ซื้อรถระวังเหนื่อย

เมื่อรถแทกซีแล่นมาถึงหน้าวัด ผู้โดยสารจะลง จึงเอื้อมมือไปสะกิดหลังคนขับเพื่อบอกให้เลี้ยวขวาโชเฟอร์กลับร้องเสียงหลง พลางหักพวงมาลัยด้วยความตกใจ รถเกือบเฉี่ยวชน 10 ล้อ ที่ตะบึงสวนทางมา แบบเส้นยาแดงผ่าแปด พอรถแทกซีตั้งหลักได้ “วันหลังพี่อย่าทำแบบนี้นะ โอย...พี่ รู้มั้ยว่าผมตกใจแค่ไหน” คนขับแทกซีโวย ผู้โดยสารซึ่งกำลังชอคจากการรอดตายแบบฉิวเฉียดถึงกับงง และมาถึงบางอ้อ เมื่อโชเฟอร์บอกเสียงผะผ่าว “เอ่อ...ไม่ใช่ความผิดของพี่หรอก คือ วันนี้ผมมาขับแทกซีครั้งแรก” “อ้าว...ก่อนหน้านี้คุณทำมาหากินอะไรล่ะ” ผู้โดยสารที่เหงื่อยังชุ่มฝ่ามือ ซักด้วยความสงสัย “ขับรถมูลนิธิร่วมกตัญญูมาตลอด พอคุณพี่สะกิดหมับผมก็ผวา นึกว่าไอ้ที่ห่อๆ แบกขึ้นรถเป็นประจำสะกิดหลังเข้าให้ เฮ้อ หากินทางขับรถแทกซีคงจะไม่รุ่งซะแล้วละพี่” เฉลียว - ทางสายหนึ่งผ่านประจวบ ฯ ชุมพร สุราษฎร์ธานี อยากทราบว่าทางเส้นนี้ไปไหน ฉลาด - ไปนครศรีธรรมราชชัวร์ เฉลียว - เป็นคำตอบที่ผิด ฉลาด - แล้วไปไหนหว่า เฉลียว - ไม่ไปไหนหรอก มันตั้งอยู่ตรงนั้นแหละ ฉลาด- !?! “ขำจราจร” เพื่อคลายเครียดจากขายหัวเราะ จะได้ไม่ประสาทแด... จากการเมืองเป็นพิษ ทะลึ่งยุให้ไทยฆ่าไทย แล้วมาตบท้ายด้วยคดีความอย่างเคย แรกเริ่มเดิมที “นายเหลือใช้” กับ “นางถูกหวย” สองผัวเมียฐานะไม่ค่อยไปกับชื่อ ดันเป็นพวกเอนพีแอลไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย แต่ไม่รวยเหลือล้น เหมือนเจ้าของสโลแกน ในที่สุดโดนเจ้าหนี้เชือด ฟ้องทั้งคดีแพ่ง ซ้ำอีก ด้วยคดีล้มละลาย ถึงขั้นจอดป้าย ต่อจากนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดดเข้ามาทำหน้าที่รวบรวมทรัพย์สินของสองผัวเมีย เพื่อขายทอดตลาด งานนี้เจ้าหน้าที่มักสอดส่องมองหาบ้านที่ดินและรถยนต์เป็นอาทิ พบว่าเดิมทีนายเหลือใช้มีรถเก๋งยี่ห้อดังคันหนึ่ง ได้โอนไปให้ “นายเหลือกิน” ลูกชายของตน และมีการโอนต่อไปให้ “นายสุดระทึก” อีกทอดหนึ่ง การโอนยังอยู่ในเวลาไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่สองผัวเมียล้มละลาย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำรถมาส่งมอบเพื่อขายทอดตลาด เมื่อไม่เป็นผล เจ้าพนักงานร้องต่อศาล ให้เพิกถอนการโอนรถระหว่างนายเหลือใช้ กับ นายเหลือกิน และระหว่าง นายเหลือกิน กับ นายสุดระทึก ให้รถกลับมาเป็นของนายเหลือใช้ เพื่อที่จะรวบรวมเข้าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ขายทอดตลาดต่อไป คืนรถไม่ได้ให้จ่ายเงินโขอยู่ พร้อมดอกเบี้ย จนกว่าจะคืนเสร็จ นายเหลือกิน ยื่นคำร้องคัดค้าน และมาในแนวแปลก บอกว่าไม่ได้รับโอนมาจริงๆ หรอก โอนแต่ชื่อรถยังเป็นของ นายเหลือใช้ และนางถูกหวย อย่างเดิม กระผมไม่เกี่ยว ส่วน นายสุดระทึกก็รับโอนจาก นายเหลือใช้ นั่นแหละ นายสุดระทึก นั้นใจระทึกอยู่แล้ว โดดเข้าคัดค้าน อ้างว่าเป็นบุคคลภายนอก รับโอนโดยสุจริตมีหลักฐานการซื้อขายจ่ายเงินไปแล้ว เอารถไปไม่ได้หรอก ขอให้ศาลยกคำร้องเถิด ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้เพิกถอนการโอนรถระหว่าง นายเหลือใช้ กับ นายเหลือกิน ให้นายเหลือกิน ส่งมอบรถแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี ส่งมอบไม่ได้ให้จ่ายเงินค่ารถพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้องจนกว่าชำระเสร็จ แต่ให้ยกคำร้องเกี่ยวกับ นายสุดระทึก เสีย นายสุดระทึก หายระทึก เพราะไม่ต้องคืนรถ หรือจ่ายเงิน นายเหลือกิน ระทึกแทน ต้องยื่นอุทธรณ์ยืนยันอย่างเดิมว่าไม่เกี่ยว ไม่ได้รับโอนรถมาจริงๆ ขอให้ยกคำร้องด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเงินมากมาย ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเอาด้วยกับ นายเหลือกิน พิพากษาแก้ ยกคำร้องในส่วนที่ให้เพิกถอนการโอนรถระหว่าง นายเหลือกิน กับ นายเหลือใช้ เสียด้วย นอกนั้นให้เป็นไปตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ทำท่าจะแห้วเอาอะไรไม่ได้เลย จึงยื่นฎีกา ยืนยันว่ามีการโอนรถระหว่างนายเหลือใช้ กับ นายเหลือกิน จริงๆ อย่ายกคำร้อง ต้องดึง นายเหลือกิน ลูกชาย นายเหลือใช้มาเป็นลูกหนี้ให้ได้ จ่ายเงินให้จงได้ ศาลฎีกาเหม่อมองดูคดีนี้ด้วยความเซ็ง เพราะงานหนัก แล้วชี้ขาดออกมา ได้ความว่าการใส่ชื่อ นายเหลือกิน เป็นเจ้าของรถของ นายเหลือใช้ เป็นการใส่ชื่อไว้เฉยๆ ไม่มีการซื้อขาย หรือส่งมอบรถให้แก่กัน นางถูกหวยภรรยานายเหลือใช้ยังครอบครองรถใช้ประโยชน์เรื่อยมาจนกระทั่ง นางถูกหวย จัดการโอนขายให้ นายสุดระทึก ในตอนหลัง มีการจ่ายเงินด้วยเช็ค นางถูกหวยนำไปขึ้นเงินจากแบงค์ การโอนให้ นายเหลือกิน นางถูกหวย จัดการแบบโอนลอย นายเหลือกิน ซึ่งเป็นลูกชายไม่รู้เรื่อง ไม่ได้อยู่ร่วมบ้านกับพ่อแม่ในอันที่จะเหมาว่าครอบครองรถไว้ ลำพังการมีชื่อในทะเบียนศาลบอกว่าไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เสมอไป จึงเชื่อว่า นายเหลือกิน ไม่ได้รับโอนรถจริง การที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินมาว่า นายเหลือกิน ไม่เกี่ยวนั้นถูกต้องแล้วละ ศาลฎีกาต้องพิพากษายืนลูกเดียว เคยบอกไว้แล้วว่า การซื้อรถยนต์ ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน จากคนอื่นต้องระวังไว้อย่าง คือ เรื่องล้มละลายถ้าคนขายมีปัญหา คนซื้อเดือดร้อนด้วย การซื้อรถจากคนใกล้ชิดต้องระวังเหมือนกัน ถ้าเข้าข่ายที่รู้ว่าเขาเป็นหนี้เป็นสินเยอะแยะ จะกลายเป็นว่า เราซื้อโดยไม่สุจริต ซื้อทั้งๆ ที่เขามีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหน้าที่ตามยึดรถได้ กรณีที่เราขายรถที่มีปัญหาไปแล้ว อาจจะไม่พ้นตัว โดนบังคับให้ชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยใครเจอเข้าเหนื่อยก็แล้วกัน โชคดีมีแต่ความสุขครับท่าน จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2536