เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนธันวาคม 2024/2023
ตลาดโดยรวม -20.9 %
รถยนต์นั่ง -20.7 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) -17.7 %
กระบะ 1 ตัน -21.3 %
รถเพื่อการพาณิชย์ -28.8 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-ธันวาคม 2024/2023
ตลาดโดยรวม -26.2 %
รถยนต์นั่ง -23.4 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) -3.3 %
กระบะ 1 ตัน -38.4 %
รถเพื่อการพาณิชย์ -13.7 %
ขณะที่ผมนั่งอยู่หน้าจอเพื่อพิมพ์ต้นฉบับ สถิติการขายรถยนต์ใหม่ในตลาดปี 2567 เพิ่งออกมาสดๆ แต่ก่อนหน้านี้เราก็พอทราบโดยสังเขปแล้วว่า ตลาดรถยนต์เราทรุดตัวลงมากจริงๆ ปี 2567 ปิดยอดที่ 572,675 คัน ลดลงไป 26.2 % กลุ่มตลาดของรถพีพีวี ล่วงเยอะสุด คือ 40 % รองลงมา คือ รถกระบะ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มรถคนทำมาหากิน แสดงว่าลำบากสุดจริงๆ ส่วนรถเพื่อการพาณิชย์ลดลงน้อยกว่า คือ แค่ 28 % แต่ดูเนื้อในแล้วก็น่ากังวล เพราะค่ายที่ขายเยอะๆ อย่าง ISUZU (อีซูซุ) HINO (ฮีโน) TOYOTA (โตโยตา) อัตราลดลงเกิน 40 % ทุกเจ้า รถเพื่อการพาณิชย์นี่สะท้อนความเป็นไปของธุรกิจขนาดใหญ่ ภาคก่อสร้าง และการลงทุนขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม คิดว่าตลาดคงปรับตัวโดยเฉพาะฝั่งญี่ปุ่น ที่เจอรถยนต์ไฟฟ้าเบียดไปส่วนหนึ่งก็เริ่มเคลื่อนทัพกันแล้ว ค่าย MAZDA (มาซดา) ประธานใหญ่บินมาเอง ขอเปิดก่อนตั้งแต่ต้นปี ส่วนอื่นๆ คงตามมาสิ้นปี 2568 อาจจะทำได้ 7 แสนคันก็ได้ ใครจะรู้
สำหรับท่านที่ติดตามวิเคราะห์ความเป็นไปของอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย เวลาเราอ้างอิงสถิติยอดขายรถนั้นหลายคนอยากรู้ที่มาที่ไป ว่าเขาเก็บยอดตัวเลขกันอย่างไร ผมจะเล่าเบื้องหลังฐานของตัวเลขที่เรานำมาวิเคราะห์กัน ที่มาของสถิติที่เราพูดถึงมี 2 แหล่งที่มา มีเนื้อหาในรายละเอียดต่างกัน
ข้อมูลเชิงอุตสาหกรรม การผลิต การส่งออก ครอบคลุมทั้งยอดรถทั้งคัน อะไหล่ และชิ้นส่วน ได้มาจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแถลงกันทุกๆ เดือน ในอดีตนั้น ข้อมูลนี้ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้บริโภค เพราะเน้นเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการผลิต ตัวเลขที่อยู่ในรายละเอียดไม่ได้แยกยี่ห้อ และรุ่นมาให้
แหล่งที่ 2 คือ มาจากการร่วมมือกันของฝั่งผู้ผลิตรถดั้งเดิม โดยการแลกเปลี่ยนตัวเลขการขายปลีกระหว่างกันของค่ายรถที่เป็นสมาชิก TOYOTA ทำหน้าที่เป็นพีอาร์ หรือเป็นเลขาฯ เป็นผู้นำเสนอ ทำไมถึงต้องเป็น TOYOTA ? เรื่องนี้จากอดีตในช่วงแรกที่มีการแลกเปลี่ยนตัวเลข ค่ายสำโรงเขามีความพร้อมเรื่องคน และคอมพิวเตอร์มากกว่า จึงรับหน้าที่ทำบัญชี และดูแลเรื่อยมายาวมาจนถึงทุกวันนี้
สถิตินี้ก็มีการปรับเปลี่ยนกติกาหลายครั้ง เช่น ช่วงแรกใช้ยอดการ “ขายส่ง” หน้าโรงงานมาแลกกัน ต่อมาเกิดการแข่งขัน ใครอยากได้ที่ 1 ก็เร่งผลิตรถไปกองไว้ที่ดีเลอร์ แล้วแจ้งยอด แต่รถไม่ได้ขายจริง ทำให้ข้อมูลเพี้ยนไปหมด พอเรื่องแดงก็เลยมาจัดระเบียบกันใหม่ เอาเป็นตัวเลข “ขายปลีก” ที่ใช้ทุกวันนี้
ข้อมูลแลกเปลี่ยนนี้ บางทีค่ายรถก็ตีกัน เช่น เห็นไม่ตรงกันในการแยกประเภทของรถในรายงาน ตอนที่ตลาดมีรถพีพีวีออกมาขายครั้งแรก 2 ค่ายพี่ใหญ่ TOYOTA กับ ISUZU ก็ตีกันจนเป็นที่มาของการแยกเซกเมนท์พีพีวีออกมาแสดงไว้ในรายงานต่างหาก
ฝั่ง HONDA (ฮอนดา) เขาก็เคยมีประเด็นคล้ายๆ กันในส่วนของ CR-V (ซีอาร์-วี) ตอนเข้าตลาดใหม่ๆ ไม่รู้จะใส่ตัวเลขไว้ในเซกเมนท์ไหนดี สุดท้ายก็ลงเอยกันได้ ด้วยการเอาไปใส่ในรถยนต์นั่งที่ผมจำได้ อีกเรื่องหนึ่ง อยู่ๆ BMW (บีเอมดับเบิลยู) ก็แจ้งงดแชร์ข้อมูลยอดขายรายเดือน ตอนคนขายรถ BMW ที่เป็นคนไทยเป็นตัวแทน เขาแชร์มาโดยตลอด แต่พอบริษัทแม่มาทำ คิดว่าคงมีการนำระบบระเบียบใหม่เข้าใช้ BMW จึงอยู่ในวงแลกเปลี่ยน ทำให้คู่แข่งอย่าง MERCEDES-BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์) ก็งดด้วยเช่นกัน
เว็บตรงยอดรถที่แถลงออกมาในระหว่างปี เลยไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงของตลาดกลุ่มรถเก๋งเท่าไรนัก
ตัวเลขยอดขายที่แชร์กัน ตอนนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีก หลังจากที่มีรถค่ายใหม่ๆ เข้ามามากมาย แต่ไม่เห็น TOYOTA แจ้งยอดในรายงานข้อเท็จจริง คือ หากเข้ามาขาย 1-2 ปีแรกๆ ยอดน้อยยังไม่สามารถทำเป็นสถิติมาแสดงได้ รถจีนหน้าใหม่หลายๆ ค่ายจึงไม่มียอด กับอีกประเด็นหนึ่ง คือ ไม่มาร่วมแชร์ข้อมูล ซึ่งมีหลายค่ายไม่ได้ร่วม น่าจะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างญี่ปุ่นกับจีนหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ
อย่างไรก็ตาม รถอย่าง BYD (บีวายดี) ที่ขาย 3 ปี ขึ้นมาเป็นเบอร์ 3 ในตลาดรถยนต์นั่ง GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) MG (เอมจี) NETA (เนทา) ก็เข้ามาร่วมในสถิตินี้
กรณีของ TESLA (เทสลา) ผมไม่แน่ใจว่า เขาแชร์ยอดหรือไม่ เพราะเห็นเข้าตลาดมา 3 ปีแล้วยังไม่มีการกล่าวถึง
ยังมีข้อมูลอีกแหล่งหนึ่ง คือ ข้อมูลสถิติการจดทะเบียนรถใหม่ของกรมการขนส่งทางบก ข้อมูลนี้เป็นสถิติที่ละเอียด แบ่งรุ่น ยี่ห้อ พื้นที่จดทะเบียน สถิติย้อนหลังมากมาย และเปิดให้ทุกคนเข้าถึงง่าย อันนี้ต้องชมเชย ฝ่ายสถิติของกรมการขนส่งทางบก แต่ข้อด้อย คือ การแบ่งประเภทรถเป็นแบบระเบียบราชการ ไม่ได้ขึ้นกับเซกเมนท์ที่นักการตลาดใช้งาน เช่น รถรุ่นเดียวกัน ชื่อเดียวกัน อาจมียอดกระจัดกระจายไปอยู่ในตารางอื่นๆ เช่น รถเก๋ง COROLLA (โคโรลลา) อยู่ใน รย.1 (รถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง) และยังไปมียอดจดทะเบียนในกลุ่มรถรับจ้างสาธารณะอีก เวลาแสดงข้อมูล ทำให้ยากในการใช้งาน
ดูเหมือนล่าสุดมีการปรับปรุงใหม่ แต่กลับใช้งานยาก เพราะรวมสถิติรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ไว้ด้วยกัน อย่างเช่น HONDA ยอดรวมสูงลิบ เพราะรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ HONDA อยู่ในรายการเดียวกัน ซึ่งต้องใช้เวลามากในการจัดการข้อมูล เอาละครับ ผมเล่าให้ฟัง และก็หวังว่าในไตรมาสแรกปี 2568 เราจะเห็นตลาดรถยนต์ของเรากลับมามียอดเป็นบวกได้นะครับ