ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์ ต้องรับฝุ่นอยู่ตลอดเวลา การตรวจเชคไส้กรองอากาศเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็น DIY…คุณทำเองได้ ฉบับนี้ ขอแนะนำวิธีเป่ากรองอากาศ ด้วยปั๊มลมไฟฟ้า
เครื่องยนต์ของเราจำเป็นต้องอาศัยอากาศในการจุดระเบิด เพื่อให้ได้กำลังออกมาใช้งาน แต่เครื่องยนต์ไม่สามารถรับอากาศจากภายนอกโดยตรงได้ เพราะฝุ่นละอองที่ปะปนอยู่ในอากาศ อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหาย หรือลดประสิทธิภาพลง ดังนั้นรถทุกคันจึงต้องมีไส้กรองอากาศ เพื่อทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรก ขนาดของฝุ่นละอองในอากาศนั้นมีตั้งแต่ 0.001-1 ไมครอน (ฝุ่นละอองที่มองเห็นด้วยตาเปล่าได้ มีขนาดประมาณ 10 ไมครอน) ดังนั้น ไส้กรองอากาศที่จะสามารถดักจับฝุ่นละอองได้ จะต้องมีประสิทธิภาพดีจริง และการดูแลตรวจเชคไส้กรองอากาศให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน จึงเป็นสิ่งสำคัญ
อายุการใช้งานของไส้กรองอากาศจะสั้น หรือยาว ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และสภาพแวดล้อมเป็นหลัก ระยะการตรวจเชคที่ง่ายที่สุด คือ การวัดจากระยะทางที่รถวิ่งเป็นหน่วย กม. โดยทั่วไปบริษัทรถยนต์ใช้วิธีนี้ในการตรวจ โดยกำหนดการเปลี่ยนไส้กรองอากาศไว้ทุกๆ 20,000-40,000 กม. ระหว่างช่วงการใช้งานที่ยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยน เราสามารถยืดอายุการใช้งานของไส้กรองอากาศ โดยการกำจัดฝุ่นละอองที่ไส้กรองอากาศกักไว้ ให้สามารถดักจับฝุ่นใหม่ได้ ด้วยวิธี “เป่า” ทุกๆ ประมาณ 5,000 กม. หรือถ้าเป็นไปได้ ทุกเดือนยิ่งดี โดยจะต้องเป่าจากภายในออกสู่ภายนอกเท่านั้น
1. ปั๊มลมไฟฟ้า
2. ถุงมือ
3. แผ่นกรองอากาศ
1. ใส่ถุงมือให้เรียบร้อย ป้องกันขอบคมต่างๆ
2. ค่อยๆ ปลดคลิพลอคออกจากฝาครอบทีละตัว
3. เปิดฝาครอบอย่างระมัดระวัง และนำไส้กรองอากาศออกมา
4. พิจารณาดูว่าสกปรกเพียงใด ถ้าไม่ดำมาก สามารถเป่าได้
5. นำปั๊มลมไฟฟ้าออกมา ประกอบหัวฉีดลม แล้วเปิดสวิทช์ให้ทำงาน
6. เป่าไส้กรองอากาศจากด้านในออกสู่ด้านนอก และควรอยู่เหนือลม
7. เป่าฝุ่นที่อยู่ด้านในหม้อกรองอีกครั้ง ก่อนใส่กรองกลับคืน
8. ใส่กรองอากาศเข้าหม้อกรอง แล้วรัดด้วยคลิพลอคให้ครบ เป็นอันเสร็จ
บทความแนะนำ