บทบรรณาธิการ(4wheels)
1 วัน ใน GM POWER TRAIN
คราวนี้มาแปลกครับ เมื่อ จีเอม หรือบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชวนไปร่วมสร้างประสบการณ์ความแปลกใหม่ ด้วยการไปชมโรงงานผลิตเครื่องยนต์ GM POWER TRAIN และให้โอกาสสื่อมวลชนเพียง 20 ท่าน ร่วมสัมผัสประสบการณ์ในไลน์การผลิตเครื่องยนต์
ความคิดแรกที่ได้รับเชิญครั้งนี้ ยังงงอยู่ว่า เขาเอาจริงหรือ ? แล้วถ้าเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ละ ประกอบผิดละ จะทำอย่างไร ? ทุกปัญหามีคำตอบ ลองตามผมมา แล้วจะถึงบางอ้อครับ
GM POWER TRAIN เป็นพโรเจคท์ที่บริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนธุรกิจในการสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ โดยลงมือก่อสร้างตั้งแต่ปี 2551 บนพื้นที่ 34 ไร่ ติดกับศูนย์การผลิตรถยนต์ จีเอม โดยศูนย์การผลิตเครื่องยนต์แห่งนี้ สร้างเสร็จในปี 2553 และเริ่มเดินสายการผลิตจริงตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2554 นับจนถึงวันนี้ ผลิตเครื่องยนต์ไปแล้วกว่า 1 แสนเครื่อง ส่วนรุ่นของเครื่องยนต์ที่ผลิตนั้น มีความจุ 2.5 และ 2.8 ลิตร ที่ใส่ในรถกระบะ เชฟโรเลต์ โคโลราโด และรถเอสยูวี ทเรลบเลเซอร์ ที่เราเห็นวิ่งกันเกลื่อนเมืองนี่ละครับ
ความทันสมัยของศูนย์การผลิตนั้น ไม่ต้องบอกให้มากเรื่องครับ ที่นี่บรรจุเทคโนโลยีใหม่ๆ ในสายพานการผลิตตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นศูนย์การผลิตที่มีความโดดเด่นมาก ใช้ระบบคอมพิวเตอร์และเลเซอร์ล้ำสมัย มีห้องทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์แบบไม่จุดระเบิด (COLD-TEST) เต็มรูปแบบ 100 % รวมถึงเป็นโรงงานที่ได้รับการรับรองว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นศูนย์ที่ปลอดการฝังกลบแห่งล่าสุดของ จีเอม ทั่วโลกด้วย มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในศูนย์การผลิตตลอดเวลา 25 องศาเซลเซียส คือ สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ต่างจากโรงงานอื่นๆ เห็นไหมละครับว่า เขาไฮเทคมากขนาดไหน ! ส่วนมูลค่าการลงทุนของศูนย์แห่งนี้ 6,000 ล้านบาท สำหรับกำลังการผลิตตั้งเป้าไว้ปีละ 1.2 แสนเครื่อง เพื่อป้อนให้กับศูนย์การผลิตรถที่อยู่ใกล้ๆ กัน และที่นี่เป็นศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล แห่งที่ 2 รองจากประเทศบราซิลที่ จีเอม มีอยู่
ส่วนที่บอกว่า ผมมีส่วนในการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลนั้น อันนี้จริง ด้วยการช่วยเหลือของครูฝึกที่คอยแนะนำขั้นตอนต่างๆ ในการทำงานเช่นเดียวกับพนักงานของ จีเอม ลงมือทำเองจริงๆ โดย จีเอม ใจดี ให้สื่อมวลชนลงมือประกอบเองถึงคนละ 2 เครื่อง แต่อยู่ในความดูแลของครูฝึก และเจ้าหน้าที่ ซึ่งคอยแนะนำการทำงานจริงๆ ตั้งแต่ก่อนเข้าไลน์การผลิต ต้องผ่านขั้นตอนการอบรมความรู้เกี่ยวกับศูนย์การผลิต ขั้นตอนการทำงาน มาตรการความปลอดภัย ก่อนลงมือทำงาน ทุกคนจะได้รับ WORK PASSPORT ที่ระบุ PROCESS และ JOBS TRAINING รวมถึงแฟ้มงานที่ระบุขั้นตอนการทำงานในแต่ละหน้าที่ของแต่ละคน ส่วนตัวแล้ว อึ้งในมาตรการการแจงรายละเอียดของงานที่เขาวางแผนไว้ชัดเจน พนักงานไม่มีหน้าที่ตัดสินใจ คุณมีหน้าที่ผลิตชิ้นงานตามที่ระบุเท่านั้น หากเกิดปัญหาในไลน์การผลิต คุณมีหน้าที่แจ้งต่อหัวหน้างาน เพื่อให้ทีมช่วยแก้ปัญหา และทุกไลน์การผลิตจะมีเวลาควบคุมการทำงานของแต่ละหน่วยชัดเจน 2-3 นาที/1 เครื่อง/หนึ่งความรับผิดชอบ ในแต่ละวัน ศูนย์การผลิตแห่งนี้จะผลิตเครื่องยนต์ได้เต็มกำลังถึง 420 เครื่อง และจะมีการสลับไลน์การผลิตที่คละรุ่นของเครื่องยนต์ได้ตามที่กำหนด
ผมได้ลงมือประกอบอยู่ 2 ส่วน ที่ไลน์แคมชาฟท์ โบลท์ และอัพเพอร์ ออยล์ แพน หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็ประกอบแคมชาฟท์ และอ่างน้ำมันเครื่องตัวบนของเครื่องยนต์ เป็นการเรียนรู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่คิดว่าเราจะมีโอกาสได้เข้ามาลองทำในไลน์การผลิตจริง ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิตนักข่าวตัวเล็กๆ ที่ได้ทำจริงๆ
นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมาฝากกันด้วยนะครับ ในช่วงบ่ายๆ มี Q&A หลังจากลองของจริงๆ แล้ว มีข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ โมเดล ปี 2014 ที่ จีเอม ทุ่มงบพัฒนาและวิจัยให้เครื่องยนต์บลอคเดิมมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีหลายรายการที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ น่าสนใจไม่น้อย แต่เสียดายครับ ที่ข้อมูลเชิงลึก ผมไม่สามารถเปิดเผยได้ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม และนิตยสาร 4 WHEELS ฉบับที่คุณอ่านอยู่นี้ วางแผงตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ฉะนั้นตามสัญญาลูกผู้ชาย เราไม่สามารถเปิดเผยก่อนได้รับอนุญาต
แต่บางช่วงของคำถามที่ยิงกันตรงๆ เช่น ทำไมเครื่องยนต์รุ่นเดิม ถึงมีเสียงดัง ประมาณว่า เงียบ คือ พัง ดัง คือ วิ่ง ก็ได้รับคำตอบจากวิศกวรของ จีเอม ว่าเกิดจากหลายสาเหตุ แคมชาฟท์ บ้างละ ระยะห่างของเกียร์บ้างละ แต่เครื่องยนต์โมเดลใหม่นี้ ปัญหาพวกนี้จะลดน้อยลง ทำไมเครื่องยนต์ของ เชฟโรเลต์ ต้องมีความจุ 2.5 และ 2.8 ลิตร ทำไม่ไม่ปรับไปเป็น 2.2 หรือ 3.0 ลิตร ตามทเรนด์ตลาดรถในเมืองไทยที่เขานิยมกัน คำตอบที่ได้รับ คือ เป็นไปตามผลสำรวจที่วิจัยลึกไปถึงกลุ่มผู้ใช้งานจริงๆ ซึ่งความจุประมาณนี้ เพียงพอแล้วสำหรับตลาดรถในเมืองไทย
และเครื่องยนต์โมเดล ปี 2014 นี้ จะเป็นข่าวดีสำหรับคนไทย เพราะเป็นผลงานของคนไทยที่ร่วมวิจัยกับวิศวกร จีเอม ในสหรัฐอเมริกา และเครื่องยนต์รุ่นนี้จะเน้นในภูมิภาคเอเชียเท่านั้น ก่อนกลับจากศูนย์การผลิต GM POWER TRAIN เขามอบของที่ระทึก เอ๊ย ! ที่ระลึก ที่ช่างคิดจริงๆ เป็นก้านสูบพร้อมเสื้อสูบของเครื่องยนต์ดีเซล ที่ผ่านการทดสอบจากห้องแลบ ถูกนำกลับมารีไซเคิล มอบให้พวกเราเก็บไว้เป็นความทรงจำ แต่ก็ยังหวั่นใจอยู่ว่า ถ้าผู้บัญชาการที่บ้าน รู้ว่ามันสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้ เมื่อนั้นผมมีสิทธิ์เสียวสะท้านไปทั้งตัวแน่ มันน่าระทึกไหมละ !
เรื่องโดย : ลิขิต น้าประเสริฐ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : บทบรรณาธิการ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/92211