เมร์เซเดส-เบนซ์ ไทพ์ 230 พูลล์แมน

สังคมรถโบราณฉบับนี้ จะพาไปเยี่ยมชมโรงงานซ่อมบำรุงรถโบราณ ที่ได้มาตรฐาน ผลงานระดับโรงงานประกอบรถยนต์ นั่นคือ บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด หรือที่คุ้นเคยกันดีในชื่อ เบนซ์บางพลัด พร้อมชมรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ ไทพ์ 230 พูลล์แมน ฝีมือการบูรณะของที่นี่   บันทึกไว้ในกาลเวลา เมร์เซเดส-เบนซ์ ไทพ์ 230 พูลล์แมน ผลิตออกสู่สายตาสาธารณชนเมื่อปี1928 (2471) ในประเทศเยอรมนี และได้นำเข้ามาประเทศไทยเมื่อปี 1940 (2483) ยุคนั้นรถยนต์มีวิวัฒนาการมาจากโครงสร้างจากรถม้า โครงสร้างต่างๆ ยังมีการผสมผสานระหว่างไม้กับเหล็กอยู่ และในสมัยนั้นค่าย "ดาวสามแฉก" ยังไม่เก่งเรื่องการต่อตัวถัง ต้องจ้างบริษัทจากฝรั่งเศส ที่มีความชำนาญกว่าต่อให้ หลังจากสะสมประสบการณ์ได้ไม่นาน ค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ ก็เริ่มต่อตัวถังด้วยตัวเอง และคันนี้เป็นคันแรกๆ ที่ต่อเอง จึงถือเป็นรถยนต์ที่ทรงคุณค่าคันหนึ่ง ราคาซื้อขายรถในสมัยนั้น อยู่ที่คันละ 10,400 ริคมาร์ค (ค่าเงินในสมัย ฮิทเลร์) ถ้าถามว่าเงินเท่านี้ ทำอะไรได้บ้าง ต้องบอกว่า ปลูกบ้านได้ 2 หลัง ในสมัยนั้นคนทั่วไป การซื้อบ้านสักหลัง ต้องใช้เวลากว่าชั่วชีวิต เพราะฉะนั้นคนที่ใช้รถระดับนี้ ต้องมีฐานะที่ดีมาก และต้องมีหน้ามีตาในสังคมพอสมควร และต้องจ้างคนขับรถด้วย คนเยอรมันสมัยนั้น ถือว่าคนขับรถ เป็นคนอีกชั้นหนึ่งของสังคม ยุคนั้นเบาะตอนหลังที่เจ้านายนั่ง จะเป็นเบาะผ้าเท่านั้น เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น เพราะเป็นเมืองหนาว ส่วนเบาะตอนหน้าของคนขับ จะเป็นเบาะหนัง เพื่อทำความสะอาดได้ง่าย (ตรงข้ามกับปัจจุบัน) การออกแบบตัวรถ ก็เอื้อให้คนนั่ง (เจ้านาย) นั่งสบาย ส่วนตอนหน้าตำแหน่งคนขับนั้น ไม่มีความสบายเอาเสียเลย   ขั้นตอนการบูรณะ หัวใจของการบูรณะรถโบราณ คือ คงทุกอย่างไว้ในรูปแบบเดิม ตั้งแต่วัสดุชิ้นส่วนใหญ่สุด อย่างตัวถัง จนถึงชิ้นเล็กสุด อย่างนอท ก็ต้องใช้แบบเดิม (นอทแบบหัวผ่า) จะใช้นอทหัวแฉกแบบยุคนี้ไม่ได้ ขั้นตอนการชุบชีวิต เริ่มจากยกตัวถังออก แยกจากแชสซีส์ เมื่อแยกแล้ว จะเห็นแชสซีส์ เครื่องยนต์ เกียร์ และเฟืองท้าย อีกส่วนก็เป็นตัวถัง เบาะ ประตู หลังคา เป็นต้น การซ่อมแซมต้องเริ่มจากเครื่องยนต์ ต้องแยกชิ้นส่วนทุกชิ้นออกมา อะไรที่เสีย ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ ถ้าไม่มี ก็ต้องทำขึ้นมา เช่น แบริง และลูกสูบ ต้องหล่อใหม่ โดยใช้ส่วนผสมเดียวกับในสมัยนั้น คือ ตะกั่วและดีบุก ด้วยวิธีการสั่งให้ทางค่ายรถยนต์ที่เยอรมนีหล่อให้ แล้วมาปรับแต่งด้วยวิธีแบบโบราณกันเอาเอง แค่ส่วนนี้ ก็กินเวลากว่าครึ่งปีไปแล้ว ต่อจากเครื่องยนต์ก็ถึงชุดเกียร์ ต้องกัดเฟืองเกียร์เม็ดมะยมกันใหม่ที่โรงงาน ส่วนเฟืองท้ายนั้น ใช้วิธีโบราณ ด้วยการใช้หมึกดำปรับระยะฟรี จนเฟืองบายศรีกับเฟืองดอกจอกขบกันได้เต็มหน้าพอดี เป็นอันใช้ได้ ส่วนด้านตัวถัง ก่อนจะทำสี ก็ต้องปรับตัวถังให้ได้มุมที่ตั้งตรงตามเดิมเสียก่อน รวมถึงประตูและกรอบกระจกด้วย ส่วนภายใน พวกเบาะต่างๆ ทำขึ้นใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ขดสปริง กากมะพร้าว แล้วก็หนัง รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไม้ มาตรวัดต่างๆ ตัวเปิดประตู เหล็กรูปทรงต่างๆ เป็นต้น โดยให้ทางเยอรมนีทำให้ ด้วยวิธีส่งตัวอย่างไปให้ดู แล้วส่งมาประกอบกันที่นี่ เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานเดิมของรถ เป็นเวลากว่า 3 ปี รถคันนี้จึงแล้วเสร็จ สิ่งเหล่านี้ทำให้รู้สึกว่าคนที่สร้างรถคันนี้ เขาให้เกียรติลูกค้าจริงๆ เริ่มตั้งแต่ดีไซจ์นที่สวยงาม ตั้งแต่หัวจรดท้าย เครื่องยนต์ที่นิ่งเงียบ รวมถึงระบบกันสะเทือนที่นุ่มนวล   สิ่งที่ต้องเพิ่ม บ้านเราเป็นเมืองร้อน จึงได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (แอร์) เพิ่มเข้าไปในรถคันนี้ โดยเลือกที่จะไม่ใช้กำลังเครื่องยนต์เพื่อหมุนคอมเพรสเซอร์เหมือนรถทั่วไป แต่ใช้พลังงานจากแบทเตอรีแบบลิเธียมนาโนฟอสเฟท (ที่ใช้ในรถยนต์ไฮบริด) ที่ดีที่สุดขณะนี้ มาเป็นตัวขับคอมเพรสเซอร์ไฟฟ้า เพื่อให้รถคงสภาพเดิมไว้ การชาร์จ 1 ครั้ง ใช้เวลา 4 ชั่วโมง สามารถใช้งานได้ 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยไม่พึ่งพาเครื่องยนต์ ฉะนั้นจึงสามารถใช้ได้ แม้ตอนดับเครื่อง การชาร์จนั้นสามารถใช้ไฟบ้าน 220 โวลท์ ชาร์จได้ทุกที่ ทุกเวลา   [table] ข้อมูลจำเพาะ เมร์เซเดส-เบนซ์ ไทพ์ 230 พูลล์แมน ยี่ห้อ/รุ่น, เมร์เซเดส-เบนซ์ ไทพ์ 230 พูลล์แมน รูปแบบ, เก๋ง 4 ประตู เปิดประทุน ปีที่ผลิต (คศ.), 1928 เครื่องยนต์, แบบ, เบนซิน 6 สูบ ความจุ (ซีซี), 3400 เกียร์ (จังหวะ), ธรรมดา 4 [/table]