พิเศษ(cso)
กฎ กติกาการแข่งขัน
เป็นที่ทราบกันดี กับความคึกคักเกี่ยวกับการแข่งขันเครื่องเสียงรถยนต์ในบ้านเราโดยเฉพาะรายการที่ได้มาตรฐานระดับโลก IASCA THAILAND ที่จัดขึ้นโดย ชมรมเครื่องเสียง และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์แห่งประเทศไทย (CAA) ซึ่งทีมงาน "คาร์ สเตริโอ"
เคยนำเสนอการแข่งขันสนามแรกแห่งประวัติศาสตร์ไปแล้ว สำหรับฉบับนี้ จะมาเจาะลึก กฎกติกาการแข่งขันกัน
IASCA ได้แบ่งประเภทการแข่งขันเอาไว้ 3 ประเภท คือ 1. เน้นทั้งคุณภาพเสียง และการติดตั้ง (SQ) 2. เน้นพลังอย่างเดียว (IDBL) และ 3. SPL FUN CLASS โดยในแต่ละประเภทก็ได้แบ่งรุ่นแยกย่อยออกไปอีก เพื่อให้เกิดความหลากหลาย และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกจัดชุดติดตั้งในแบบที่ถนัด แต่ก่อนอื่นต้องคำนึงถึง 5 คะแนนแรก ที่ควรจะได้เต็ม คือสมัครเป็นสมาชิก IASCA จะได้พิเศษ 5 คะแนน โดยกรรมการจะดูจากสติคเกอร์ เรามาดูรุ่นการแข่งขันกัน
ROOKIES เป็นรุ่นมือใหม่ เปิดโอกาสให้กับนักเล่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการ หรือลงแข่งรายการ IASCA มาก่อน ซึ่งสามารถแข่งขันได้ครั้งเดียวเท่านั้น โดยปกติจะไม่แบ่งคลาสส์แต่หากมีรถเข้าร่วมมากกว่า 20 คัน จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1-600 วัตต์ และ 601 วัตต์ขึ้นไปมีคะแนนคุณภาพเสียง 150 คะแนน และการติดตั้ง 65 คะแนน (รวมการนำเสนอ 1-5 คะแนน) ที่สำคัญมีการวัด RTA 30 คะแนน และ SPL 35 คะแนน (135 ดีบี) รวมคะแนนพิเศษด้วย เป็น 285 คะแนน แต่ในประเทศไทยไม่ได้มีการจัดการแข่งขันรุ่นนี้ จะมีการแข่งขันตั้งแต่รุ่น STREET เป็นต้นไป
STREET เป็นการแข่งขันที่รองรับนักแข่งจากรุ่น ROOKIES โดยจะให้คะแนนด้านคุณภาพเสียงมากขึ้นถึง 277 คะแนน แต่ไม่มีคะแนน RTA ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ
1. STREET SMART เปิดโอกาสให้ผู้ที่เพิ่งเข้าร่วมการแข่งขัน ติดตั้งระบบมาจากร้านทั่วไปแต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือได้รับการสนับสนุนจากวงการเครื่องเสียง
2. STREET PRO บุคคลทั่วไปเข้าร่วมแข่งขันได้ โดยทั้ง 2 รุ่นแรก มีคะแนนด้านความปลอดภัย 35 คะแนน การติดตั้ง 25 คะแนน การนำเสนอ 5 คะแนน และ SPL 35 คะแนน รวมคะแนนคุณภาพเสียง และคะแนนพิเศษด้วย เป็น 382 คะแนน
3. STREET X บุคคลทั่วไปเข้าร่วมแข่งขันได้ คะแนนด้านความปลอดภัยตัด SAFETY EQUIPMENT NOT COMPROMISED เพิ่มในส่วน CRAFTSMANSHIP แทน (รวม 35 คะแนนเท่าเดิม) และเพิ่มในส่วนของคะแนนการนำเสนอเป็น 10 คะแนน จากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ล้างรถ ดูดฝุ่น (1-5 คะแนน) เมื่อรวมกับคะแนนคุณภาพเสียง SPL และคะแนนพิเศษแล้ว จึงมีคะแนนรวม 387 คะแนน
ULTIMATE เป็นรุ่นที่รองรับนักแข่งจากรุ่น STREET ที่มีการพัฒนาด้านการติดตั้งมากขึ้นเน้นรายละเอียดในการติดตั้งทุกจุด โดยเพิ่มคะแนนด้านนี้สูงถึง 95 คะแนน ด้านความปลอดภัย 45 คะแนน การนำเสนอ 25 คะแนน รวมถึงคะแนนความคิดสร้างสรรค์ ที่ส่งผลโดยตรง แต่ไม่มีคะแนน RTA และ SPL แบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ
1. ULTRA SQI เปิดโอกาสให้ผู้ที่เพิ่งเข้าร่วมการแข่งขัน ติดตั้งระบบมาจากบุคคลทั่วไปแต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือได้รับการสนับสนุนจากวงการเครื่องเสียง มีคะแนนด้านความคิดสร้างสรรค์ 20 คะแนน รวมทั้งหมด 467 คะแนน
2. ULTRA PRO เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าแข่งขันได้ มีคะแนนด้านความคิดสร้างสรรค์ 30 คะแนน รวมทั้งหมด 477 คะแนน
3. ULTRA X เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าแข่งขันได้ มีคะแนนด้านความคิดสร้างสรรค์ 50 คะแนน รวมทั้งหมด 497 คะแนน
ทั้ง 3 รุ่น มีคะแนนพิเศษ 5 คะแนน คุณภาพเสียง 277 คะแนน ความปลอดภัย 45 คะแนน การติดตั้ง 95 คะแนน การนำเสนอ 25 คะแนน รวม 447 คะแนน เป็นฐาน ส่วนในแต่ละรุ่นจะมีคะแนนความคิดสร้างสรรค์ที่ต่างกัน โดยให้กรรมการคะแนนในแต่ละจุดไม่เกิน 3
คะแนน อีกทั้งหากเป็นรายการใหญ่ ที่มีรถเข้าแข่งมาก จะแบ่งออกเป็น 2 คลาสส์ คือ กำลังขับ 1-600 วัตต์ และ 601 วัตต์ขึ้นไป
ในกรณีได้คะแนนเท่ากัน จะตัดสินจากคะแนนคุณภาพเสียงก่อน ถัดไปเป็นคะแนนการติดตั้ง ถ้ายังคะแนนเท่ากัน ให้วัด RTA 30 คะแนน ถัดไปวัด SPL 35 คะแนน (135 ดีบี) ถ้ายังเสมอกันอีก ให้ครองแชมพ์ร่วมกัน ทั้งนี้มีเวลาให้ปรับแต่งกราฟ 15 นาที ก่อนการวัด RTA แต่ห้ามนำเครื่องวัดเข้าไปในช่องการแข่งขัน
การวัดค่า RTA จะมี 30 คะแนนเต็ม ในกรณีที่กราฟมีความต่อเนื่องกลมกลืนกันดีแต่หากกราฟเบี่ยงเบนเกิน +/-3 ดีบี จะตัดจุดละ 1 คะแนน ส่วนการวัดค่า SPL จะใช้ระดับความดัง 100 ดีบี เป็นฐาน และ 135 ดีบี เป็นเพดาน มีคะแนนเต็ม 35 คะแนนจาก 100-135 ดีบี อาทิวัดได้ 120 ดีบี จะได้ 20 คะแนน แต่ถ้าได้เกิน 135 ดีบี จะได้เต็ม ไม่เกิน 35 คะแนน อาทิวัดได้ 140 ดีบี จะได้ 35 คะแนนเต็ม เป็นต้น
[table]
ตารางคะแนนคุณภาพเสียง
หัวข้อ/รุ่น ,ROOKIES ,STREET ,ULTIMATE
ความกลมกลืน สมจริง ,40 ,100 ,100
เวทีเสียง ,40 ,65 ,65
มิติเสียง ,25 ,50 ,50
ความผิดเพี้ยน ,30 ,30 ,30
เสียงรบกวน ,15 ,25 ,25
การเข้าถึงระบบ ,- ,7 7
รวม ,150 ,277 ,277
[/table]
IDBL
เป็นประเภทการแข่งขันที่เน้นพลัง วัดความดังสูงสุดของระบบเสียง โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพเสียง ภายใต้แรงดันไฟไม่เกิน 18 โวลท์ DC แบ่งรุ่น และคลาสส์การแข่งขัน ตามขนาดพื้นที่หน้าตัดลำโพง และการออกแบบภายในรถตามกฎเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
STOCK เป็นรุ่นที่ผู้เข้าแข่งขัน ต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้รับการสนับสนุนจากวงการเครื่องเสียงรถยนต์ ภายในห้องโดยสารต้องคงเดิมนับจากขอบหลังประตูหน้าไปด้านหน้ารถ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่มาจากโรงงาน จำกัดแอมพ์ 1 เครื่อง เสริมแคพ 1 ลูก ในการขับซับ 1 ดอก เพิ่มแบทเตอรีได้ 1 ลูก ตู้ซับสูงไม่เกิน 25" ต้องอยู่ห้องเก็บสัมภาระ หรือไม่เกินกึ่งหนึ่ง วัดจากเสา B ถึงท้ายรถ (กรณีรถแวน และเอสยูวี) หรือเสา B ถึงผนังหลังรถ (กรณีรถกระบะ) แบ่งออกเป็น 3 คลาสส์ คือ 1. 1-160 ตารางนิ้ว ไม่มีผนัง 2. 161-260 ตารางนิ้ว ไม่มีผนัง 3. 261 ตารางนิ้วขึ้นไป ไม่มีผนัง
ADVANCED เป็นรุ่นที่ผู้เข้าแข่งขันมีส่วนเกี่ยวข้อง ได้รับการสนับสนุนจากวงการเครื่องเสียงหรือต้องการเข้าแข่งขันเอง ตกแต่งห้องโดยสารเพิ่มเติมได้มากกว่ารุ่น STOCK สามารถสร้างผนังได้ แต่ต้องอยู่หลังแนวเสา B เพิ่มไดชาร์ทเป็น 2 ตัวได้ ไม่จำกัดแอมพ์ และแบทเตอรี กระจกบานหน้าเปลี่ยนเป็นวัสดุโปร่งใสได้ ต้องคงการมองเห็น 70 % จากของเดิมที่นั่งสามารถถอดออกระหว่างทดสอบได้ แบ่งออกเป็น 5 คลาสส์ คือ 1. 1-360 ตารางนิ้ว ไม่มีผนัง 2. 1-260 ตารางนิ้ว 3. 261-360 ตารางนิ้ว 4. 361-720 ตารางนิ้ว 5. 721 ตารางนิ้วขึ้นไป
ULTIMATE เป็นรุ่นใหญ่สุด และมีการตกแต่งห้องโดยสารเพิ่มเติมได้มากกว่ารุ่น ADVANCED สามารทำแผงพื้นรถได้สูงกว่าขอบประตู เพดานตกแต่งต่ำกว่าขอบประตูด้านบน มีการเสริมแต่งแผงประตูจากยางขอบกระจกเกิน 4" มีการตกแต่งช่องวางเท้า ทั้งนี้
จะต้องสามารถติดตั้งไมโครโฟนได้ ห้องโดยสารต้องเพียงพอสำหรับผู้ใหญ่สูงเฉลี่ย 2 คน และต้องมีรีโมทเพื่อควบคุมเสียงจากภายนอกรถ แบ่งออกเป็น 4 คลาสส์ คือ 1. 1-260 ตารางนิ้ว 2. 261-520 ตารางนิ้ว 3. 521-1020 ตารางนิ้ว 4. 1021 ตารางนิ้วขึ้นไป
การคำนวณหน้าตัดลำโพง ให้วัดเส้นผ่าศูนย์กลางของซับวูเฟอร์ ใช้สูตร r โดย = 3.14 และ r = เส้นผ่าศูนย์กลาง/2 หรือ รัศมี ตัวอย่าง ซับวูเฟอร์ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10" จะมีพื้นที่หน้าตัด 3.14x(10/2)x(10/2) = 78.5 ตารางนิ้ว ในกรณีหน้าตัดเป็นรูปทรงอื่น ให้ใช้สูตรเรขาคณิตรูปทรงนั้นๆ ในการคำนวณ
การติดตั้งไมโครโฟน จะวัดระดับเสียงที่บริเวณกระจกหน้า โดยวัดจากเสา A เข้าไปขนานกับกระจก 12" และวัดจากคอนโซลหน้าปัดขึ้นมาในแนวดิ่ง 4" และปลายไมโครโฟนห่างจากกระจก 1" ปัจจุบันมีเครื่องวัดแบบดูดติดกระจก ขนาดเล็ก และหนา 1" ทำให้ติดตั้งได้ง่ายตามตำแหน่ง ซึ่งวัดความดังได้ถึง 190 ดีบี โดยผู้เข้าแข่งขันมีเวลาในการปรับทูน 2 นาที จากนั้นแข่งขัน 30 วินาที และต้องนำรถออกภายใน 2 นาที ซึ่งสามารถลงทะเบียนขอทดสอบได้หลายครั้ง เพื่อเลือกคะแนนสูงสุด
สมเกียรติ พุคยาภรณ์
บทบาทใน IASCA THAILAND
คาร์ สเตริโอ : การแข่งขัน IASCA THAILAND ที่ผ่านมา 2 สนาม มีการแข่งขันครบหมดทุกรุ่นหรือไม่ ?
สมเกียรติ : ไม่ครบทุกรุ่น เพราะหากจะนำมาจัดแข่งขันกันครบทุกรุ่นในบ้านเรา ยังมีนักแข่งไม่พร้อม และที่แข่งขันกันทั่วโลกก็จะมีแต่ประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ที่มีการจัดแข่งขันกันครบทุกรุ่น แต่ก็มีไม่ทุกสนาม เพราะแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันนิดเดียวเท่านั้น อย่างเช่น รุ่น ROOKIES กับ รุ่น STREET SMART ซึ่งเราได้เลือกจัดแข่งรุ่น STREET SMART
คาร์ สเตริโอ : การเลือกที่จะบันทึกสถิติโลกในแต่ละสนามมีกฎเกณฑ์อย่างไร ?
สมเกียรติ : กติกาของ IASCA มีไว้ว่า หากจะบันทึกสถิติโลก เครื่องวัดต้องผ่านการคาริเบทโดย IASCA USA และต้องมีตัวแทนจาก IASCA USA มาด้วย โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมค่าตัวจะอยู่ที่ 2 แสนบาท
คาร์ สเตริโอ : จากที่แข่งมา 2 สนาม มีสนามแรกที่ได้รับการบันทึกสถิติโลก คิดว่าจะมีสนามไหนอีกที่จะบันทึกสถิติโลก ?
สมเกียรติ : อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่าหากจะบันทึกสถิติ ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสนามละ 2 แสนบาท ค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาจากสมาคม ฯ ซึ่งจะเป็นภาระหนัก เราจึงเลือกที่จะบันทึกสถิติที่สนามแรกตอนเปิดตัว และคาดว่าสนามสุดท้าย ชิงแชมพ์ประเทศไทย
จะมีการบันทึกสถิติกันอีกครั้ง
คาร์ สเตริโอ : ตอนนี้ผู้ตัดสินของเราคิดว่าพร้อมไหม ?
สมเกียรติ : ผู้ตัดสินที่ผ่านการฝึกอบรมทุกคนล้วนมีความพร้อม เพราะหลักสูตรการอบรม เราใช้ของ IASCA USA ปัญหาก็คือ เราให้ได้แต่ความรู้ ส่วนทักษะประสบการณ์
เรายังไม่สามารถหาสนามให้เขาฝึกฝนกันได้ เพราะกรรมการส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ในวงการ
และยังไม่ได้รับความวางใจจากนักแข่งในบ้านเรามากนัก เพราะฉะนั้นผมคิดว่าจะส่งไปหาประสบการณ์ในสนามต่างประเทศแทน
คาร์ สเตริโอ : ทราบมาว่าทาง IASCA USA ได้แต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าผู้ตัดสิน ?
สมเกียรติ : ผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าผู้ตัดสินคนแรก
และปัจจุบันนี้ยังเป็นคนเดียวของประเทศไทย สามารถฝึกอบรมผู้ตัดสินได้
คาร์ สเตริโอ : เปรียบเทียบฝีมือของผู้ร่วมแข่งประเทศเรากับอาเซียนเป็นอย่างไร ?
สมเกียรติ : หากเทียบกับกลุ่มอาเซียนด้วยกัน เท่าที่ผ่านมาด้านการทูนเสียงของเราอยู่ชั้นแนวหน้า แต่ด้านงานฝีมือในบ้านเรายังห่างกันมากไป กลุ่มที่เข้าแข่งขันล้วนมีฝีมือ เนื้องานก็ดีจริงๆ แต่กลับกัน ร้านทั่วไปยังมีฝีมือห่างกันมาก ทำให้ค่าเฉลี่ยสู้ประเทศสิงคโปร์ไม่ได้ เพราะที่นั่นเป็นประเทศเล็ก ทำให้ร้านต่างๆ มีฝีมือใกล้เคียงกัน
คาร์ สเตริโอ : นักแข่งในบ้านเรายังมีจุดบกพร่องตรงไหน ?
สมเกียรติ : ส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญกับขนาดฟิวส์และสายไฟ จุดนี้จะโดนหักคะแนนกันมากที่สุด คะแนนตรงนี้มีถึง 5 คะแนน โดยวิธีการคำนวณฟิวส์ ให้ใช้สูตร ขนาดฟิวส์ (แอมพ์) วัตต์รวมทั้งหมด EFFICIENCY 50 % =(วัตต์)x2/แรงดันไฟ (โวลท์) ยกตัวอย่าง วัตต์รวม 600 วัตต์ แรงดันไฟ 13 โวลท์ ต้องใช้ฟิวส์ = 600x2/13 ได้ค่าออกมา 92.3 ดังนั้นต้องใช้ฟิวส์ขนาด 92 แอมพ์ ขึ้นไป หากเปิดในตารางก็จะได้ขนาด 100 แอมพ์ และได้ขนาดของสายด้วย
คาร์ สเตริโอ : การแข่งขัน IASCA ให้ประโยชน์อะไรกับวงการเครื่องเสียง ?
สมเกียรติ : เป็นการกระตุ้นตลาด ช่วยพัฒนาฝีมือของร้านค้า และคุณภาพของสินค้า
โดยประโยชน์ทั้งหมดก็จะเป็นของผู้บริโภคทั้งนั้น ทั้งฝีมือและคุณภาพสินค้า
คาร์ สเตริโอ : อยากฝากอะไรถึงผู้สนใจที่จะเข้าร่วมแข่งขัน ?
สมเกียรติ : อยากให้ศึกษากฎ กติกาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้โดนหักคะแนน
เชื่อว่าร้านบ้านเรามีฝีมือสู้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่มองข้ามจุดเล็กๆ น้อยๆ ไป ทำให้โดนหักคะแนนกัน และขอฝากถึงข่าวประชาสัมพันธ์สนาม 3 ที่จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 23-24 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ณ โรงเรียนเทคโน ฯ ภาคเหนือ 919 พหลโยธิน
ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : พิเศษ(cso)