ สเปศแวกอน เป็นต้น จากการประกอบและผลิตในส่วนที่ไม่เรียบร้อยในระยะแรก ปัจจุบัน จีน สามารถพัฒนาได้ดีขึ้นอย่าง เห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ารถญี่ปุ่น หรือรถยุโรป ที่เขาใช้เวลาในการพัฒนามาเป็น 100 ปี ถ้าจะให้วิเคราะห์กันจริงๆ ต้นแบบที่จีนน่าจะใช้เป็นแนวทางที่ดีที่สุด ก็คือ ญี่ปุ่น เป็นรถขนาดเล็ก สร้างมาเพื่อตอบสนองคนท้องถิ่น หน้าตาของรถก็ดูธรรมดา แต่มีรายละเอียดของการออกแบบลวด ลายกระจังหน้าที่ต่างจากรถยุโรป ในแบบฉบับของชาวตะวันออกโดยเฉพาะ แต่เมื่อกลับมาดูจุดแข็งของจีนแล้ว ถือว่ามีพร้อมเกือบทุกด้าน ตั้งแต่วัตถุดิบ จำนวนประชากร ค่าแรง ที่ต่ำ เงินลงทุนที่พร้อม เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง การพัฒนาแบบต่อยอด ผมจึงมั่นใจและสามารถหลับตา ทำนายได้เลยว่า จีนจะเป็นมหาอำนาจแห่งอุตสาหกรรมรถยนต์รายต่อไปอย่างแน่นอน
อ่านต่อ
เรื่องโดย : แมน ดีไซจ์น
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/53117
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
มุมมองนักออกแบบ
มุมมองนักออกแบบ
3 Oct 2023
TOYOTA ALPHARD คล้ายรุ่นเดิม เติมความกลมกล่อม
มุมมองนักออกแบบ
3 Sep 2023
MG MAXUS9 คุณภาพเหนือราคา หน้าเหมือน IRON MAN
มุมมองนักออกแบบ
3 Aug 2023
LAND ROVER RANGE ROVER SPORT มีไว้คุย ไม่ได้มีไว้ลุย