เครื่องยนต์ เบนซิน เทอร์โบ ไฮบริด ความจุ 3,591 ซีซี เครื่องยนต์ กำลังสูงสุด 471 กิโลวัตต์/640 แรงม้า ที่ 7,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 760 นิวทันเมตร/77.5 กก.ม. มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 71 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 81.6 กก.ม. กำลังสูงสุดทั้งระบบ 523 กิโลวัตต์/711 แรงม้า ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
PORSHE 911 TURBO S (โพร์เช 911 เทอร์โบ เอส) ขุมพลังที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ให้กำลังรวม 523 กิโลวัตต์/711 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวทันเมตร/81.6 กก.ม. ที่ 2,300-6,000 รตน. กำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 711 แรงม้า ได้เต็มประสิทธิภาพ เสริมกำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี T-HYBRID น้ำหนักเบาแบบ 400 โวลท์ ซึ่งทำให้มีกำลังเพิ่มเติมอีก 61 แรงม้า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที โดยเร็วกว่ารุ่นก่อน 0.2 วินาที และใช้เวลาเพียง 8.4 วินาที สำหรับ 0-200 กม./ชม.
แนวคิดด้านแอโรไดนามิครูปแบบใหม่ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน และเสถียรภาพของ 911 TURBO S ใหม่ โดยประกอบด้วย ช่องลมระบายอากาศแบบแอคทีฟแนวตั้งบริเวณด้านหน้า และดิฟฟิวเซอร์หน้าแบบแอคทีฟ ร่วมกับสปอยเลอร์หน้าที่ปรับได้ และสปอยเลอร์หลังที่สามารถยืดออก และปรับองศาได้ ทั้งหมดทำงานร่วมกันเป็นระบบเดียวอย่างมีประสิทธิภาพ การไหลเวียนของอากาศเพื่อระบายความร้อนในระบบเบรค และหม้อน้ำถูกปรับให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
วิศวกรของ PORSCHE ได้ปรับปรุงองค์ประกอบโดยรอบของ 911 TURBO S โดยยางรุ่นใหม่ที่นำมาใช้ ยางคู่หลังของรถยนต์สปอร์ทรุ่นนี้ติดตั้งยางที่กว้างขึ้น 10 มม. เทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยมีขนาด 325/30 ZR 21 ส่วนคู่หน้าใช้ยางขนาด 255/35 ZR20 ซึ่งเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมผ้าเบรคแบบใหม่ สามารถรองรับแรงกดมหาศาล ช่วยยกระดับสมรรถนะการเบรค และสัมผัสแป้นเบรคให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งทีมวิศวกรยังได้เพิ่มเส้นผ่าศูนย์กลางของจานเบรคที่เพลาหลังจาก 390 มม. เป็น 410 มม.
รู้หรือไม่
1. PORSCHE 911 TURBO S คือ รุ่นย่อยระดับแรงสุดขั้วของรถสปอร์ทรุ่นดังค่าย PORSCHE โดยรุ่นล่าสุดถูกเปิดตัวหลังสุดในบรรดาตัวปรับโฉมของ 911 โฉมล่าสุด
2. การบ่งบอกสมรรถนะที่เหนือชั้นของ 911 TURBO S ถูกพิสูจน์จากการขับจับเวลาในสนาม NURBURGRING NORDSCHLEIFE ระยะทางกว่า 22 กม. ทำเวลาเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ถึง 14 วินาที !
3. PORSCHE 911 TURBO S มีกำลังสูงสุด (คำนวณทั้งระบบ) สูงถึง 711 แรงม้า จัดว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรุ่น TURBO S และยังเป็นครั้งแรกกับการใช้งานร่วมกับระบบ T-HYBRID