แนะนำเพลง
ดูหนังฟังเพลง
THE WAY, WAY BACK
"อยากได้สิ่งที่ไม่เคยมี ก็ต้องทำสิ่งที่ไม่เคยทำ"
ตัวเลข 1 ถึง 10 คุณคิดว่าตัวคุณสมควรได้เลขอะไร ? คำถามท้าทายจินตนาการเชิงลำเอียง และเสียดสีความจริงของชีวิต จนแทบยากที่จะตอบ ให้มากก็ว่าหลงตัวเอง ให้น้อยก็ไร้ความมั่นใจ ตอบกลางๆ ก็ว่าแหย บอกเลยว่าตัวเลขที่ออกจากปากจะเท่าไรก็ตาม ไม่สำคัญเท่าเหตุผลที่ต้องให้การสนับสนุนตามมา
นี่กำลังพูดถึงเรื่องการวิพากษ์ตนเองต่อหน้าคนอื่น จะทำได้ให้สนุกต้องตอบแบบไม่จริงจัง และเน้นประเมินให้ไวในช่วงเวลานาทีนั้นๆ ซึ่งต้องวงเล็บตัวหนาไว้ด้วยว่าต้องอยู่ในช่วงที่อยากตอบ ไม่ใช่จู่ๆ ให้ใครไม่รู้มาถามในอารมณ์ที่ไม่ใช่ นัยยะมันดูคุกคามประหนึ่งจะหมิ่นกันเลยทีเดียว
THE WAY, WAY BACK เขาเริ่มเรื่องที่คำถามนั้น คำถามที่ออกจากปากแฟนใหม่ของแม่ ส่งถึงเด็กชายอายุ 14 ปี คำตอบ (ที่ถูกคาดคั้น) จากปากคนตอบ คือ 6 แต่คนถามดันหักแต้มเหลือแค่ 3 ออกแนวนี้เป็นใครก็เซ็ง แต่มันเฉายิ่งกว่าเมื่อคะแนนที่ถูกลดมันมาพร้อมกับเหตุผลที่ดันฟังขึ้น !
เส้นเรื่องต่อมาของหนังจึงว่าด้วยการพัฒนาการของตัวเลข 3 ให้กลายเป็นมากกว่านั้น แต่ใครล่ะจะช่วยเด็กเนิร์ดที่น่าสงสาร หันไปหาแม่ก็ทำท่าจะเข้าข้างแต่แฟนใหม่ หันไปหาใครก็ไม่มีใครอยากคบ เด็กเห่ยๆ เดินไหล่ห่อๆ ดูเก็บกดตลอดเวลา เขามาเที่ยวทะเลกันในช่วงวันหยุดยาว เด็กนี่ก็ดันผ่าใส่ยีนส์กับเสื้อตัวโคร่งอยู่นั่น มองมุมไหนก็เข้ากับใครไม่ได้เด็ดขาด ไหนเลยจะโดนแฟนแม่คอยรังแกความรู้สึกอยู่เนืองๆ อีก
ให้บังเอิญว่าไปเจอหนุ่มใหญ่ผู้สุดแสนจะมั่นใจ คนแบบนี้ดูปราดเดียวก็รู้แล้วว่าผ่านโลกมาเยอะ เจ็บมาแยะก่อนจะมั่นได้ขนาดนี้ แล้วเรื่องก็เป็นเหมือนพลอทฝึกวิชาของขาอ่อนทั่วไป คือ เด็กไม่เอาไหน บังเอิญตกเขามาเจอปรมาจารย์ ไม่ฝากตัวเป็นศิษย์ อาจารย์ก็อยากสอน ว่าแล้วกระบวนการฝึกปรือวิทยายุทธ์ก็เริ่มขึ้น
นี่เป็นหนังที่จัดอยู่ในประเภท COMING OF AGE ที่ขายได้เสมอเพราะวัยรุ่นที่ไหนก็ไม่ค่อยจะแตกต่าง ปัญหามีกันอยู่ไม่กี่อย่าง อาทิ พอโตแล้วก็เข้ากับที่บ้านไม่ค่อยได้ หรือไม่งั้นก็เพื่อนไม่คบ ถ้าเพื่อนคบและที่บ้านรัก ก็ต้องมีปัญหาเรื่องเพศตรงข้าม ปัญหาอื่นๆ นอกจากนี้ไม่ค่อยจะจัดอยู่ในโหมดหนังแนวนี้ เพราะนี่คือ แนวที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของตัวละครจากภายใน พูดให้ง่ายๆ ว่าก้าวผ่านปัญหานั้นๆ แล้วโตขึ้น
ในหนังจึงไม่มีอะไรมาก เส้นเรื่องง่ายๆ เงื่อนไขเดิมๆ แต่ที่มันน่าสนใจก็คือ บางแง่มุมที่หนังนำเสนอ อย่างเช่น เรื่องของการใช้แบบแผนในการเล่นเกมแพคแมน ซึ่งว่ากันว่ามันมีแนวทางการเดินที่จะทำให้ชนะแล้วได้แต้มสูงสุด แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเราไม่เอาชนะความโลภที่อยากจะกินเชอร์รี หรือกินผี ให้ได้มากๆ หรือมัวแต่ห่วงชีวิตจนละทิ้งความสนุกจากการเสี่ยงเข้าไปเก็บแต้มก่อนจะจบเลเวลนั้นๆ
อะไรแบบนี้ในหนัง มีแง่มุมไว้ให้ได้คิด เพราะก่อนที่เราจะข้ามผ่านเรื่องที่ไม่เคยเจอไปได้ เราก็ต้องเสี่ยงทำในสิ่งใหม่ๆ...หากอยากได้สิ่งที่ไม่เคยมี ก็ต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ใช่ไหมล่ะ ?
ศิลปิน : ICONA POP
อัลบัม : THIS IS ICONA POP
แนวดนตรี : POP DISCO
I DON'T CARE, I LOVE IT !
ไหนๆ ก็จะใกล้ปีใหม่แล้ว คอลัมน์ ดูหนังฟังเพลง ฉบับนี้ จึงขอแหวกแนวมาชักชวนผู้อ่านให้ละเว้นแนวเพลงบลูส์ แจซซ์ และรอคแอนด์โรลล์ แล้วหันมาจับจังหวะแดนศ์มันๆ ในสไตล์สาวสนุก ปลดเรื่องทุกข์และความหม่นเศร้า คลอเคล้าไปกับดนตรีแนวพอพดิสโก อีเลคทรอนิคส์แดนศ์ หรืออะไรประมาณนั้น สุดแต่หูใครจะสัมพันธ์กับคำเรียกแบบไหน
ICONA POP คือ สองสาวสุดเปรี้ยวจากสวีเดน พวกเธอแหกพรมแดนแห่งภาษาออกมาเฉิดฉายให้ชาวโลกได้ร่วมเต้นแร้งเต้นกาไปด้วยกัน กับซิงเกิลแรกที่สุดแสนจะคุ้นหู I LOVE IT (FEAT. CHARLI XCX) ที่นอกจากจะดังในบ้านตนเองแล้ว ยังข้ามไปกระหึ่มในคลับบาร์ชิคๆ แนวๆ ที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วย งานนี้การันตีความร้อนแรง โดยคว้าเอาอันดับ 1 จากชาร์ทบิลล์บอร์ดเพลงแดนศ์ และอีเลคทรอนิคส์
เท่านั้นไม่พอยังติดโผเข้าไปรั้งอยู่ในอันดับ 3 ของชาร์ทบิลล์บอร์ดเพลงพอพ และอันดับ 7 ชาร์ทใหญ่ อย่างบิลล์บอร์ดฮอท 100 นอกจากนั้นยังกระโดดไปขึ้นอันดับ 1 ชาร์ทอังกฤษ และอีกหลายประเทศในยุโรป กลายเป็นเพลงที่มีวลีฮุกสุดแสนจะคลาสสิค ติดปากไปทั่วเมืองว่า I DON'T CARE, I LOVE IT ! และที่ผู้เขียนชอบนักชอบหนาก็คือ ท่อนสุดท้ายของเพลงที่ร่ายยาวว่า...
YOU' RE ON A DIFFERENT ROAD, I'M IN THE MILKY WAY
YOU WANT ME DOWN ON EARTH, BUT I AM UP IN SPACE
YOU'RE SO DAMN HARD TO PLEASE, WE GOTTA KILL THIS SWITCH
YOU'RE FROM THE 70'S, BUT I'M A 90'S BITCH
อะไรๆ มันช่างห่างชั้นกันเหลือเกิน โดยเฉพาะบรรทัดสุดท้าย น้ามาจากยุคเจ็ด-ศูนย์ ส่วนหนูมันยุคเก้า-ศูนย์ นะน้า ! เพราะฉะนั้น I DON'T CARE, I LOVE IT !
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009, ICONA POP ในวันนั้นคือวันที่ CAROLINE HJELT และ AINO JAWO ได้พบกันในงานเลี้ยง และต่างก็รู้ดีว่าต่างคนก็ต่างมีความชอบในเสียงเพลง การเต้นรำ พาร์ที และดนตรีแนวซินธ์พอพเหมือนๆ กัน ทั้งคู่จึงตกลงปลงใจทำเพลงในนามวง ICONA POP ซึ่งนอกจากคอนเซพท์ทางดนตรีของพวกเธอจะทั้งเก๋ เท่ และก๋ากั่นแล้ว ทั้งคู่ยังขึ้นชื่อในเรื่องการเป็นเจ้าแม่แฟชัน ทั้งยังเป็นดีเจที่เปิดเพลงตามคลับได้เจ๋ง ไม่แพ้ดีเจมืออาชีพอีกต่างหาก
THIS IS ICONA POP เป็นอัลบัมเปิดตัวพวกเธออย่างเป็นทางการครั้งแรกทั่วโลก ซึ่งนอกจากจะมีซิงเกิล I LOVE IT (FEAT. CHARLI XCX) เป็นตัวเปิดโรงแล้ว ซิงเกิลต่อมาของพวกเธออย่าง GIRLFRIEND ก็พูดถึงมิตรภาพของเพื่อนสาว ซึ่งพร้อมจะไปไหนไปกันได้อย่างน่าสนุกตามสเตพ ที่สาวแนวๆ น่าจะชอบเป็นพิเศษ ก็คงเพราะในมิวสิควีดีโอของเพื่อนสาวคู่นี้ มันไม่ต้องมีหนุ่มๆ มาโชว์หล่อโชว์ล่ำ หรือว่าง่ายๆ ไม่ต้องเอาเรื่องเซกซ์เข้ามาขายในมิวสิคเลยแม้แต่น้อย
และอีกเพลงอย่าง ALL NIGHT ก็ได้รับเลือกเป็นเพลงเปิดตัวเครื่องดื่มไลน์ใหม่ของ ABSOLUTE ซึ่งก็แน่นอนว่าเพลงนี้ย่อมต้องได้รับความนิยมไม่แพ้กัน จนกระทั่งล่าสุด นิตยสารดนตรียักษ์ใหญ่ของโลก ROLLING STONE ยังเอ่ยปากชมว่าอัลบัม THIS IS ICONA POP นั้น มีทั้งความสนุกสนาน และมีเสน่ห์พอที่จะทำให้เปิดได้ทั้งวันทั้งคืนเลยอีกด้วย
สุดท้าย เอาเป็นว่าถ้านึกอยากจะร่าเริงคึกคักในวันส่งท้ายปี แทนที่จะเปิดเพลงอินดีล่องลอย หรือรอคกระหน่ำโสต โยกหัวไม่ยั้ง ลองเปิดใจให้พวกเธอได้ปลดปล่อยคุณและสาวๆ ในงานพาร์ที ด้วยดนตรีอีเลคทรอนิคส์พอพจังหวะสนุกง่ายๆ ไม่ต้องใช้สมองเพื่อควานหาความสนุก แค่เปิดเพลงแล้วปล่อยใจ อะไรๆ ต่อจากนี้ก็ช่างมัน ฉันไม่แคร์ !
ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : แนะนำเพลง