ชีวิตอิสระ
ISUZU 2.2 DDI MAXFORCE PRESS TRIP 2025 คาราวาน 2 แผ่นดิน “จีน-เวียดนาม”
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เชิญให้เราร่วมเดินทางในขบวนคาราวานมิตรภาพ จีน-เวียดนาม ช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ทริพนี้เป็นการลองขับ ISUZU 2.2 DDI MAXFORCE (อีซูซุ 2.2 ดีดีไอ แมกซ์ฟอร์ศ) แบบใช้งานจริง บนเส้นทาง และการจราจรที่หลากหลาย
วันแรก บินตรงสู่ “นครหนานหนิง”
สายๆ ของวันที่ 14 มกราคม 2568 เรานัดหมายกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อโดยสารสายการบิน SPRING AIRLINES บินตรงจากไทยสู่ท่าอากาศยานนานาชาติหนานหนิงอู๋ซี ซึ่งเป็นสนามบินหลักของเมืองหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ตัวสนามบินตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 32 กม. สร้างขึ้นในปี 2505 สนามบินแห่งนี้รองรับผู้โดยสาร 16 ล้านคน/ปี
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่าอากาศยานนี้เป็นที่รู้จักในชื่อสนามบินหนานหนิง (NANNING AIRFIELD) ดำเนินการโดยกองทัพอากาศทหารบกสหรัฐฯ (กองทัพอากาศที่ 14) เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ป้องกันประเทศจีน (ปี 2485-2488) สนามบินถูกใช้งานโดยหน่วยลาดตระเวนเป็นหลัก ซึ่งใช้เครื่องบินลาดตระเวน LOCKHEED P-38 LIGHTNING ภารกิจหลัก คือ บินถ่ายภาพเหนือดินแดนที่ญี่ปุ่นยึดครอง และส่งข้อมูลให้แก่หน่วยรบกองบินพิเศษของฝูงบินขับไล่ และทิ้งระเบิด พร้อมกับเป็นจุดรับ-ส่งเสบียงสำหรับฝูงบินขนส่งยุทธปัจจัย 2D ซึ่งทิ้งเสบียง และยุทโธปกรณ์ทางอากาศให้แก่กองกำลังภาคพื้นดินในแนวหน้า กองทัพสหรัฐฯ ยุติการใช้งานสนามบินแห่งนี้ ในเดือนตุลาคม 2488
วันแรกในนครหนานหนิง เป็นอะไรที่จับต้นชนปลายไม่ค่อยถูก ภาพในจินตนาการของเรา กับครั้งแรกที่มาเยือนเมืองแห่งนี้ เรานึกถึงภาพเก่าๆ ของเมืองชายแดนทางตอนใต้ ไม่คิดว่าเมืองจะทันสมัยขนาดนี้ ที่อยู่อาศัยแนวตั้งผุดขึ้นมากมาย ถนนหนทางที่กว้างขวาง รถยนต์สารพัดแบบหลากยี่ห้อมีให้เห็นตลอดสองข้างทาง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่มีชอพบแรนด์เนมระดับโลกอัดแน่นอยู่ภายใน อีกทั้งยังมีโรงแรมระดับ 4-5 ดาวตั้งอยู่ทั่วเมือง
CITY NIGHT บรรยากาศตัวเมืองพลุกพล่านไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ เป็นบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในมหานครใหญ่ของเมืองจีนเลยทีเดียว ใครจะไปคิดว่าเมืองหนานหนิง จะกลายเป็นหมุดหมายใหม่ของนักเดินทาง
วันที่สอง เยือนน้ำตกเต๋อเทียน
พโรแกรมวันนี้ ตื่นแต่เช้ามืดออกเดินทางไปชม “น้ำตกเต๋อเทียน” น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 90 นาที
น้ำตกเต๋อเทียน เป็นน้ำตก 2 แผ่นดิน ตั้งอยู่ระหว่างประเทศจีน และเวียดนาม คนฝั่งเวียดนามเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่า BAN GIOC WATERFALL เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขาเขียวขจี ที่อุดมสมบูรณ์ น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกชายแดนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
น้ำตกเต๋อเทียน ตั้งอยู่บนแม่น้ำ QUAY SON ระหว่างชายแดนประเทศจีน-เวียดนาม บริเวณหมู่บ้านเต๋อเทียน CHONGZUO CITY เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ในประเทศจีน และตั้งอยู่ในเขต DAM THUY ตำบล TRUNG KHANH จังหวัด CAO BANG ประเทศเวียดนาม น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองหนานหนิง เมืองเอกของกว่างซีจ้วง ประมาณ 145 กม. และห่างจากตัวเมือง CAO BANG ประมาณ 80 กม.
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของตัวน้ำตก เกิดจากความต่างระดับของแม่น้ำ มีความกว้างประมาณ 200 ม. และสูงประมาณ 30-70 ม. และหากมองจากด้านบนจะเห็นว่า น้ำตกทางฝั่งเวียดนาม เป็นน้ำตกที่มีเพียงชั้นเดียว น้ำตกจะไหลลงมาเป็นสายน้ำยาวๆ หากมองด้านบนจากฝั่งจีน เราจะเห็นภาพของน้ำตกที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ไหลลดหลั่นกันลงมาอย่างยิ่งใหญ่ ดูแล้วอลังการเหมือนจินตนาการภาพวาดของจีน
นอกจากภาพความยิ่งใหญ่ของตัวน้ำตกแล้ว สิ่งที่ทำให้น้ำตกเต๋อเทียน ประทับใจนักท่องเที่ยวอีกอย่าง คือ น้ำที่เป็นสีเขียวมรกตใส และมีธรรมชาติของป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์รายล้อมรอบๆ บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ จึงเป็นจุดเชคอินที่สำคัญของมณฑลกว่างซี
ไฮไลท์เด็ดของที่นี่ คือ การนั่งเรือแพลงไปสัมผัสกับความงดงามของตัวน้ำตกแบบใกล้ชิด สัมผัสละอองน้ำ และอากาศหนาวเย็น ท้องฟ้าใสๆ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และสดชื่น เป็นการชาร์จแบทเตอรีให้แก่ร่างกายได้ดีทีเดียว
มื้อกลางวัน เราทานอาหารที่ DETIAN BIAN ZHAI MEI CHAN GUAN สัมผัสอาหารจีนท้องถิ่นปรุงสดจากวัตถุดิบของหมู่บ้าน เมนูเด็ด คือ ปลาน้ำตกนึ่งซีอิ๊ว, ซุปไก่ดำ เป็นต้น ร้านแห่งนี้อยู่ติดด่านชายแดนจีน-เวียดนาม
หลังอาหารมื้อกลางวัน เราออกเดินทางสู่ LUX RESORT & HOTELS ที่พักของค่ำคืนนี้ บอกเลยว่าร้อง “WOW หนักมาก !” บรรยากาศโดยรอบของตัวโรงแรมอยู่ท่ามกลางขุนเขา และท้องนา ห้องพักดีไซจ์นพิเศษ เน้นทิวทัศน์ที่มองออกไปแบบสบายตา สบายใจ เสมือนอยู่ชนบทแล้วทำตัวสโลว์ไลฟ์ นั่งเงียบๆ ริมระเบียงชมความงามของธรรมชาติได้ตลอดวัน
วันที่สาม ข้ามพรมแดน มาขับ “2.2 DDI MAXFORCE”
เช้าวันนี้ เราดื่มด่ำกับบรรยากาศที่พักสุดอลังการ ก่อนออกเดินทางสบายๆ ลัดเลาะไปตามทางหลวงชนบท มุ่งหน้าสู่ด่านชายแดนจีน “โหย่วยี” (YOUYI) เพื่อทำเอกสารข้ามแดนด้วยตนเอง หลังใช้เวลานานพอประมาณในการต่อแถวที่ผู้คนล้นทะลัก และความไม่เป็นระเบียบของคนที่ชอบแซงคิว เราเดินเท้าพร้อมลากกระเป๋าเดินทางข้ามแดนจากด่านตรวจคนเข้าเมืองชายแดนจีน สู่ด่านตรวจคนเข้าเมืองชายแดนเวียดนาม ซึ่งก็ใช้เวลาอีกพอประมาณในการต่อแถว และทำเอกสารข้ามแดนจึงแล้วเสร็จ
เที่ยงวันนี้ เราได้เจอกับฝูงรถทดสอบ ISUZU 2.2 DDI MAXFORCE จำนวน 9 คัน พร้อมด้วยรถลีเดอร์คาราวาน, รถตู้นำขบวนของเวียดนาม และรถเซอร์วิศ ปิดท้ายขบวน กฎหมายจราจรของเวียดนาม ค่อนข้างเด็ดขาดมาก ในบางช่วงของเส้นทาง ถ้าเราขับรถอยู่ในเขตชุมชน หรือเมือง เราต้องขับที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. พ้นจากเขตเมือง ใช้ความเร็วได้ 60 กม./ชม. และถ้าขับบนทางด่วน หรือไฮเวย์ ใช้ความเร็วได้ 100-120 กม./ชม.
พาหนะประจำทริพครั้งนี้ เราได้ลองขับ ISUZU D-MAX HI-LANDER 2.2 DDI MAXFORCE (อีซูซุ ดี-แมกซ์ ไฮ-แลนเดอร์ 2.2 ดีดีไอ แมกซ์ฟอร์ศ) ที่เปลี่ยนขุมพลังใหม่ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลความจุ 2.2 ลิตร ให้กำลัง 163 แรงม้า ที่ 3,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 400 นิวทันเมตร ที่ 1,600-2,400 รตน. จุดเด่นของเครื่องยนต์รุ่นนี้ มีแรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้น 56 % ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น 10.7 % นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ เป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ REV TRONIC ที่มีอัตราทดกว้าง ให้อัตราทดเกียร์ต่อเนื่องในทุกช่วงความเร็ว
ภารกิจแรกของคาราวานเริ่มต้นจากด่านมิตรภาพชายแดนจีน-เวียดนาม เราขับรถเข้าเมืองระยะทางเบาๆ 17 กม. ฝ่าฝูงรถมอเตอร์ไซค์ มาทานมื้อกลางวัน ซึ่งเป็นอาหารจีนแบบง่ายๆ จากนั้นเราออกเดินทางต่อ จากเมือง LANG SON-HALONG BAY เหลือระยะทางอีก 170 กม. แต่ต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 4 ชม. เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางเรียบสลับทางลูกรัง ผ่านชุมชน หมู่บ้าน ผ่านเมืองเล็กๆ สิ่งที่ต้องระวัง คือ รถมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านที่ขับขี่แบบหวาดเสียว ต้องบีบแตรเตือนสนั่นหวั่นไหว ระยะทางรวม 201.2 กม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.0 กม./ลิตร เราใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนดตลอดการเดินทาง เพราะไม่อยากเสี่ยงกับค่าปรับที่แพงมาก และค่ำคืนนี้เราพักขบวนที่ THE YACTH HOTEL ในเมือง HALONG BAY
วันสุดท้าย HALONG BAY-HANOI
วันนี้เราต้องขับรถจาก HALONG BAY มุ่งหน้าสู่กรุง HANOI ระยะทาง 175 กม. โดยประมาณ พโรแกรมช่วงเช้า เราไปลงเรือเที่ยวชมความงามของ HALONG BAY เมืองแห่งนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากธรรมชาติสุดตระการตา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งแต่ปี 2537 ผืนทะเลกว้างใหญ่รายล้อมด้วยโตรกผา เกาะหินปูนกว่า 1,600 เกาะ กระจัด กระจายทั่วทะเล
ชื่อ HALONG BAY ในภาษาเวียดนาม คือ VINH HA LONG มีความหมายว่า “อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง” โดยมีตำนานพื้นบ้านกล่าวไว้ว่า ในอดีตชาวเวียดนามต่อสู้กับกองทัพผู้รุกราน เทพเจ้าบนสวรรค์จึงส่งมังกรลงมาช่วยเหลือ มังกรเหล่านี้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเล ทำให้อัญมณี และหยกกระจัดกระจายออกมาเป็นเกาะน้อยใหญ่ เสมือนเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน กลายเป็น HALONG BAY และเป็นจุดเริ่มต้นการก่อตั้งประเทศเวียดนาม
กิจกรรมไฮไลท์ของการมาเที่ยว HALONG BAY คือ ล่องเรือชมทัศนียภาพอันงดงามของเกาะต่างๆ เช่น CAT BA ISLAND, เกาะ TUAN CHAU, เกาะช้าง, เกาะไก่ชน, เกาะหลังคา และแวะชมถ้ำสวรรค์ THIEN CAVE ที่มีโถงขนาดใหญ่ 3 ห้อง ชมหินงอก หินย้อย รูปทรงแปลกตา ทั้งรูปทรงเต่า รูปนางฟ้า เมื่อกระทบกับแสงสีที่นำมาประดับตกแต่งในถ้ำ ก็ทำให้เห็นลวดลายประติมากรรมที่เกิดตามธรรมชาติได้ชัดเจน
เสร็จจากภารกิจเที่ยวชม HALONG BAY บ่ายวันนี้เราต้องขับรถเข้ากรุง HANOI ขบวนคาราวานใช้เส้นทางด่วนเป็นหลักกว่า 140 กม. ส่วนที่เหลืออีก 30 กม. แน่นอนว่า เราต้องผจญกับสภาพการจราจรหนาแน่นรอบนอกกรุง HANOI การขับรถในเวียดนาม ถือว่าได้อรรถรสยิ่งขึ้น ต้องระวังรถที่พร้อมจะเบียดเข้าเบียดออกแบบไม่เกรงใจใคร รถมอเตอร์ไซค์ คือ ปัญหาหลักของการขับรถที่นี่ ซึ่งยังไม่รวมการบีบแตรเหมือนโกรธใครมา และพร้อมจะมีเรื่อง เพื่อเตือนรถต่างๆ
4 วันเต็มๆ ของคาราวานทริพนี้ ครบทุกรสชาติจริงๆ ทั้ง CITY NIGHT, แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ, ที่พักสุดอลังการ, อาหารการกินทั้งอาหารจีน และเวียดนาม, เส้นทางการขับรถ ถึงระยะทางไม่ไกล แต่ UNSEEN สุดๆ กับการใช้แตร...หลังหลุดจากสภาพจราจรที่โหดร้าย เรามุ่งหน้าเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ NOI BOI ในช่วงเย็น และบินกลับประเทศไทย ด้วยสายการบินไทย เจ้าของสโลแกน “รักคุณเท่าฟ้า”
สรุป หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจขับรถ เรามองดูมาตรวัดบนหน้าจอแสดงผลการขับขี่ พบว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย ทำได้ที่ตัวเลข 16.4 กม./ชม. ถือว่าประหยัดตามสไตล์ ISUZU การขับขี่โดยรวม กำลังเครื่องยนต์ และอัตราทดของเกียร์ชุดใหม่ ทำได้เนียนกว่าเดิม น้ำหนักพวงมาลัย ช่วยให้การควบคุมตัวรถทำได้ง่ายขึ้น ช่วงล่างสำหรับรถกระบะ 4 ประตู แบกน้ำหนัก ผู้ร่วมเดินทาง 3 คน นั่งเบาะหน้า หรือเบาะหลังสะดวกสบายพอๆ กัน
ที่กิน
ชิมอาหารหลากหลาย ทั้งอาหารจีน และเวียดนาม เมนูต่างๆ เน้นวัตถุดิบพื้นบ้านเป็นหลัก ปลาน้ำตกนึ่งซีอิ๊ว เสิร์ฟพร้อมเมนูซุปไก่ดำ และผัดผัก ส่วนอาหารเวียดนาม แน่นอนว่า “เฝอ” เป็นไฮไลท์ปิดท้ายของทริพนี้
ที่พัก
ค่ำคืนแรก CROWN HOTEL คือ ที่พักกลางเมืองหนานหนิง ค่ำคืนที่สอง ที่พักสุดอลังการ LUX RESORT แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า จะมีที่พักแบบนี้อยู่ในเมืองชายแดนของจีนตอนใต้ และค่ำคืนที่สาม THE YACTH HOTEL ที่พักสุดชิค ริมอ่าว HALONG BAY
ขอขอบคุณ
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ที่เชิญให้เราร่วมเป็นส่วนหนึ่งในขบวนคาราวาน ISUZU 2.2 DDI MAXFORCE PRESS TRIP 2025 และได้ลองขับ ISUZU D-MAX HI-LANDER 2.2 DDI MAXFORCE เป็นครั้งแรก