สงครามราคา EV ในไทยอาจยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากแรงกดดันจากการแข่งขันของตลาด EV ในระดับโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ยังมีค่ายรถยนต์ EV รายใหญ่ที่ต้องเร่งระบายสตอคบางส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์จีนที่เข้าร่วมโครงการ EV 3.0 เพื่อรับเงินสนับสนุน ต้องเร่งผลิตคืนให้ได้ตามเงื่อนไข ทำให้ต้องระบายสตอคด้วยการลดราคา เป็นทางออกที่ไม่ต้องเสียค่าปรับ หรือต้องไปใช้โควตาผลิตตามโครงการ EV 3.5 ที่มีภาระการผลิตเพิ่มขึ้น
ไทยบังคับใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป โดยจัดเก็บจากค่าการปล่อยไอเสีย หรือ CO2 เป็นหลัก โดยรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 3,000 ซีซีขึ้นไป โดยเฉพาะเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มจากเดิมที่จัดเก็บในอัตรา 40 % ขยับเพิ่มเป็น 50 %
ขณะที่เครื่องยนต์พลัก-อิน ไฮบริด (PHEV) มากกว่า 3,000 ซีซี ภาษีสรรพสามิตจาก 40 % จะลดลงเหลือ 30 % และหากเป็นรุ่นมีเครื่องยนต์พลัก-อิน ไฮบริด ขนาดต่ำกว่า 3,000 ซีซี กรณีรถนำเข้าภาษีจะเพิ่มจาก 8 % เป็น 15 % แต่หากเป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศ กรณีชาร์จไฟ 1 ครั้ง วิ่งได้มากกว่า 80 กม. เสียภาษี 5 % กรณีวิ่งได้น้อยกว่า 80 กม. เสียภาษี 10 %
มาตรการภาษีดังกล่าว ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ในกลุ่มที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 3,000 ซีซี เป็นหลัก จากเดิมเสียภาษีในอัตรา 40 % จะถูกเพิ่มเป็น 50 % โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์พรีเมียมนำเข้าราคาตั้งแต่ 6 ล้านบาทขึ้นไป ต้องปรับโครงสร้างราคาจำหน่ายอย่างแน่นอน
เวบไซท์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศอัตราภาษีสรรพสามิต น้ำมันดีเซล-เบนซิน (มีผลบังคับใช้ทันที)
น้ำมันเบนซิน 95 จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 6.50 บาท/ลิตร อัตราใหม่ 7.50 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 1 บาท
น้ำมันแกสโซฮอล 95 (E10) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.85 บาท/ลิตร อัตราใหม่ 6.75 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 0.90 บาท/ลิตร
น้ำมันแกสโซฮอล 91 (E10) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.85 บาท/ลิตร อัตราใหม่ 6.75 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 0.90 บาท/ลิตร
น้ำมันแกสโซฮอล 95 (E20) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.20 บาท/ลิตร อัตราใหม่ 6.00 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 0.80 บาท/ลิตร
น้ำมันแกสโซฮอล 95 (E20) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 0.975 บาท/ลิตร อัตราใหม่ 1.125 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 0.15 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซล จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.99 บาท/ลิตร อัตราใหม่ 6.92 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 0.93 บาท/ลิตร
บอร์ดอีวีเห็นชอบการปรับหลักเกณฑ์การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ชดเชยตามมาตรการ EV 3 และ EV 3.5 ให้นับยอดชดเชย 1.5 เท่า สำหรับการผลิตเพื่อส่งออก เพื่อจูงใจเอกชนให้ใช้ไทยเป็นฐานส่งออก พร้อมขยายเวลาจดทะเบียนอีก 1 เดือน และเพิ่มความเข้มข้นในการจ่ายเงินอุดหนุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการรับมือความผันผวนในตลาดยานยนต์โลก
ราชกิจจานุเบกษาประกาศเก็บภาษีสรรพสามิต “รถยนต์โบราณ” เป็นครั้งแรกในอัตรา 45 % ของราคาขายปลีกแนะนำ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2568 โดยกำหนดประเภทรถที่เข้าร่วมได้-จำกัดเฉพาะรถยนต์นั่ง, รถโดยสารไม่เกิน 10 คน, สเตชันแวกอน และรถแข่ง (ไม่รวมรถกระบะ และมอเตอร์ไซค์)
เกณฑ์อายุ-รถโบราณที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป และแยกพิกัดศุลกากรอีกกรณีหนึ่งสำหรับรถที่มีอายุเกิน 100 ปี ซึ่งถือเป็นวัตถุโบราณ สิทธิยกเว้นอากรศุลกากรขาเข้า-เฉพาะรถที่นำเข้าแบบสำเร็จรูปทั้งคัน (CBU) พร้อมเอกสารรับรอง
รถโบราณต้องมีมูลค่าขั้นต่ำ 2 ล้านบาท และมีอายุเกิน 30 ปีขึ้นไป โดยเก็บภาษีในอัตรา 45 % ของราคาขายปลีกแนะนำ พร้อมมาตรการคืนภาษี หากนำเข้ารถโบราณมาบูรณะในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศภายใน 2 ปี จะได้รับสิทธิคืนภาษีสรรพสามิตเต็มจำนวน
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ขยายความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ด้วยโครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ “บสย. SMEs PICK-UP” วงเงิน 10,000 ล้านบาท สิ้นสุดรับคำขอค้ำประกันภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 มุ่งช่วยผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่ของ บสย. เพื่อสร้างความมั่นใจให้สถาบันการเงิน ในการปล่อยสินเชื่อ เพิ่มโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อ ให้แก่ SMEs ที่มีความจำเป็นต้องใช้รถกระบะเป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ เช่น เกษตรกร ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่งสินค้า ค้าขาย และฟูดทรัค เป็นต้น
คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ ว่าด้วยการขอ และการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถดำเนินการผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ได้ โดยยกเว้นการทดสอบสมรรถภาพร่างกายสำหรับผู้ขอต่อใบอนุญาตขับรถที่ไม่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพ หรือมีอายุไม่เกินเกณฑ์ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ส่วนผู้ที่มีอายุ หรือมีเงื่อนไขทางสุขภาพต้องเฝ้าระวัง ยังคงต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพขั้นพื้นฐาน
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้ออกประกาศให้รถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และรถจักรยานไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ซึ่งการกำหนดดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค สร้างมาตรฐานในการซื้อ-ขาย และเพิ่มความโปร่งใสในตลาดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดทำฉลากที่ชัดเจน ครอบคลุมข้อมูลสำคัญ เช่น รุ่น เดือน และปีที่ผลิต รวมถึงเงื่อนไขการรับประกัน ประเภทของแบทเตอรี เป็นต้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ และมีข้อมูลครบถ้วน
ชไมพร ปภัสร์พงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท สื่อสากล จำกัด ก้าวขึ้นเป็นผู้ฝึกสอนหญิงคนแรกในประเทศไทย และทวีปเอเชีย ที่คว้าประกาศนียบัตร BMW CERTIFIED INSTRUCTOR ระดับ 2 แสดงถึงทักษะด้านการขับขี่ รวมถึงการเป็นผู้ฝึกสอนที่ได้รับการรับรองจาก BMW (บีเอมดับเบิลยู)
งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” หรือ MOTOR EXPO 2025 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อลังการงานแสดง-THE MAGNIFICENT MOTOR EXPO” เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ทั้งยอดขายรถในงาน ปริมาณเม็ดเงินสะพัดในงาน และจำนวนผู้ชมงาน ช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงปลายปีได้เป็นอย่างดี
บทความแนะนำ

