ข่าวรอบโลก(4wh)
ไครสเลอร์/ฮอนดา/เมร์เซเดส-เบนซ์/นิสสัน/ซาบ/ฟอร์ด/แลนด์ โรเวอร์
ไครสเลอร์
เผยโฉม 4 ดาวเด่นดวงใหม่
ไครสเลอร์ เกือบมั่นใจเต็มร้อยที่จะเปิดไฟเขียวให้รถแนวคิด 4 รุ่นเข้าสู่สายพานการผลิต เนื่อง
จากได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ชมในช่วงของการเปิดตัวในงาน มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ ที่ผ่านมา ดอดจ์ เอม 80 พิคอัพ (M80), ฟอร์ด ทนกา พิคอัพ (TONKA), จีพ คอมพาสส์ (COMPASS) และ ปาซิฟิกา (PACIFICA) ซึ่งทั้ง 4 รุ่นนี้มี ดอดจ์ และ จีพ ที่เน้นราคาถูกจากการที่ใช้ต้นทุนการผลิตที่ต่ำมาเป็นจุดดึงดูดความสนใจ ไครสเลอร์ หวังเป็นอย่างมากว่าจะขายได้จำนวนมากในกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นวัยรุ่น
ตัวถังของ ดอดจ์ เอม 80 และ จีพ คอมพาสส์ แข็งแรงมาก จากการใช้แพลทฟอร์มของรุ่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน และจะสามารถผลิตออกขายทั่วโลกได้ในช่วงเวลา 18-24 เดือน โดย คอมพาสส์ จะใช้
แพลทฟอร์มของ จีพ เชอโรคี วางเครื่องยนต์ วี 6 สูบ 3.7 ลิตร ในขณะที่ เอม 80 จะใช้แพลท
ฟอร์มของรุ่น ดาโกตา และวางเครื่องยนต์ วี 6 สูบ 210 แรงม้า ผู้ออกแบบ จีพ คอมพาสส์ บอกว่าต้องการให้ คอมพาสส์ เหมือนกับรถแข่งแรลลีใน ยุโรป ทำให้รูปร่างของรถออกแบบมาในสไตล์ ดับเบิลยูอาร์ซี ที่ให้ความรู้สึกบึกบึนแข็งแรง แต่ยังคงความเป็น จีพ อยู่ ส่วน ดอดจ์ เอม 80 นั้นถอดแบบมาจากรถกระบะ ดอดจ์ ในยุคปี 1930 ถึง 1940 เน้นเอาใจกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการรถเล็กๆ หาซื้อได้ด้วยตัวเอง ขับสนุก คล่องตัว และใช้งานได้ในทุกสถานการณ์
ฟอร์ด ทนกา เป็นรถกระบะ 6 ล้อ ที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่มาก วางเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ความจุมากถึง 6.0 ลิตร แหวกแนวด้วยบานพับฝาท้ายกระบะแบบเปิดกางออกทางด้านข้าง ถ้าเข้าสู่สายพานการผลิตเมื่อไรคงจะได้เห็นกระบะ ฟอร์ด รุ่นยักษ์กลับมาวิ่งบนถนนอีกครั้ง
ปาซิฟิกา เป็นรถมินิแวนที่ได้รับการออกแบบมาในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครในทุกๆ จุด กำลังขับเคลื่อนได้จากเครื่องยนต์ วี 6 สูบ 3.5 ลิตร 250 แรงม้า ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบออลล์วีลดไรฟคล้ายกับของ เอาดี ขนาดของตัวถังยาวกว่า เอาดี แต่สั้นกว่า เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์ มีกำหนดออกขายใน สหรัฐอเมริกา ปีหน้า รูปทรงของรถเป็นการผสมผสานรูปแบบของรถทั้งครอสส์ไฟร์ ใหม่ของ ไครสเลอร์ พีที ครูเซอร์ และ มินิแวน วอยาเจอร์ รุ่นปัจจุบัน กระจังหน้าแบบช่องวางไข่ ไฟหน้าแบบโพรเจคเตอร์บีม ไฟเสริมการขับซ่อนไว้ในกันชน ไฟท้ายเท่ในแนวตั้ง และกันชนหลังอยู่ในแนวต่ำให้ความรู้สึกแบบมินิแวนเป็นอย่างดี เบาะนั่งคู่หน้าแบบบัคเกทซีท นั่งสบาย ในขณะที่เบาะแถวสองและสาม สามารถพับเก็บราบกับพื้นเพื่อเพิ่มเนื้อที่สำหรับการบรรทุกของได้ ภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ทูโทนและลายไม้ มีจอดีวีดีติดตั้งที่เพดานรถสำหรับผู้โดยสารเบาะแถวสามได้ดู หลังคาซันรูฟแบบยาวตลอดแนว นอกจากนี้ยังปลอดภัยด้วยแอร์แบกแบบม่านด้านข้างสำหรับเบาะทั้งสามแถวด้วย
ฮอนดา
ส่งรถพันทางบุก สหรัฐอเมริกา
จากงาน มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ อีกเช่นกัน ฮอนดา นำเอารุ่น อาร์ดี-เอกซ์ ที่เป็นรถพันทางผสานการทำงานจากทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และมอเตอร์ไฟฟ้า รูปทรงของรถคลุมเครือระหว่างคูเป
กับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ
ในขณะที่รุ่น ไพลอท เป็นรถแบบ 8 ที่นั่ง ที่ให้รูปลักษณ์แบบเอมพีวี 4x4 อย่างเต็มตัว วางเครื่องยนต์วี 6 สูบ 3.2 ลิตร ไพลอท เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่นใหญ่สุดเหนือกว่า เอชอาร์-วี และ ซีอาร์-วี คู่แข่งที่สำคัญของ ไพลอท คือ แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี จะออกวางจำหน่ายใน สหรัฐอเมริกา ช่วงหน้าร้อนนี้
ในอีก 2 ปีข้างหน้า หรือปี 2547 จะเริ่มผลิตรถเอมพีวี ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกออกขาย โดยเผยโฉมให้เห็นเป็นครั้งแรกในงาน มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ ที่ผ่านมา แกรนด์ สปอร์ท ทัวเรอร์ สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 258 กม./ชม. แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเพียงทำขึ้นมาเพื่อศึกษาการออกแบบ แต่ก็อาจจะเข้าสู่การผลิตได้ในอีกไม่ช้า
สำหรับรุ่นสุดยอด พร้อมชุดแต่งจากเอเอมจี ใช้แพลทฟอร์มตัวถังจากรุ่น เอม-คลาสส์ โครงสร้างตัวถังแบบยูนิเฟรม GST เป็นรถเอมพีวีแบบ 6 ที่นั่ง ที่มีรูปพรรณสัณฐานภายนอกโค้งมนเกลี้ยงเกลา ตัวรถไม่มีเสากลางมาคั่นระหว่างประตูหน้าและหลัง บานพับประตูหลังย้ายมาติดตั้งทางด้านหลัง ทำให้การเปิดประตูสามารถเปิดอ้าออกได้เหมือนประตูตู้เสื้อผ้า ทำให้การขึ้น/ลงห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายตามแบบฉบับของ เมร์เซเดส-เบนซ์ หลังคารถแทนที่จะเป็นเหล็ก กลับเป็นกระจกปรับแสงด้วยไฟฟ้า สามารถเลือกความเข้มของแสงที่จะส่องเข้ามาในรถได้ ด้วยการกดปุ่มตามต้องการ เบาะนั่งสองแถวหน้าเป็นแบบแยกนั่งเป็นอิสระ ปรับตำแหน่งท่านั่งด้วยไฟฟ้าพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุด เบาะแถวสามสามารถพับเก็บแบนราบกับพื้นรถได้
ขุมกำลังของรถเป็นเครื่องยนต์ วี 8 สูบ 5.5 ลิตร ที่ได้รับการปรับแต่งจากเอเอมจี ทำให้ได้กำลังสูงสุดถึง 360 แรงม้า เพื่อส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้าแบบเดียวกับที่ใช้ใน เอม-คลาสส์ รุ่นปัจจุบัน สามารถทำความเร็วจาก 0-96 กม/ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 258 กม./ชม.
นิสสัน
ส่ง เอฟเอกซ์ 5 ประกบ เอกซ์ 5
นิสสัน เผยโฉม เอฟเอกซ์ 5 ให้เห็นเป็นครั้งแรกในงาน มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ ที่ผ่านมา ซึ่งจะลงสังเวียนต่อสู้กับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5
รูปทรงของ นิสสัน เอฟเอกซ์ 5 ผสมผสานระหว่าง เอาดี สเตพเพนวูล์ฟ กับ อัลฟา โรเมโอ 147 รถแนวคิด เอฟเอกซ์ 5 นี้เป็นผลงานการออกแบบของ อินฟินิที รถหรูหราใน สหรัฐอเมริกา ของ
นิสสัน ขนาดรูปร่างก็พอฟัดพอเหวี่ยงกับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 ได้ แต่ตัวถังค่อนข้างจะต่ำเหมือนรถคูเป อีกทั้งหน้าต่างหลัง และไฟท้ายก็ยังออกไปทางสไตล์ อัลฟา โรเมโอ อย่างเห็นได้ชัด
ขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์ วี 8 สูบ 4.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดกว่า 300 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุด
ได้มากถึง 150 แรงม้า ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ถึง 21 นิ้วพร้อมทั้งไฟท้ายแบบ LED ให้ความรู้สึกในแบบรถสปอร์ท รวมไปถึงการตกแต่งภายในด้วย ที่ใช้แป้นเหยียบที่ทำจากอลูมิเนียม และแผงหน้าปัดแบบลอยตัว
ซาบ
9-3X คูเป 4x4
เป็นอีกคันที่โชว์ตัวใน งานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ รถแนวคิด ซาบ 9-3X เป็นรถครอสส์โอเวอร์ 4x4 ใหม่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเอามาจากรุ่น 9-3 กำหนดเข้าสู่การผลิตในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยจะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และเบนซินเทอร์โบชาร์จ แต่เครื่องยนต์ที่วางในรถแนวคิดคันนี้เป็นเครื่องยนต์ วี 6 สูบ 2.8 ลิตร 280 แรงม้า ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 258 กม./ชม.
มั่นใจด้วยระบบดิสค์เบรคหน้าหลังของเบรมโบแบบ 4 สูบ ต่อแคลิเพอร์กับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วบนยางมิเชอแลง ขนาด 245/40 รุ่นสปอร์ท ไพลอท รับเบอร์ ตัวรถออกแบบให้มีกระจกบังลมครอบคลุมตั้งแต่ด้านหน้าไปจรดด้านข้าง แนวเส้นด้านข้างรถถูกยกให้อยู่ในระดับที่สูง ภายในนั่งได้อย่างสบายถึง 4 คน ขนาดของตัวรถพอๆ กับ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสส์ สปอร์ท คูเป ต่างกันก็ตรงที่ความจุเนื้อที่เก็บของที่มากถึง 950 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง ฝาปิดตัวถังรถด้านท้ายแยกเปิดซ้ายขวาได้ พร้อมร่องวางของสัมภาระที่ปรับแต่งได้เพื่อความปลอดภัยในการบรรทุกสัมภาระระหว่างการเดินทาง ระบบช่วงล่างหลังแบบโฟร์ลิงค์ ให้ความมั่นใจได้ดีในขณะขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
โฟล์คสวาเกน
ออกรถธงพันธุ์ใหม่ มาเกลลัน
ในขณะทื่ โฟล์คสวาเกน มี ตูอเรก (TOUAREG) รถวิบากรุ่นยักษ์ที่พัฒนาเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับ กาเยนน์ (CAYENNE) ของ โพร์เช โฟล์ค ฯ ยังมีรถครอสส์โอเวอร์ รุ่น มาเกลลัน (MAGELLAN) ซึ่งเป็นรถที่ผสมผสานความเป็นรถทั้งแบบจอมลุย 4x4 รถโดยสารและเอสเตท แหล่งข่าววงในระบุว่าหาก มาเกลลัน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากงาน มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ ที่ผ่านมา อาจจะมีการผลิตเหมือนกับรุ่น บีเทิล และ ไมโครบัส ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้
ขุมกำลังในรถแนวคิดนี้ เป็นเครื่องยนต์ดับเบิลยู 8 ขนาด 4.0 ลิตร 275 แรงม้า และแรงบิด 37.7 กก.-ม. ส่งแรงบิดทั้งหมดผ่านเกียร์ทิพทรอนิคไปขับเคลื่อนล้อทั้งสี่ ทั้งที่มีหลายอย่างคล้ายกับ
ตูอเรก ทั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์ และมิติของรถ แต่ค่าย โฟล์ค ฯ แจ้งว่ารถทั้งสองรุ่นไม่มีการใช้ชิ้นส่วนร่วมกันเลย
ระบบช่วงล่างแบบถุงลม ช่วยให้การขับทั้งบนทางเรียบ และทางวิบากเป็นไปอย่างนุ่มนวล ในขณะที่การเปลี่ยนเกียร์สามารถใช้นิ้วดีดสวิทช์เปลี่ยนเกียร์ที่อยู่บนพวงมาลัยได้ ภายในจัดแถวเบาะนั่ง 3 แถวได้อย่างลงตัว แม้ว่าตัวรถจะสั้นกว่า เมร์เซ-เดสเบนซ์ เอม-คลาสส์ เบาะนั่งแบบแยกคู่สองแถวในขณะที่เบาะนั่งแถวสามสามารถพับเก็บแบนราบกับพื้นได้เหมือนรถเอมพีวี มีการจัดการเบาะนั่งเหมือนเช่นในรถ กอล์ฟ รุ่นมินิเอมพีวี ใหม่
ในรถแนวคิดคันนี้ มีการย้ายตราสัญลักษณ์ของ โฟล์คสวาเกน จากกระจังหน้ามาไว้ทางด้านหน้าของฝากระโปรง ซึ่งไม่แน่เหมือนกันว่ารถที่จะผลิตออกมาขายต่อไปอาจจะมีการติดตั้งตราสัญลักษณ์ไว้บนฝากระโปรงตลอดไป เพื่อเพิ่มความแกร่งให้กับรถแนวคิดนี้ได้เลือกใช้ล้ออัลลอย 6 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว นอกจากนี้ภายในตัวรถยังเลือกตกแต่งด้วยหนัง และอลูมิเนียม เพื่อให้ดูบรรยากาศเป็นรถสปอร์ท
ฟอร์ด
พิคอัพผสมเก๋ง "แวร์เต"
บางที แวร์เต (VERTE) อาจจะเป็นรถที่ประหลาดสุดของปีนี้ก็ได้ เป็นรถจากบริษัทเอซี หรือออสเตรเลียน คาร์ส ที่ผลิตโดย ฟอร์ด ใน ออสเตรเลีย เอซีได้แต่งตั้งบริษัทใหม่คือ VERTE AUTOMOTIVE เพื่อนำเข้ารถ ฟอร์ด ฟอลคอน และพิคอัพอเนกประสงค์ โดยมีระยะสัญญา 5 ปี รถที่ออกขายจะใช้ตรา VERTE ทำให้รถคันที่เห็นเป็นรุ่น แวร์เต เทมเพสต์ (VERTE TEMPEST) ที่คงไม่แตกต่างจาก นิสสัน เอนวี ในบ้านเราสักเท่าไร รถ เทมเพสต์ คันนี้ วางเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 6 สูบ 4.0 ลิตร 192 แรงม้า ส่งกำลังขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ใช้แกสแอลพีจี เป็นเชื้อเพลิง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างมาก ระบบช่วงล่างหน้า/หลังแบบปีกนก ระบบห้ามล้อ พร้อมเอบีเอส ภายในตัวรถตกแต่งด้วยหนังแท้ทั้งหมด นับว่าเป็นพิคอัพสไตล์เก๋งอีกคันที่น่าใช้
แลนด์ โรเวอร์
แจ้งคลอดสำหรับคอกที่ 5
แลนด์ โรเวอร์ ได้รับรองอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ เบบี เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ท ซึ่งนับว่าเป็นรถรุ่นที่ 5 โดยต้องรอไปอีก 5 ปีก่อน ถึงจะมีการเข้าสู่สายพานการผลิต คาดว่าจะมียอดการผลิต 27,500 คัน/ปี คู่แข่งที่น่ากลัวคือ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 สำหรับ เบบี เรนจ์โรเวอร์ นี้จะคั่นกลางระหว่างดิสคัฟเวอรี 7 ที่นั่ง กับ เรนจ์ โรเวอร์ ใหม่ บอสส์ใหญ่ของ แลนด์ โรเวอร์ บอกว่า โมเดลที่ 5 นี้บรรจุไว้ในแผนงานของเราแล้ว แม้ว่าจะต้องรอคอยกันนานสักหน่อย
ภายใต้ชื่อรหัสรุ่น L320 คาดว่าจะใช้โครงสร้างตัวถังแบบ BODY-ON-FRAME หรือตัวถังแบบโมโนคอก เช่นเดียวกับ ดิสคัฟเวอรี รุ่นต่อไป แม้ว่าจะใช้ชิ้นส่วนช่วงล่างหลายตัวร่วมกันกับ เรนจ์
โรเวอร์ ใหม่
กำหนดแจ้งคลอดในปี 2549 โดยรุ่น 5 ที่นั่ง สปอร์ที จะวางเครื่องยนต์ดีเซล หรือไม่ก็เบนซิน ที่ได้รับการโมดิฟายมาแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการปรับแต่งทางด้านวิศวกรรมโดยทีมช่างของ แลนด์ โรเวอร์
เมื่อปลายปีที่แล้ว แลนด์ โรเวอร์ ได้ประกาศว่าในปี 2547 ดิสคัฟเวอรี รุ่นต่อไปจะประกอบในโรงงาน โซลิฮัลล์ (SOLIHULL) ก่อนที่โรงงานนี้จะปิดลงเพื่อโอนให้เป็นโรงงานประกอบรถของ
ฟอร์ด ต่อไป เนื่องจากกำลังผลิตที่ไม่เพียงพอของ ฟอร์ด ในขณะนี้
สำหรับข่าวคราวของ ดิสคัฟเวอรี ใหม่ ใกล้จะเป็นความจริงแล้ว ให้ความรู้สึกที่อ่อนช้อยโค้งมนทั้งภายนอก และภายใน พร้อมเบาะนั่ง 3 แถว สำหรับผู้โดยสาร 7 คน
ABOUT THE AUTHOR
ว
วิโชค ควรรักษ์เจริญ
ภาพโดย : 4x4 MAGAZINE INTERNATIONAL AUTOCARนิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : ข่าวรอบโลก(4wh)