แสงสว่างปลายอุโมงค์

[table] เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ เดือน ตุลาคม ปี 52 กับ 51, ตลาดโดยรวม ,เพิ่ม ,8.8 % รถยนต์นั่ง ,เพิ่ม ,23.4 % รถกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ,เพิ่ม ,0.1 % รถอเนกประสงค์ (MPV) ,เพิ่ม ,27.9 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) ,เพิ่ม ,9.7 % [/table] [table] เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ เดือน มกราคม-ตุลาคม ปี 52 กับ 51, ตลาดโดยรวม ,ลด ,17.7 % รถยนต์นั่ง ,ลด ,4.5 % รถกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ,ลด ,27.0 % รถอเนกประสงค์ (MPV) ,ลด ,21.0 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) ,ลด ,6.0 % [/table]   ต้องเชื่อว่าเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์จริงๆ เพราะยอดการขายเริ่มต้นไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เดือนตุลาคม เดือนเดียว ขายกันได้ 53,271 คัน เพิ่มขึ้น 8.8 % ทำให้ยอดขายสะสมที่แทบจะดิ่งเหวไปแล้ว ก็ลดลงเพียงแค่ 17.7 % ขายทั้งตลาด 419,755 คัน ก็ต้องยอมรับว่าเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์จริงๆ ไม่ใช่ใครมาก่อกองไฟไว้ แล้วมองเห็นว่าสว่างแต่เป็นเพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ฯ รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก ที่กระเตื้องขึ้นแม้ว่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ ก็ตามที ก็ยังดีกว่านั่งมองยอดขายที่ตกลงไปตาปริบๆ ไปคุยกันเรื่องสัพเพเหระกันดีกว่า เรื่องแรก ที่กลายเป็นเรื่องไม่น่าตื่นเต้นกันเสียแล้ว คือ การทุบรถ ที่รอบนี้ต้องไปทุบกันถึงโรงพักเพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ทำข่าว แถมมีอุปกรณ์ไปทุบตั้ง 4 อย่าง ตั้งแต่ สากกะเบือ พลั่ว จอบ และ ค้อนก็ได้เป็นข่าวกันไป แต่พอลงลึกไปในรายละเอียด เรื่องกลับโอละพ่อ เพราะเท่ากับว่าคุณผู้หญิงเธอพูดไม่หมดถูกค้านมาว่าเขาเปลี่ยนรถให้ตั้ง 3 หนแล้ว แต่คุณเธอก็ยังไม่ยินยอม แถม สคบ. ก็นัดวันเข้าไปคุยแล้ว แต่คุณเธอก็มาชิงทุบรถดักหน้าเสียก่อน ไม่รู้ว่าคนสมัยนี้เป็นอะไรไป พูดเท่าที่ตัวเองอยากพูดเท่านั้น เรื่องถัดมา ก็เรื่องภาชนะที่ใช้บรรจุแกสธรรมชาติอัด หรือเราเรียกกันง่ายๆ ว่า ถังแกส นั่นแหละ เหตุก็เพราะรถเมล์ที่ติดตั้งถังแกส เกิดระเบิดพังไปหลายคัน ดีที่ระเบิดที่อู่ของตัวเองเพราะถังไม่ได้มาตรฐาน ก็เลยต้องออกกฎหมายให้ถังแกสต้องมีรายละเอียดที่ใช้ผลิตแสดงติดอยู่บนภาชนะนั้น แต่ถ้าไม่มีก็ถือว่าเป็นสินค้าต้องห้าม นอกนั้นก็ต้องผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์จากกรมธุรกิจพลังงาน และนำหนังสือรับรองไปแสดงต่อเจ้าพนักงานศุลกากรในการนำเข้า ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ก็ยกร่างกำหนดชนิดของถังแกสขึ้นมาทำให้ถังโดนัท ที่เคยได้รับความนิยม แต่ผิดกฎหมายในอดีต กลายเป็นเรื่องถูกกฎหมายในปัจจุบัน ลองอ่านศัพท์ของสำนักงานมาตรฐานดู “ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (liquefied petroleum gas) ซึ่งในมาตรฐานนี้จะเรียกว่า “ก๊าซ” หมายถึงก๊าซไฮโดรคาร์บอนเหลว อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างผสมกันเป็นส่วนใหญ่ โพรเพน (propane) โพรพีน (propene) บิวเทน (butane) บิวทีน (butane) โดยแบ่งถังตามรูปทรงเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทรูปทรงแคปซูล (cylindrical) ที่แบ่งเป็นแบบถังสองส่วน และแบบถังสามส่วน และอีกประเภทรูปทรงยางรถยนต์ (torodal) ที่แบ่งเป็นอีกสองแบบ คือ แบบที่ข้อต่อสำหรับประกอบส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์อยู่ด้านใน และ ชนิดที่อยู่ด้านนอก” เรียกว่าขุดเอาถังใต้ดินขึ้นมาบนดินอย่างถูกกฎหมาย คนใช้จะได้สบายใจ เพราะถึงอย่างไร ถังแกสแบบโดนัท ซ่อนในช่องเก็บยางอะไหล่ได้อย่างมิดชิด ไม่เกะกะภายนอก ไม่เปลืองเนื้อที่ ไม่ต้องต่อเติมอะไรเพิ่มมาก ก็ยังได้รับความนิยม แบบว่าทำกันใต้ดิน ราคาเป็นแสนทีเดียว ก็แสดงความยินดีกับคนใช้ถังโดนัทด้วย หาทางไปทำให้ถูกกฎหมายเสีย จะได้สบายใจกันทุกฝ่าย เรื่องสุดท้ายก่อนจะไปเรื่องตัวเลข คราวนี้ขอปรบมือให้ กรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ไปยังสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง และสามารถแสดงรายการบุคคล ชื่อ-สกุล และที่อยู่ของผู้ยื่นคำขอดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถได้ โดยระบบจะดำเนินการบันทึกข้อมูลโดยอัตโนมัติ จึงให้ใช้ข้อมูลทะเบียนราษฎร แทนสำเนาหรือภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้าน เฉพาะการดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถ เพื่อลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ก็เท่ากับว่าเดี๋ยวนี้ติดต่อกับกรมการขนส่งทางบก ไม่ต้องมีสำเนาทะเบียนบ้านไปแสดงแล้ว เอาแค่บัตรประชาชนก็พอ แจ๋วครับ กลับมาเรื่องตัวเลข เรื่องของแสงสว่างปลายอุโมงค์ในเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ยอดการขายเดือนนี้ ค่อยน่าชื่นใจ ที่ตัวเลขเพิ่มขึ้น 8.8 % ขายได้ 53,271 คัน แต่กระนั้นยอดรวมก็ยังกระเตื้องขึ้นไม่มาก ได้แค่ติดลบ 17.7 % ตัวเลขรวม 419,755 คัน ตำแหน่งแชมพ์ยอดรวม ยังได้แก่ โตโยตา ขาย 23,774 คัน เพิ่มขึ้น 15.9 % ส่วนแบ่ง 44.6 % โดยอันดับสองเป็น อีซูซุ ขาย 10,614 คัน เพิ่มนิดหนึ่ง 3.2 % ส่วนแบ่ง 19.9 % อันดับที่สาม ฮอนดา ขาย 9,009 คัน เพิ่ม 9.9 % ส่วนแบ่ง 16.9 % อันดับสี่ นิสสัน ขาย 2,615 คัน ส่วนแบ่ง 4.9 % และอันดับห้า มิตซูบิชิ ขาย 2,131 คัน ลดลงเจ้าเดียว 3.0 % ส่วนแบ่ง 4.9 % พอหันไปดูทางประเภทรถยนต์นั่ง เดือนนี้ทุกค่ายโหมกระหน่ำ ทำให้ยอดพุ่งไปถึง 23.4 % ขาย 22,242 คัน ขณะที่ยอดรวมทั้งหมดยังลดอยู่ 4.5 % ขาย 170,852 คัน ตำแหน่งแชมพ์ ยังคงรักษาเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โตโยตา ขาย 10,650 คัน เพิ่มเยอะ 36.9 % ส่วนแบ่ง 47.9 % ที่สองตามมาติดๆ ฮอนดา ขาย 8,607 คัน เพิ่ม 11.3 % ส่วนแบ่ง 38.7 % ที่เหลือขายกันไม่ถึงพันคัน ที่สาม นิสสัน ขาย 693 คัน ก็ยังเพิ่ม 13.6 % ส่วนแบ่ง 3.1 % ที่สี่ มิตซูบิชิ ขาย 493 คัน เพิ่มตั้ง 228.7 % ส่วนแบ่ง 2.2 % และที่ห้า เชฟโรเลต์ ขาย 455 คัน เพิ่ม 5.8 % ส่วนแบ่ง 2.0 % รายงานผู้เสียภาษีสูงสุด เดือนนี้หลากยี่ห้อ แจกวาร์ ขาย 3 คัน โพร์เช ขาย 2 คัน ฮัมเมอร์ ขาย 2 คัน เบนท์ลีย์ ขาย 2 คัน และ ลัมโบร์กินี 1 คัน ประเภทรถกระบะ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เพิ่มนิด 0.1 % ขายได้ 22,169 คัน แชมพ์เดือนนี้เป็น อีซูซุ ขาย 8,986 คัน เพิ่ม 1.7 % ส่วนแบ่ง 40.5 % อันดับสอง โตโยตา ขาย 8,963 คัน เพิ่ม 0.8 % ส่วนแบ่ง 40.4 % ที่สาม นิสสัน ขาย 1,742 คัน เพิ่ม 16.3 % ส่วนแบ่ง 7.9 % รถอเนกประสงค์ บวกครับ 27.9 % ขาย 509 คัน โดยมีเจ้าตลาด โตโยตา ขาย 325 คัน เพิ่ม 25.0 % ครองส่วนแบ่ง 63.9 % ก็ยังเป็นความเชื่อที่ว่า หนนี้จะเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์จริงๆ ไม่ใช่เดินตามแสงไฟฉาย หรือเดินตามกองไฟ ที่สว่างชั่วคราว ไม่เชื่อกลับไปดูตัวเลขจากงานมหกรรมยานยนต์ดูก็ได้ ว่าแจ๋วแค่ไหน