จีเอม

จีเอม ฉลองผลิตรถครบ 5 แสนคัน บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองการผลิตรถครบ 500,000 คัน ของศูนย์การผลิตมาตรฐานโลก เจเนอรัล มอเตอร์ส จังหวัดระยอง โดยมี นิค ไรล์ลี กลุ่มรองประธาน จีเอม คอร์พอเรชัน และประธานจีเอม เอเชียแปซิฟิค ให้เกียรติขับเคลื่อนรถคันที่ 500,000 ออกจากสายการผลิต พร้อมด้วยคณะกรรมการพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ท่ามกลางพนักงานของ จีเอม และเชฟโรเลต์ กว่า 3,000 คน ร่วมแสดงความยินดี พิธีดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฉลองความสำเร็จ อันเกิดจากความทุ่มเทและตั้งใจปฎิบั ติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถของพนักงานจีเอม ประเทศไทยทุกคน ที่ศูนย์การผลิตแห่งนี้ในการ ผลิตรถยนต์ป้อนตลาดโลกและประเทศไทย มาตลอดระยะเวลา 8 ปี โดยเป็นศูนย์การผลิตรถยนต์แห่งเดียวในประเทศไทยที่สามารถส่งออกรถยนต์ไปจำหน่ายยังทวีปยุโรป และออสเตรเลียได้ นับแต่เริ่มเปิดสายการผลิต โดยเริ่มต้นการผลิตรถอเนกประสงค์ เชฟโรเลต์ ซาฟีรา เป็นรถรุ่นแรก ตามมาด้วย ออพทรา, โคโลราโด, อาวีโอ และล่าสุด รถเอสยูวี เชฟโรเลต์ แคพทีวา "ความสำเร็จที่เราร่วมยินดีในวันนี้ มิใช่เพียงตัวเลข 5 แสนคัน สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ความ พยายาม และความมุมานะของทุกๆ คนที่มีให้กันอย่างสม่ำเสมอ ตลอดระยะเวลา 8 ปี สิ่งนี้ได้สะท้อนออกมาในรูปของการผลิตรถยนต์คุณภาพที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า" ศูนย์การผลิตรถยนต์เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ฯ เริ่มดำเนินการในปี 2543 ด้วยงบ ประมาณการลงทุนกว่า 35,000 ล้านบาท โดยเป็นส่วนสำคัญของแผนการขยายธุรกิจระยะยาว ของ จีเอม คอร์พอเรชัน นอกเหนือจากตลาดทวีปอเมริกาเหนือ สู่ตลาดที่กำลังเติบโตสูงอย่างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งศูนย์การผลิตแห่งนี้ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการผลิตรถยนต์คุณภาพเพื่อป้อนสู่ตลาดโลก มีกำลังการผลิตกว่า 160,000 คัน/ปี ควบคุมการผลิตโดยวิศวกรชาวไทย พร้อมด้วยแรงงานฝีมือคนไทยกว่า 3,000 คน ภายใต้นโยบายหลักในการผลิตของศูนย์การผลิต จีเอม ทั่วโลก นั่นคือ การที่จะ "ไม่รับ ไม่สร้าง ไม่ส่งมอบ" คือ ไม่รับชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ประกอบ และไม่ส่งมอบรถที่ไม่มีคุณภาพออกจากศูนย์การผลิตอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ   มาซดา ครองแชมพ์ อันดับ 1 ของนิตยสาร AUTO BILD AUTO BILD นิตยสารรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี รายงานว่า มาซดา สามารถคว้าอันดับ 1 จากผล สำรวจในรายงานด้านคุณภาพ (QUALITY REPORT) ประจำปี 2550 เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน โดยนิตยสารดังกล่าว ได้เริ่มจัดทำรายงานด้านคุณภาพ ตั้งแต่ปี 2544 โดยรวบรวมผลการสำรวจความคิดเห็นใน 7 หัวข้อหลักที่ใช้ในการประเมินและจัดอันดับ ได้แก่ การทดสอบความทนทานของรถยนต์ แบบสอบถามเจ้าของรถยนต์ การเรียกรถคืนศูนย์ รายงาน TUV (TECHNISCHE UBERWACHUNG VEREIN) ของเยอรมนี การร้องเรียนมายังนิตยสาร ฯ จากผู้ใช้รถ รูปแบบการรับประกันคุณภาพ และคุณภาพของตัวแทนจำหน่าย ซึ่งได้รับการทดสอบโดยมิได้มีการบอกล่วงหน้า จากข้อกำหนดดังกล่าวสามารถบอกถึงคุณภาพของรถยนต์แต่ละบแรนด์ในทวีปยุโรป นอกจากนี้ มาซดา ยังได้รับคะแนนสูงมากจากแบบสอบถามของลูกค้า ในหัวข้อความถี่ต่ำในการเข้า ซ่อมบำรุงและคุณภาพของโครงสร้างรถยนต์ ซึ่งทำให้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2549 รายงานผลการทดสอบในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และประสิทธิภาพในด้านการรับประกันคุณภาพ ซึ่งเป็นจุดเด่นของ มาซดา ตลอดมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี "เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ มาซดา ได้รับเลือกให้เป็นที่ 1 จากรายงานด้านคุณภาพของนิตยสาร AUTO BILD ในปี 2550 ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน" แดน มอริส กรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการขายและตลาด และลูกค้าสัมพันธ์ของ มาซดา กล่าว   แลนด์ โรเวอร์ ครองใจคนรักรถในอังกฤษ แลนด์ โรเวอร์ ฟรีแลนเดอร์ 2 โฉมใหม่ ประสบความสำเร็จอย่างสูง หลังจากเปิดตัวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขายที่เติบโตถึง 20 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ฟรีแลนเดอร์ 2 ผลิตจากโรงงานในเฮลวูด เมืองลิเวอร์พูล และทำสถิติยอดขายได้ถึง 7,532 คัน ใน อังกฤษ โดยกว่า 95 % เป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล และในจำนวนนี้กว่า 30 % เป็นรุ่นเอชเอสอี ซึ่งเป็นรุ่นทอพสุด เฉือนคู่แข่งอย่าง ฮอนดา ซีอาร์-วี และบีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 จอห์น เอดเวิร์ดส กรรมการผู้จัดการ แลนด์ โรเวอร์ กล่าวว่า "ฟรีแลนเดอร์ 2 โฉมใหม่ ได้กลายเป็นรถ คอมแพคท์เอสยูวี ระดับพรีเมียม ที่ครองใจชาวอังกฤษไปแล้ว เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงข้อเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์ คุณภาพ และอัตราความสิ้นเปลืองที่ต่ำมาก" แลนด์ โรเวอร์ สหราชอาณาจักร ทำยอดขายได้กว่า 24,000 คันในปีนี้ โดย เรนจ์ โรเวอร์ มียอดขายที่ เติบโตมากถึง 13 % รุ่นที่ขายดีที่สุด คือ รุ่นเครื่องยนต์ TDV 8 ส่วนรุ่น ดิสคัฟเวอรี 3 และเรนจ์ โรเวอร์ ขณะนี้ก็เป็นรถขายดีเช่นกัน   โพร์เช คว้ารางวัลรถที่มีคุณภาพจาก เจดี เพาเวอร์ เจดี เพาเวอร์ (JD POWER) เผยผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการศึกษาด้าน คุณภาพของสินค้ารถยนต์จากผู้บริโภคว่า โพร์เช คือ รถยนต์ที่มีมาตรฐานและคุณภาพสูงสำหรับตลาดรถในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดที่ โพร์เช ส่งรถเข้าไปจำหน่าย จากผลสำรวจที่ได้ทำการสอบถามและสำรวจจากผู้ซื้อรถใหม่กว่า 97,000 ราย ยืนยันว่า โพร์เช มีคุณ ภาพและมาตรฐานสูง ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2549 ในปี 2550 โพร์เช สามารถรักษาคุณภาพและมาตรฐานไว้ได้ โดยทำคะแนนทิ้งห่าง เลกซัส, ลินคอล์น, ฮอนดา และเมร์เซเดส-เบนซ์ ตามลำดับ ผลการสำรวจออกมาว่า โพร์เช บอกซ์สเตอร์ (PORSCHE BOXSTER) ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในกลุ่ม รถพรีเมียมสปอร์ท ขนาดกะทัดรัด ส่วน เคย์แมน (CAYMAN) ที่เพิ่งเข้าไปจำหน่ายได้เพียง 1 ปีหลังจากเปิดตัว ก็คว้าอันดับ 4 ไปครองได้อย่างเกินความคาดหมาย ส่วนในรุ่นยอดนิยมและอมตะตลอดกาลอย่าง โพร์เช 911 คาร์เรรา ถูกวางไว้อันดับ 1 เช่นเดียวกับปีที่แล้ว   แจกวาร์ รับรางวัลการสร้างความพึงพอใจสูงสุด ผู้แทนจำหน่ายรถ แจกวาร์ ทั่วโลก ได้รับรางวัลการสร้างความพึงพอใจลูกค้าสูงสุด ทั้งจาก สหรัฐ อเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมนี Bibiana Boerio, ผู้จัดการฝ่ายการตลาด JAGUAR CARS กล่าว "ผลสำเร็จที่น่าอัศจรรย์จาก เจดี เพา เวอร์ ของสหรัฐอเมริกา และจาก มอเตอร์ เทรเดอร์ (MOTOR TRADER) ของประเทศอังกฤษ เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะมอบการขายและประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่ดีเยี่ยมของ แจกวาร์ ทั้งนี้รถของเรามีชื่อเสียงยาวนาน มีรูปลักษณ์ สมรรถนะ และคุณภาพที่สามารถสะท้อนถึงการบริการที่ดีของผู้แทนจำหน่ายทั่วโลก" ในสหรัฐอเมริกา แจกวาร์ ได้รับการจัดอันดับ 1 จาก เจดี เพาเวอร์ และ ASSOCIATES CUSTOMER SERVICE INDEX (CSI) โดยเป็นคะแนนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจ สามารถแซง เลกซัส ที่เคยได้รับคะแนนสูงสุดก่อนหน้านี้ ส่วนในสหราชอาณาจักร ผู้แทนจำหน่ายรถ แจกวาร์ HATFIELDS OF WAKEFIELD ได้รับรางวัล FRANCHISED DEALERSHIP OF THE YEAR จาก MOTOR TRADER'S PRESTIGIOUS INDUSTRY AWARD FOR 2007 ในขณะที่ MERRITTS JAGUAR OF AMERSHAM ก็ได้รับรางวัลทางด้านบริการหลังการขาย การตัดสินของคณะกรรมการจาก มอเตอร์ เทรเดอร์ ตัดสินให้ผู้แทนจำหน่ายรถ แจกวาร์ ได้รับรางวัล ชนะเลิศ โดยมีการเปรียบเทียบกับผู้แทนจำหน่ายรถยี่ห้ออื่นๆ ที่ขายในสหราชอาณาจักร ซึ่งรวมไปถึงรถที่มีการบริการดี เช่น บีเอมดับเบิลยู, เอาดี, เมร์เซเดส-เบนซ์ และ โพร์เช ขั้นตอนในการคัดเลือกได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยมีการตรวจเยี่ยมสถานที่ รวมถึงสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อนำมาประเมินผล