ถ้าพูดถึง จ. เลย หลายคนคงนึกถึงสถานที่สุดฮิทอย่าง “เชียงคาน” แต่ครั้งนี้เราขอแนะนำสถานที่สุดว้าว ที่ไกลออกไปอย่าง อ. หนองหิน ที่มีสถานที่ UNSEEN มากมาย รวมถึงทางผ่านใน อ. น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์ จะสวย และว้าวขนาดไหน ไปชมกัน
เราเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่ จ. เลย ตามทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และเข้าขึ้นยอดภูทับเบิก ทาง อ. หล่มเก่า หมายเลข 2331 รวมแล้วใช้เวลากว่า 6 ชม. กับระยะทาง 440 กม. ต้องยอมรับว่า NEW ISUZU MU-X 2024 (อีซูซุ มิว-เอกซ์ 2024) ใหม่ เป็นรถที่เดินทางไกลดีเหมือนเดิม มีการปรับเซทช่วงล่างให้แน่นเฟิร์มขึ้น อาการโยนตัวน้อยลงอย่างรู้สึกได้ ผ่านรอยต่อถนน กับทางขรุขระได้ดี และขับง่ายขึ้นเยอะ จากพวงมาลัยใหม่แบบไฟฟ้า และยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 3.0 ลิตร 190 แรงม้า ที่มีกำลังเร่งแซงเหลือเฟือเหมือนเดิม ที่สำคัญประหยัดน้ำมันกว่า 12 กม./ลิตร
NEW ISUZU MU-X 2024 มีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ไปชุดใหญ่ เมื่อกลางปี 2024 ที่ผ่านมา ทำให้ MU-X ครั้งนี้ หล่อเหลาขึ้นหลายกอง เพราะนอกจากให้สีเทาใหม่แล้ว ยังเพิ่มรุ่นพิเศษ RS ที่ตกแต่งให้ลุคดูวัยรุ่นขึ้น แถมเปลี่ยนพวงมาลัยเป็นไฟฟ้าแล้ว และยังรองรับไอเสียได้ถึงยูโร 5
ภูป่าเปาะ ถือเป็น UNSEEN สุดว้าวใน อ. หนองหิน จ. เลย จุดเด่น คือ การชมบรรยากาศบนจุดชมวิวที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร เราสามารถมองเห็น “ภูหอ” ซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาที่ด้านบนเป็นยอดตัด ไม่เหมือนกับภูเขาลูกไหนๆ หากมาช่วงเช้าที่มีทะเลหมอก จะมีลักษณะคล้าย “ภูเขาไฟฟูจิ” ในประเทศญี่ปุ่น
เมื่อถึงที่ทำการภูป่าเปาะ เราต้องจอดรถไว้ แล้วใช้บริการรถอีแต๊กท้องถิ่น เพื่อเดินทางขึ้นไปชมความสวยงามบนภูป่าเปาะ คิดค่าบริการคนละ 60 บาท โดยจุดชมวิวของภูป่าเปาะมีทั้งหมด 3 จุด แต่ละจุดจะอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร ลดหลั่นตามความสูง
จุดแรก เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ไม่มีอะไรมาบังสายตา สามารถมองเห็นวิวของภูหอในมุมที่คล้ายกับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด โดยมีระเบียงยื่นออกไปให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป
จุดที่ 2 เป็นจุดชมภูหอเช่นกัน แต่เห็นในมุมกว้างขึ้นต่างจากจุดแรก ส่วนจุดที่ 3 เป็นจุดที่สามารถเห็นภูเขาฝั่งตรงข้ามกับภูหอ เป็นลักษณะผู้หญิงนอนหงาย และผู้ชายนอนหงาย ซึ่งเหมือนมาก เป็นจินตนาการที่น่าทึ่งจริงๆ
นอกจากนี้ ยังสามารถมองเห็นอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน อ. ภูผาม่าน จ. ขอนแก่น อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อ. หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ วนอุทยานแห่งชาตินายูงน้ำโสม อ. น้ำโสม จ. อุดรธานี และถ้ำเอราวัณ อ. นาวัง จ. หนองบัวลำภู เท่ากับขึ้นภูเดียวเห็นได้ถึง 4 จังหวัด
เมื่อหลายปีก่อน มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดถ้ำโพธิสัตว์ พาลูกหลานมาเล่นน้ำที่ไหลลงมาจากถ้ำ โดยปีหนึ่งจะมีแค่ครั้งเดียว ในช่วงหน้าฝน หรือก่อนวันออกพรรษาของทุกปี
วัดถ้ำโพธิสัตว์ มีปลัดสมวงษ์ อายุโท เป็นเจ้าอาวาส บริเวณวัดมีถ้ำที่มีความสูงประมาณ 400-500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ภายในถ้ำมีห้องโถงขนาดใหญ่ มีพระพุทธชินราชจำลอง 2 องค์ ตั้งตระหง่านอยู่ภายในถ้ำ รวมถึงหินงอกหินย้อยที่สวยงาม
บนยอดของถ้ำมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ที่สะสมน้ำจนเอ่อล้นเล็ดลอดในซอกหินไหลสู่ภายในถ้ำ ในช่วงหน้าฝนของทุกปี ประมาณช่วงก่อนออกพรรษา จะมีน้ำไหลออกมาจากถ้ำเป็นจำนวนมาก และไหลหลากราวกับเขื่อนแตกเลยทีเดียว ไหลตั้งแต่บริเวณในถ้ำ ผ่านลงบันไดพญานาค จนมีชาวบ้านที่ทราบข่าวพาลูกหลานมาเล่นน้ำตลอดทั้งวัน
โดยน้ำจะไหลท่วมอย่างนี้อยู่ 1-2 วันเท่านั้น จากนั้นน้ำก็จะแห้งหายไป และต้องไปรอให้น้ำไหลอีกทีในปีหน้า บริเวณรอบๆ ถ้ำยังมีป่าไม้เบญจพรรณ เช่น ป่าดิบ ป่าเบญจพรรณ และพรรณไม้ที่หายากกว่า 1,000 ชนิด อีกด้วย
การเดินทางครั้งนี้ เราตั้งใจขับเลยไปใน ต. หลักด่าน อ. น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์ ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพื่อไปชมถ้ำใหญ่น้ำหนาวที่สวยงาม โดยสถานที่แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาหินปูนลูกใหญ่ที่เรียกว่า ภูน้ำริน ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 996 เมตร
ภายในของถ้ำมีน้ำไหลออกมาจากปากถ้ำ และมีหินงอกหินย้อยสวยงาม อีกทั้งยังมีอากาศเย็นตลอดปี แม้จะเป็นช่วงหน้าร้อน ในถ้ำก็ยังคงมีอากาศเย็นสบายเหมือนติดแอร์
นอกจากนี้ ภายในถ้ำยังมีค้างคาวหายากอาศัยอยู่หลายชนิด อีกทั้งบริเวณถ้ำมีป่าไม้ และลำธาร ที่บรรยากาศเขียวร่มรื่นตลอดปี เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว
เลยดั้น หรือลานหินเลยดั้น ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยกะโปะ อ. น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์ อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ติดกับลำน้ำเลย มีลักษณะเป็นลานหินทรายขนาดใหญ่ขวางลำน้ำ คล้ายสะพานหินข้ามแม่น้ำ
บริเวณลานหินเต็มไปด้วยหลุมบ่อขนาดใหญ่-เล็ก ลึกลงไปในเนื้อหินคล้ายหลุมขนมครก ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำนานกว่า 100 ปี โดยลักษณะการกัดกร่อนของชั้นหินทรายนี้ มีชื่อเรียกทางวิชาการว่า กุมภลักษณ์ (POTHOLE) สามารถเห็นการกัดกร่อนได้ถึง 5 แบบ คือ แบบวงกลม แบบวงรี แบบเสาหิน แบบสะพานหิน และแบบกัดเซาะด้านข้าง นับเป็นความแปลกพิสดาร และความสวยงามที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้น
นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นความมหัศจรรย์อีกหนึ่งอย่างของเลยดั้น คือ การวางตัวของชั้นหินทราย จะเป็นการวางชั้นหินหันเข้าหาด้านต้นน้ำ น้ำที่ไหลลงมาตามชั้นหินเกิดการมุดตัวลงไปใต้ผิวดิน หรือชั้นหิน แล้วไหลไปออกยังที่ต่ำกว่าที่อยู่ไกลออกไปทางปลายน้ำ ทำให้ดูเหมือนว่าสายน้ำในฤดูแล้งขาดหายไปเป็นช่วงๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ “เลยดั้น” นั่นเอง
ความสวยงามของลานหินเลยดั้น จะเห็นได้ชัดในช่วงฤดูแล้ง ที่ไม่มีน้ำท่วมสูง ประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม เพราะลานหินจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาชัดเจน สามารถลงไปถ่ายภาพเก็บความประทับใจกันได้
การมาครั้งนี้ เรามีโอกาสได้รับประทานอาหารพื้นถิ่นของ อ. หนองหิน จ. เลย แบบเอกซ์คลูซีฟ อย่างเมนู “หมูสมุนไพรอบกระบอกไม้ไผ่” จาก “บ้านภูเลียงผา รีสอร์ท” ที่พาพ่อครัวมาทำเมนูนี้กันแบบสดๆ เมื่อเสร็จพร้อมเสิร์ฟต้องบอกว่ารสชาติดีมากๆ หมูแต่ละชิ้นหอมไปด้วยสมุนไพร และกลิ่นไหม้จากกระบอกไม้ไผ่ นับเป็นเมนูที่อร่อย และไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่
ผมยังคงเลือก “บ้านภูเลียงผา รีสอร์ท” เป็นที่พักในค่ำคืนนี้ เนื่องจากอยู่ติดถนนหลัก และอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง ฟูจิเมืองเลย มากๆ จึงสะดวกหากไปในตอนเช้า แถมยังมีวิวที่สวยงาม ตอนเช้าเห็นทะเลหมอกใกล้ๆ โดยที่พักเป็นบ้านใหญ่ 1 หลัง มี 2 ห้องนอน 1 ห้องโถงใหญ่ มีห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องครัวใหญ่ และชุดครัว มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,500 บาท/คืน
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ที่เอื้อเฟื้อพาหนะในการเดินทาง
บทความแนะนำ