ลองขับ มาซดา บีที-50 ไฮ-เรเซอร์

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำคณะผู้สื่อข่าวสายรถยนต์กว่า 40 ชีวิต ร่วมพิสูจน์ สมรรถนะ มาซดา บีที-50 ไฮ-เรเซอร์ พิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง ที่เพิ่งเปิดตัวพร้อมภาพยนตร์โฆษณาชุดไล่จับกับนาคา โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพ ฯ-เลย-หนองคาย รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,597.70 กิโลเมตร   เช้าวันแรกหลังจากรับฟังข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และสรุปเส้นทาง ขบวนรถ มาซดา 20 คันก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง คือ เมืองเลย การเดินทางตลอดเส้นทางขับกันสบายๆ แบบคาราวาน แต่ก็มีจุดพักเป็นระยะทาง เริ่มด้วยการรับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านชาวประมง อ. จตุรัส แล้วเดินทางต่อไปยังร้านภูผา กาแฟสด เพื่อพักดื่มกาแฟอันหอมกรุ่น ก่อนมุ่งหน้าสู่ โรงแรม เลย พาเลศ เพื่อพักผ่อนกันอย่างเต็มที่   วันที่สองถือเป็นจุดสำคัญของทริพนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเลือกเส้นทางที่ต้องลัดเลาะแม่น้ำโขงตลอดทั้ง สาย จากอำเภอเชียงคานจนถึงจังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นเส้นทางที่คดโค้งตลอดเวลา ขึ้น/ลงเขาและขรุขระ แต่ด้วยสมรรถนะอันเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพของ มาซดา บีที-50 ไฮ-เรเซอร์ เครื่องยนต์ดีเซล เพาเวอร์คอมมอนเรล MZR WLC 2,500 ซีซี พร้อมเทอร์โบอินเตอร์คูเลอร์ ที่ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 33.65 กก.-ม. (330 นิวตัน-เมตร) และระบบช่วงล่างอันลือชื่อ ที่ให้การเกาะถนนเป็นเยี่ยม พร้อมเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ รายแรกและรายเดียว กับระยะทาง 260.4 กิโลเมตร   บรรยากาศในช่วงเช้าอากาศเริ่มเย็นกับทิวทัศน์สวยงาม 2 ข้างทางเลียบชายฝั่งแม่น้ำโขง ที่กั้น พรมแดนระหว่างไทย-ลาว ผ่านชุมชนต่างๆ ที่ประกอบอาชีพเกษตร ทั้งปลูกข้าว ทำประมง ทำสวน ทำไร่ และเลี้ยงสัตว์ ที่สำคัญวันนี้เป็นวันออกพรรษา คณะของเราเลยได้แวะพักทำบุญ พร้อมพักผ่อน ชมวิว ก่อนที่จะเดินทางสู่ท่าเรือวัดหายโศก เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และล่องเรือไปอำเภอโพนพิสัย เพื่อชมบั้งไฟพญานาค ในช่วงระหว่างการล่องเรือ จัดให้มีงานพาร์ทีเล็กๆ ระหว่างเพื่อนร่วมทาง และการมอบรางวัลให้แก่รถที่ขับประหยัด นับว่าเป็นการขับแบบประหยัดจริงๆ เพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้ามาก่อน เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความประหยัด โดย รุ่นเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 9.83 ลิตร/กิโลเมตร และ เครื่องยนต์ 3,000 ซีซี มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 12.53 ลิตร/กิโลเมตร   ส่วนบั้งไฟพญานาคที่คณะของเราตั้งใจไปดูนั้น ว่าจะเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่เวลาหลังพระอาทิตย์ตก ดินจนถึงประมาณ 23.00 น. ลักษณะเป็นลูกไฟสีชมพู ไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง พุ่งขึ้นเหนือลำน้ำโขง มีตั้งแต่ระดับ 1.30 เมตร แล้วพุ่งขึ้นไปในอากาศสูงประมาณ 50-150 เมตร เป็นเวลาประมาณ 5-10 วินาที เกิดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง ในช่วงวันออกพรรษา   แต่น่าเสียดายที่คณะของเรามีเวลาน้อย เพราะต้องรีบเดินทางไปพักผ่อนยังจังหวัดอุดรธานี จึงไม่ได้ เห็นบั้งไฟพญานาค หลังจากขบวนคาราวานพร้อมจึงเดินทางต่ออีก 57.5 กิโลเมตร ไปยัง โรงแรม เจริญศรี กแรนด์ รอยัล หลังจากรับประทานข้าวต้มรอบดึกแล้วก็แยกย้ายกันพักผ่อน   วันสุดท้ายของการเดินทาง ขบวนคาราวานพร้อมกันหลังรับประทานอาหารเช้า มุ่งหน้าสู่ร้านสวนเมือง พร จังหวัดนครราชสีมา เพื่อพักรับประทานอาหารกลางวัน แล้วจึงเดินทางต่อ กลับบ้านแบบสบายๆ