แนะนำเพลง
แนะนำหนัง+เพลง
STAR TREK INTO DARKNESS
ทะยานสู่ห้วงมืด ของความจริง
สารภาพตามตรงว่าผู้เขียนไม่เคยเลยที่จะใส่ใจจำว่า นี่คือ STAR TREK ภาคที่เท่าไร ใครเป็นกัปตันใครเป็นตัวเอก บอกตรงๆ เลยว่าไม่สนใจจะดูด้วยซ้ำ เพราะเอือมหนังไซ-ไฟไล่ยิงกันในอวกาศ และมุกเดิมๆ ของฉากไล่ล่ากลางเวหา ยานของพระเอกมุดเข้าช่องแคบด้วยความเชี่ยวชาญเฉียดฉิว ยานของตัวร้ายตามมาก็ชนเข้าไปอย่างจัง ร่วงไปหนึ่ง
อะไรอย่างนี้...เดาได้หมดแล้ว แต่ก็ทำกันมาเรื่อยๆ ไม่ครีเอทฉากบู๊บ้างเลย ไหนจะความชัดเจนของตัวละคร ฝ่ายดีก็ดีแท้ ฝ่ายเลวก็เลวโฉ่งฉ่างหาที่ดีไม่ได้เลย ที่พอจะมีปมให้มาขยายกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตก็คงหนีไม่พ้น STAR WAR มหากาพย์สงครามไม่รู้จบของเหล่าอัศวินเจได ผู้ใช้พลังด้านสว่างผดุงความยุติธรรมและสันติภาพของกาแลคซี
แล้ว STAR TREK คืออะไร เป็นหนังเกรดบีที่พยายามเลียนแบบ STAR WAR หรือเปล่า ? ทำไมต้องตั้งชื่อและวางบรรยากาศให้ดูคล้ายกันขนาดนั้น ประหนึ่งหนังเรื่อง พี่มาก พระโขนง ของ GTH กับ พี่มาด พระโขนง ที่มี น้าค่อม แสดงนำ ผู้เขียนสงสัยมานานเมื่อบวกกับอคติทิฐิที่มี จึงวางเฉยต่อ STAR TREK ทุกๆ ภาค และทุกคำสรรเสริญเยินยอที่มีให้แก่หนังเรื่องนี้
มาคราวนี้ด้วยอานุภาพของการบอกปากต่อปาก และใจที่เปิดกว้างมากขึ้น จึงรับเอาความเห็นในหนังเรื่องนี้มาฟัง โดยพิจารณาจากภูมิความรู้เดิมของผู้เล่า ไม่ใช่ว่าชื่นชมคนเล่าเลยอยากดูหนังตามเขา แต่เพราะได้ยินเขาชมหนังเรื่องนี้ก็เลยอยากดู
ปรากฏว่า STAR TREK INTO DARKNESS ถือได้ว่าเป็นหนังดีที่น่าดูเรื่องหนึ่ง แม้จะไม่เคยมีภูมิความรู้เรื่องจักรวาล โดยการลำนำอันยาวนานของหนังเรื่องนี้ แต่บอกได้เลยว่านี่คือหนังที่สนุกได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องย้อนกลับไปดูภาคก่อนๆ แต่อย่างใด
เนื้อหาว่าด้วยเรื่องการปกป้ององค์กร และสันติภาพของโลก ให้พ้นจากภัยมืดอันเกิดจากเนื้อร้ายที่ถูกปลุกขึ้นมาจากภายใน เป็นเหมือนผีร้ายที่เราจุดธูปเรียกให้มาช่วยรบ จนเมื่อเสร็จศึกก็เพิ่งสำนึกได้ว่า ผีร้ายได้วางแผนยึดครองอาณาจักรจิตใจไปเกือบทั้งหมดแล้ว หนทางเดียวก็คือกำจัดมันซะ และต้องอย่าให้ใครรู้ด้วยว่าครั้งหนึ่งเราเคยกระหายชัยชนะจนต้องใช้วิธีผิดๆ
แต่กระนั้นเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ความถูกต้องตามครรลองครองธรรมเป็นของผู้ใด ระหว่างจอมทัพที่กระหายชัยชนะ หรือขุนพลผู้ต้องการสถาปนาอาณาจักรใหม่ หากเป็นเรา จะเลือกมอบอาณาจักรให้อยู่ในมือใคร หรืออีกนัยหนึ่งเราอยากให้ใครปกครองเรา ในเรื่องนี้ยานเอนเตอร์ไพรซ์ของเหล่าตัวเอก จึงตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่เลือกข้างใครก็ยากจะตัดสินใจ ซ้ายก็หน้าผา ขวาก็เหว มองหน้าใครในสภาก็หาดีชัวร์ๆ ไม่ได้ซักคน
โดยเฉพาะเมื่อความจริงมันผันแปรไม่สิ้นสุด ชุดความจริงมันมีหลายเรื่องแล้ว แต่จะออกจากปากใคร ฟังหูไว้อีกหูสมัยนี้ก็ยังไม่พอ นี่ยังไม่พูดถึงว่าความจริงนั้นก็ย่อมมีเพียงหนึ่งเดียวนั่นล่ะ แต่จะมองมุมไหน ความจริงก็ย่อมไม่เหมือนกัน เพราะความจริงยุคนี้มันมีมิติเป็น 4D-5D เอาแค่สิ่งง่ายๆ อย่างความถูกต้อง หนังเรื่องนี้เขาก็ยกประเด็นมาให้เราขบคิด ระหว่างชีวิตตนเอง ชีวิตคนสำคัญ และความสำคัญของชีวิต กับอารยธรรมของคนอื่นๆ ชั่งน้ำหนักแล้วให้เลือกข้างง่ายๆ เลยได้ไหม ก็ไม่เลย หนังเขาสอดแทรกไว้เผื่อใครจะได้คิด แต่ถ้าไม่คิด หนังเรื่องนี้ก็ดูสนุกๆ ได้ไม่ยุ่งยากใจอะไรหรอก
ศิลปิน : ARCTIC MONKEYS
อัลบัม : AM
แนวดนตรี : GARAGE ROCK
แสบ/เสียด/สวก*
ARCTIC MONKEYS ลิงขั้วโลกตัวนี้ ถือกำเนิดมาเมื่อปี 2002 ตาม WIKIPEDIA บอกว่าดั้งเดิมมันมีสัญชาติเป็นอังกฤษแท้ๆ เกิดและแกร่วอยู่แถวเชฟฟีลด์ ก่อนจะเริ่มหยิบกีตาร์ แล้วร้องบอกเพื่อนให้มาตบเบสส์ และตีกลอง กลายเป็นวง 4 ชิ้น ที่จิ๊กโก๋ วัยเรียน และวัยมัน ยกย่องให้เป็นวงลูกหม้อที่น่าตามไปดูวงหนึ่ง
"ลูกหม้อ" ก็คือคนหรือกลุ่มคนที่เติบโตมาในแถบถิ่นนั้นๆ จนคุ้นเคยกันดี อาศัยคำจากนักเลงปลากัดมาเรียกหา จากนั้นก็นำมาใช้กันในกรมกอง สถาบันการศึกษา และสถานประกอบการขนาดใหญ่ที่มีผู้คนมากหน้าเวียนกันเข้า/ออก อยู่มานานก็เป็นลูกหม้อ มาใหม่ก็โดนต้อนรับบ้างตามระเบียบ
ครั้นเมื่อลิงขั้วโลกออกเล่น พวกเขาทั้ง 4 คนมีลีลาภาษาเพลงสะท้านโสตกว่าใครในย่านนั้นเวลานั้น ต่อมาพวกเขาบันทึกเสียงอย่างหยาบๆ ลงแผ่น CD แล้วแจกให้กับแฟนเพลงตามงานคอนเสิร์ท แม้ยอดไม่มากมายแต่ก็ถือเป็นปรากฏการณ์น่าเอ่ยถึง เพราะหลังจากนั้นก็มีคนนำเพลงไปปล่อยผ่านทางโลกไซเบอร์ แล้วมีคนตามโหลดกันถล่มทลายจนถึงวันนี้ แต่เจ้าลิงขั้วโลกกลับยักไหล่บอกสื่อไปว่า ไม่แคร์ ไม่ได้ทำเพราะอยากได้เงิน !
จากนั้นพวกเขาก็อหังการข้ามผ่านทางตอนเหนือของอังกฤษ เข้าสู่ใจกลางของเกาะ เมกาแห่ง BRIT POP, BRIT ROCK และฐานที่มั่นของวงตำนานระดับโลก โดยการปล่อยซิงเกิลออกมาขายในจำนวนแผ่นเพียงน้อยนิด แล้วทะลวงออกจากสหราชอาณาจักร เข้าสู่ตลาดเพลงออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้จักในชื่อ ITUNES STORE
ปี 2006 อัลบัมแรกออกมาในชื่อ WHATEVER PEOPLE SAY I AM, THAT'S WHAT I'M NOT อัลบัมนี้มีเพลงที่ขึ้นชั้นว่าถ้าเอ่ยถึงวงนี้ก็ต้องพูดถึงเพลงนี้ด้วย คือ I BET YOU LOOK GOOD ON THE DANCEFLOOR...น้องเอ๋ย พี่พนันเลยว่าน้องต้องดูแจ่มแน่ๆ ถ้าอยู่บนฟลอร์เต้นรำ ระดับความมันไม่ต้องบรรยายให้ยาก ใส่กันยับ แต่ที่เด็ด คือ ทางเพลง ที่ทำให้เพลงนี้พาอัลบัมไปไกลจนถึงรางวัล MERCURY PRIZE เป็นอัลบัมที่ขายเร็วมากๆ เพียงสัปดาห์แรกก็ล่อไปเกือบ 4 แสนแผ่น จนติด 1 ใน 500 อัลบัมที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล
นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องจากนิตยสารชื่อดังอีกหลายหัวทั่วโลก รวมไปถึงรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย จนกลายเป็นวงที่ถือกันว่าเป็นหัวหอกรอคของอังกฤษ หลังจากสร้างชื่อและสร้างอัลบัมใหม่ๆ ให้กับตนเองอีก 2 อัลบัม ลิงขั้วโลกก็เข้าสู่อ้อมกอดของอุตสาหกรรมดนตรีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก นั่นก็คือ สหรัฐอเมริกา ที่นั่นเขาได้รับการต้อนรับอย่างดีประหนึ่งลูกหม้อของ PUNK ROCK อเมริกัน ทั้งๆ ที่สำเนียงพวกเขาออกจะเชฟฟีลด์แท้ๆ และเป็น GARAGE ROCK ที่ติดกลิ่น PSYCHEDELIC ROCK อบอวลมาถึงอัลบัมล่าสุด AM ซึ่งย่อมาจาก ARCTIC MONKEYS เพลงแรกที่ปล่อยออกมา คือ DO I WANNA KNOW ? วูบแรกที่ฟังเหมือนโดน BEATLE BOOT ลูบปลายคาง จังหวะกลองแบบตบเท้าขบวนทหาร ตามมาด้วยริฟฟ์กีตาร์ง่ายๆ แต่สุดแสนจะยียวน ยิ่งบวกกับอาการเข้าๆ ออกๆ ของเนื้อเพลงยิ่งกวนใจเหลือทานทน
เพลงนี้ว่าเท่แล้ว เจอเพลง R U MINE ? ยิ่งทั้งเท่และมัน อัลบัมนี้วางจำหน่ายวันที่ 9 กันยายน 2013 ตอนที่เขียนนี้ยังไม่วางแผง แต่ไปดูที่หน้าเวบของพวกเขามีแต่แฟนเพลงเข้าไปร้องขอให้ไปเปิดคอนเสิร์ทในประเทศตัวเองบ้าง เป็นการการันตีว่าลูกหม้อเชฟฟีลด์วันนี้ ถึงสำเนียงจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่มันก็ยังแสบ/เสียด/สวก เหมือนเดิม !
* อนึ่ง "สวก" คือ คำทางภาคเหนือของไทย ไว้อธิบายความดุอย่างก้าวร้าว
ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : แนะนำเพลง