อิตาลี/สหรัฐอเมริกา-ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทเมืองมะกะโรนี เฉลิมฉลองวาระ 70 ปี ของการจำหน่ายสินค้ารถยนต์ในเมืองมะกัน โดยใช้การแข่งรถ MIAMI GRAND PRIX (ไมอามี กรองด์ ปรีซ์) ซึ่งมีขึ้นที่เมืองเอกของรัฐ FLORIDA (ฟลอริดา) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 เป็นสถานที่เปิดตัวรถธงรุ่นใหม่ คือ FERRARI 12CILINDRI (แฟร์รารี 12 ชีลินดรี) ซึ่งเรียกขานในภาษาอิตาลีว่า FERRARI DODICI CILINDRI (แฟร์รารี โดดิชี ชีลินดรี) เป็นการเปิดตัวพร้อมคำประกาศว่า นี่คือรถ “ม้าลำพอง” ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์
จะเริ่มการจำหน่ายในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง/บังคับเลี้ยวทุกล้อ ซึ่งจะมีตัวถังให้เลือก 2 แบบ คือ ตัวถัง 2 ประตูคูเป 2 ที่นั่ง ซึ่งติดป้ายชื่อ FERRARI 12CILINDRI กับตัวถัง 2 ประตูเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ซึ่งติดป้ายชื่อ FERRARI 12CILINDRI SPIDER (แฟร์รารี 12 ชีลินดรี สไปเดอร์) แบบแรกเป็นรถคูเปรุ่นใหม่ซึ่งกำลังจะเข้าสู่สายการผลิตแทนที่รถรุ่นเดิม คือ FERRARI 812 SUPERFAST (แฟร์รารี 812 ซูเพอร์ฟาสต์) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2017 และขณะนี้เลิกการผลิตไปแล้ว ส่วนแบบหลังเป็นตัวตายตัวแทนของรถเปิดประทุน FERRARI 812 GTS (แฟร์รารี 812 จีทีเอส) ซึ่งตามมาเมื่อปี 2019 และกำลังจะเลิกผลิตเช่นกัน
รถคูเปซึ่งมีขนาดตัวถัง ยาว 4.733 ม. กว้าง 2.176 ม. และสูง 1.292 ม. มีช่วงฐานล้อยาว 2.700 ม. และมีน้ำหนักรถเปล่า 1,560 กก. ส่วนรถเปิดประทุนซึ่งก็มีขนาดตัวถัง ยาว 4.733 ม. กว้าง 2.176 ม. สูง 1.292 ม. และมีช่วงฐานยาว 2.700 ม. เช่นกัน น้ำหนักรถเปล่าเพิ่มขึ้น 60 กก. เป็น 1,620 กก. ติดตั้งประทุนหลังคาแบบแข็ง เปิด/ปิดด้วยการกดปุ่ม โดยใช้เวลาเพียง 14 วินาที และทำได้เมื่อรถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม.
ทั้งรถคูเป และรถเปิดประทุน ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงหายใจอากาศธรรมดา วี 12 สูบ 65 องศา ความจุ 6,496 ซีซี และวางเครื่องยนต์แบบ FRONT-MID-MOUNT หรือวางหน้าค่อนไปตรงกลาง เป็นเครื่องบลอคเดิมที่เคยใช้มาแล้วในรถรุ่นก่อนๆ แต่ปรับแต่งจนกำลังสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 610 กิโลวัตต์/830 แรงม้า ที่ 9,250 รตน. และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 678 นิวตันเมตร/69.1 กก.-ม. ที่ 7,250 รตน. ส่วนระบบเกียร์เป็นเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ
ตามตัวเลขของผู้ผลิต รถคูเปซึ่งราคาค่าตัวเมื่อเริ่มการจำหน่ายในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 จะเริ่มต้นที่ระดับ 395,000 ยูโร หรือประมาณ 15.8 ล้านบาทไทย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดสูงกว่า 340 กม./ชม. ส่วนรถเปิดประทุนซึ่งค่าตัวสูงกว่ากันนิดหน่อย คือ เริ่มต้นที่ 435,000 ยูโร หรือประมาณ 17.4 ล้านบาทไทย เวลาในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพิ่มเป็น 2.95 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดก็สูงกว่า 340 กม./ชม. เช่นกัน