แล่นไปในสายน้ำ
XO EXPLR 44
เรือธงอลูมิเนียมรุ่นใหม่ล่าสุด จาก XO จะสามารถสร้างกระแสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้หรือไม่ ?
เมื่อ XO เริ่มต้นพโรเจคท์ในการสร้างเรือธงรุ่นใหม่ ต้องยอมรับว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามแผนมากนัก เรือลำนี้เริ่มต้นจากการเป็น EXPLR 12 แต่ระหว่างขั้นตอนการออกแบบ ขนาดของมันถูกขยายออกไปอีก 1 ม.
จนกลายเป็น EXPLR 13 อย่างไรก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงความเชื่อด้านตัวเลขที่อาจส่งผลด้านลบ XO จึงตัดแนวคิดการใช้ระบบเมทริค เพิ่มความยาวขึ้นอีก 2-3 ฟุต และเปิดตัวเป็น EXPLR 44 แทน แล้วขนาดที่เพิ่มขึ้นนี้ให้ผลลัพธ์อย่างไรบ้าง เรามาดูกัน
ในแง่ของแนวคิด เรือรุ่นใหม่นี้ได้รับการออกแบบให้มีทั้งความหรูหรา และความยืดหยุ่น เพื่อให้สามารถก้าวข้ามตลาดในแถบประเทศนอร์ดิค และยุโรปเหนือ และกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และแคริบเบียนด้วย ส่วนหลักการออกแบบพื้นฐานก็ตรงไปตรงมา ตัวเรือใช้ดีไซจ์นแบบ WALKAROUND มีห้องควบคุมอยู่ตรงกลาง และดาดฟ้าเปิดทั้งด้านหน้า และด้านหลัง แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ การยกระดับดาดฟ้าด้านท้าย และด้านหัวเรือให้สูงขึ้น ขณะที่ห้องควบคุมยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า ทำให้เกิดห้องโดยสารส่วนตัว 2 ห้องที่ปลายทั้ง 2 ฝั่งของเรือ ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาเส้นพโรไฟล์ และลดแรงต้านลมได้เป็นอย่างดี
ในแง่ของความสวยงาม ต้องบอกว่ามันทำออกมาได้ดีมาก ด้วยหัวเรือทรงตั้งตรง ลำตัวที่ดูแข็งแกร่ง สมดุล และสมส่วน สมอเรือที่ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน และหน้าต่างทรงสูงแบบเรือใบ ทำให้รูปลักษณ์ของ EXPLR 44 ดูเท่ และทรงพลัง นอกจากนี้ โทนสีเทากแรนิท หน้าต่างแบบกรองแสง และโครงสร้างอลูมิเนียม ยิ่งช่วยเสริมให้ภาพลักษณ์ของมันดูดุดัน และล้ำสมัยยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดก็คือ การได้ขึ้นไปบนเรือจริงๆ และดูว่าการจัดวางรูปแบบที่ไม่เหมือนใครนี้ส่งผลต่อห้องโดยสารอย่างไรบ้าง
การเคลื่อนที่ไปรอบๆ เรือเป็นเรื่องง่าย และปลอดภัย
มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเข้าถึง ดาดฟ้าด้านข้างของเรือ อยู่บริเวณด้านหลังแพนทรี
มุมรับประทานอาหารยังสามารถปรับใช้เป็นเตียงคู่ที่ 3 ได้อีกด้วย
คุณสามารถเปลี่ยนแพนทรีในห้องควบคุมเป็นที่นั่งเพิ่มเติม และใช้บาร์เปียกที่ห้องนักบินสำหรับทำอาหารแทนได้
ทำเป็นเรือแบบเปิดโล่งได้หากคุณต้องการ
2 ห้องโดยสาร
ห้องโดยสารด้านหน้าใช้แนวคิดเดียวกับ DFNDR 9 ซึ่งได้รับรางวัลมาแล้ว ภายในมีเตียงคู่รูปตัว V ที่หัวเรือ พร้อมทางเข้าดาดฟ้าสำหรับอาบแดด ผ่านช่องเปิดแบบบานพับที่ติดตั้งอยู่ใต้เบาะอาบแดดด้านหน้า ใต้เตียงมีช่องเก็บของบุไม้อัด ที่สามารถใช้เก็บสัมภาระได้โดยไม่กระทบกับ BOW THRUSTER หรือแบทเตอรี ด้านหลังเตียงมีตู้เก็บของทางกราบซ้าย และที่นั่งเปลี่ยนเสื้อผ้าทางกราบขวา รวมถึงห้องน้ำสไตล์ WETROOM ที่มาพร้อมประตูฝักบัวแบบอัจฉริยะ ซึ่งช่วยแบ่งพื้นที่ใช้งานให้เป็นสัดส่วน
แต่แน่นอนว่าห้องโดยสารด้านท้ายเป็นจุดที่ให้ความรู้สึกสดใหม่ที่สุด สามารถเข้าถึงได้ผ่านเบาะนั่งบานพับทางกราบซ้ายของมุมรับประทานอาหารในห้องควบคุม เมื่อก้าวลงไป คุณจะพบกับโถงทางเข้าแบบเปิดโล่ง เชื่อมต่อไปยังโซนเลาน์จ์ และพื้นที่นอนด้านหลัง ที่นี่มีประตูที่นำไปสู่ห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน และมีหน้าต่างบานใหญ่เพียงบานเดียว ที่ให้มุมมองกว้างออกไปยังดาดฟ้าท้ายเรือ
พื้นที่นี้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเพิ่มความยาวของ EXPLR 44 ทำให้พื้นที่กว้างขวาง และโปร่งสบาย อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ในห้องนักบินที่ออกแบบให้เตี้ยยังช่วยให้มุมมองด้านหลังเปิดกว้าง ทำให้สามารถมองผ่านเครื่องยนต์นอกเรือไปยังท้ายเรือได้อย่างสะดวก เมื่อพับพนักพิงลง
ห้องโดยสารด้านท้ายมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ บนเรือทดสอบ ห้องนี้ถูกแบ่งเป็นม้านั่งขนาดใหญ่ 2 ฝั่ง (ด้านหน้า-ด้านหลัง) พร้อมที่เก็บของสะดวกสบายอยู่ด้านหลังพนักพิง เบาะนั่งกว้างพอให้ใช้งานเป็นเลาน์จ์ได้อย่างสะดวก และด้วยพื้นที่ที่มีอยู่มาก คุณสามารถแบ่งห้องนี้ด้วยผนังกั้นแนวขวาง หรือแนวตามลำเรือได้ ทำให้สามารถแปลงเป็น 2 ห้องเดี่ยว หรือ ห้องลูกเรือด้านท้ายพร้อมพื้นที่แยกด้านหน้าได้ตามต้องการ
ในรูปแบบปัจจุบัน ห้องโดยสารนี้ให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วยสกายไลท์และช่องเปิดที่เชื่อมไปยังดาดฟ้าด้านท้าย รวมถึงหน้าต่างแนวยาวที่ให้มุมมองผ่านเครื่องยนต์นอกเรือของ MERCURY การออกแบบนี้ทำให้ต้องจัดสรรตำแหน่งของระบบต่างๆ ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำความร้อนดีเซล, เครื่องปรับอากาศ, ระบบน้ำร้อน และเครื่องปั่นไฟ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกย้ายไปไว้ใต้พื้นห้องควบคุม อย่างไรก็ตาม ระบบกันโคลง SEAKEEPER ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมที่ตู้ท้าย ระหว่างม้านั่งทั้ง 2 ฝั่ง
ห้องควบคุมกลางเรือถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ มุมรับประทานอาหารด้านขวา (STARBOARD DINETTE) ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงคู่ชั่วคราวได้ และแพนทรีแนวกว้าง (TRANSVERSE PANTRY) ซึ่งมีที่นั่งกัปตัน 2 ตัวอยู่ด้านหน้า ทั้ง 2 ฝั่งของห้องควบคุมมี ประตูเลื่อนขนาดใหญ่ เพื่อให้ลูกเรือสามารถเข้าออกได้สะดวก แม้ในขณะที่กัปตันกำลังประจำที่นั่ง โดยแพนทรีสามารถเลื่อนขึ้นด้านหน้าเพื่อเปิดทางเข้า-ออกทางกราบขวาได้ แม้ว่าช่องทางฝั่งกัปตันอาจจะแคบเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถออกทางประตูฝั่งซ้ายได้หากจำเป็น
แม้ว่าตัวเรือจะมี โครงสร้างทรงเตี้ย แต่เพดานห้องควบคุมยังให้พื้นที่ศีรษะกว้างขวาง และสามารถติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์, จักรยาน, เรือคายัค หรือกระดาน SUP บนหลังคาได้โดยไม่เสียพื้นที่ระบายอากาศ นอกจากนี้ ยังมี สกายไลท์ และช่องระบายอากาศ เพียงพอที่จะช่วยให้แพนทรีแบบเตาเดียวมีระบบถ่ายเทอากาศที่ดี
อย่างไรก็ตาม คุณอาจพิจารณาเลือก ที่นั่งเสริมแทนแพนทรีได้ เพราะเรือมี บาร์เปียก (WET BAR) ที่ใช้งานได้ดีในห้องนักบินด้านท้าย บาร์นี้ถูกออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างห้องควบคุม และมาพร้อม พื้นที่เตรียมอาหารขนาดใหญ่ เตาบาร์บีคิวไฟฟ้า และอ่างล้างจานพร้อมก๊อกน้ำ
สิ่งที่น่าประทับใจ คือ การออกแบบที่พิถีพิถันของวิศวกร XO ทำให้บาร์ เปียกนี้มีความบางเพียงแค่ เท่ากำปั้น ส่งผลให้สามารถติดตั้งบนขอบหน้าต่าง ATRIUM ด้านท้ายเรือได้โดยไม่บดบังทัศนียภาพ ที่สำคัญ คือ บาร์นี้ถูกซ่อนอย่างแนบเนียน ถ้าไม่เปิดฝาออกมา คุณจะไม่รู้เลยว่ามันอยู่ตรงนั้น !
ดื่มด่ำกับความเงียบ
ด้วยเครื่องยนต์ MECURY 600 คู่ที่ติดตั้งอยู่ท้ายเรือ EXPLR 44 ทำงานได้อย่างเงียบจนน่าทึ่ง ระดับเสียงที่วัดได้ที่ความเร็วเรือขณะลอยตัวอยู่ที่เพียง 45-50DB ซึ่งเงียบพอๆ กับเสียงฮัมของตู้เย็น แม้เมื่อเพิ่มความเร็วขึ้นสู่ระดับ CRUISING SPEED ระดับเสียงก็เพิ่มขึ้นเพียงช่วง 60DB กลางๆ และที่ความเร็วสูงสุด 46 นอท ระดับเสียงอยู่ที่ประมาณ 73DB ซึ่งยังคงให้ประสบการณ์การเดินทางที่เงียบสงบ ด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ EXPLR 44 ก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เมื่อเพิ่มรอบเครื่องจาก 3,000 เป็น 3,500RPM ความเร็วของเรือ จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 11.5 เป็น 23 นอท แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้น คือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกลับลดลง จาก 6.7 ลิตร/ไมล์ทะเล เหลือ 6.1 ลิตร/ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เครื่องยนต์ MECURY 600 ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเข้าสู่ช่วงเกียร์สูง
สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่า คือ เมื่อเร่งความเร็วขึ้นอีก 10 นอท (จาก 23 เป็น 33 นอท) ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของเรือกลับ ดีขึ้นเล็กน้อย แทนที่จะลดลง แม้ว่าเกิน 40 นอทไปแล้ว อัตราการสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่โดยรวมแล้ว EXPLR 44 ยังคงรักษาความนุ่มนวล และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมไว้ได้ตลอดช่วงความเร็ว
องศาของตัวเรืออยู่ในระดับราบ ทำให้การเดินเรือมั่นคง การทรงตัวดีเยี่ยม พวงมาลัยตอบสนองคมกริบ การควบคุมราบรื่น เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ทัศนวิสัยยอดเยี่ยม มองเห็นรอบตัวได้ชัดเจน การเดินเรือนุ่มนวล แม้ในสภาพน้ำที่ไม่เป็นใจ และระดับเสียงต่ำที่ต่ำมาก จนแทบไม่มีเสียงรบกวน
การเข้าถึงดาดฟ้าข้างก็ทำได้ดี แม้ว่า จอยสติคควบคุม ของเรือทดสอบจะอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างแปลกตา (ด้านซ้ายของสถานีบังคับเรือฝั่งขวา) แต่ การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของห้องควบคุมยังคงทำได้ดี มีพวงมาลัยปรับระดับได้ เบาะนั่งแบบเลื่อนเข้า-ออกได้ และมีระบบดูดซับแรงกระแทก รวมถึงหน้าจอควบคุมแบบคลาสสิก ติดตั้งอยู่บนแผง ไฟเบอร์กลาสเหนือกระจกบังลมสูง
ทั้งหมดนี้ช่วยให้ EXPLR 44 เป็นเรือที่ขับขี่ง่าย มั่นคง และให้ประสบการณ์การเดินเรือที่ยอดเยี่ยม
การตอบสนอง และความคล่องตัวนั้นเฉียบคมกว่าที่คุณคาดหวังจากเรือขนาดนี้
เรือธงรุ่นใหม่ใช้การออกแบบห้องโดยสารส่วนหน้าแบบเดียวกับที่เราเห็นใน DFNDR 9 ที่ได้รับรางวัล และเพิ่มความยาวให้มากขึ้น
ห้องโดยสารด้านท้ายมาพร้อมกับห้องน้ำในตัว โถงกลางโปร่งโล่ง และวิวกว้างขวาง ที่มองผ่านเฟอร์นิเจอร์ระดับต่ำของพื้นที่ห้องนักบิน
บาร์เปียกมีความบางมาก จนคุณแทบไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงนั้น
ในเรื่องของขุมกำลัง EXPLR 44 ใหม่ ก็มีตัวเลือกที่น่าตื่นเต้นเช่นกัน คุณสามารถติดตั้งเครื่องยนต์ 350 แรงม้า 2 ตัวได้ แต่ XO เปรียบเทียบว่ามันเหมือนกับการติดตั้งเครื่องยนต์จาก Fiesta 1.0 ลิตร บน Porsche และเมื่อคุณขับเรือทดสอบนี้ คุณจะไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า พวกเขาพูดถูก คุณอาจเริ่มต้นด้วยการควบคุมการเลี้ยวที่อย่างระมัดระวัง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะพบว่าตัวเองสามารถหมุนเรือ 180 องศา ไปมาได้อย่าง คล่องแคล่ว รวดเร็ว และสนุกสนานเหมือนกับการขับเรือเจทโบท
ที่ดีไปกว่านั้น เมื่อคุณหมุนเรืออย่างรวดเร็วและแรง ใบพัดด้านนอกที่ตื้นกว่า จะกระตุ้นให้เกิด น้ำพุขนาด 10 ฟุต ลอยขึ้นไปในอากาศ โดยไม่มีการสูญเสียการยึดเกาะหรือความเร็วแม้แต่น้อย แม้มันจะไม่มีความไว และแรงกระตุกของเรืออย่าง DFNDR 8 ที่ดูดุร้าย แต่เมื่อพิจารณาจากขนาด และน้ำหนักของมันแล้ว ประสบการณ์ที่ได้ก็นับว่าใกล้เคียง และสนุกไม่น้อยไปกว่ากันเลยทีเดียว
คำตัดสิน
ชัดเจนว่า EXPLR 44 เป็นเรือที่มีเสน่ห์มาก แต่สิ่งที่ยังไม่ค่อยชัดเจน คือมันจะสามารถแข่งขันได้ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง หรือมันมีคู่แข่งโดยตรงหรือไม่ ตัวอย่างเช่น แม้ว่าราคาโดยรวมจะใกล้เคียงกับ TARGA 41 รุ่นใหม่ แต่ TARGA มีห้องโดยสารที่ใหญ่กว่า ห้องควบคุมที่สะดวกสบายมากขึ้น พื้นที่จัดพาร์ทีกลางแจ้งที่หลากหลาย สะพานเดินเรือ ขนาดกะทัดรัด และมีประวัติยาวนาน ที่สำคัญ คือ ถึงแม้เรือทั้ง 2 ลำจะมีการออกแบบ และการใช้งานที่คล้ายกัน แต่มีแนวโน้มว่า EXPLR 44 และ TARGA 41 จะดึงดูดผู้ใช้ที่มีความต้องการต่างกัน เพราะ EXPLR 44 เป็นเรือที่ดูดุดัน และทันสมัยกว่า กว้างน้อยกว่า TARGA 41 ถึง 1 ฟุต แต่เร็วกว่าเกือบ 10 นอท และมีรูปลักษณ์เป็นมิตรมากกว่า แม้จะเบากว่าประมาณ 2 ตัน EXPLR 44 กลับมีถังน้ำมันที่ใหญ่กว่าเพื่อช่วยทดแทนการบริโภคน้ำมันจากเครื่องยนต์เบนซินที่มีพลัง และละเอียดอ่อน
กล่าวได้ว่า EXPLR 44 จริงๆ แล้วใกล้เคียงกับ AXOPAR 45 CROSS CABIN มากกว่า ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่า และประหยัดน้ำมันมากกว่า เนื่องจากรูปแบบลำเรือที่มีขั้นบันไดและการก่อสร้างจากไฟเบอร์กลาสส์ที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม ด้วยการผสมผสานความซับซ้อนในการใช้งานจาก AXOPAR กับท่าทางการใช้งานที่มุ่งมั่นของ TARGA และการสร้างจาก อลูมิเนียมที่แข็งแรง และความคล่องตัวเหมือนรถโกคาร์ทที่ XO เป็นที่รู้จัก EXPLR 44 ใหม่ ก็ได้นำเสนอสิ่งที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ในโลกของเรือผจญภัยทุกประเภท และทุกสภาพอากาศ
ติดต่อ : MCC Marine +44 (0)2380 456116 www.xo-boats.com
จอยสติคฝั่งซ้าย
ในรุ่นถัดไป จอยสติคจะถูกย้ายไปอยู่ด้านหน้าคันเร่ง
22 นิ้ว
แผงควบคุมขนาดใหญ่มีพื้นที่สำหรับหน้าจอ PLOTTER ขนาด 22 นิ้ว 2 ตัว
พักเท้า
ที่วางเท้าระดับที่ 2 ที่สูงขึ้นช่วยให้เดินทางไกลได้อย่างสบาย และผ่อนคลายมากขึ้น