ทดลองขับ(formula)
ฟอร์ด อีโคสปอร์ท
ครอสส์โอเวอร์สมัยใหม่ ปราดเปรียวและบึกบึน สมความเป็นรถสายพันธุ์ผสม ขับสบายไม่แพ้รถเก๋ง แต่ได้ความอเนกประสงค์แบบจัดเต็มสไตล์ตัวลุย
ภายนอก กลิ่นอายแฮทช์แบค บึกบึนพอตัว
ฟอร์ด (FORD) จัดทริพทดลองขับครอสส์โอเวอร์รุ่นล่าสุดกับ อีโคสปอร์ท (ECOSPORT) กับคอนเซพท์การผสมผสานระหว่างรถเก๋งระดับ บี เซกเมนท์ เข้ากับความเป็นตัวลุยแบบ เอสยูวี รูปลักษณ์ด้านหน้า จึงเน้นความปราดเปรียว ชวนให้นึกถึงแฮทช์แบคอย่าง ฟิเอสตา (FIESTA) แต่เอาเข้าจริงแล้ว มิติตัวถังใหญ่กว่าแฮทช์แบคร่วมค่ายทุกสัดส่วน โดย อีโคสปอร์ท มีความยาว 4,245 มม. และระยะฐานล้อ 2,521 มม. ให้อารมณ์รถ เอสยูวี แบบดั้งเดิมด้วยการติดตั้งยางอะไหล่ไว้ด้านนอกบริเวณประตูบานท้าย เมื่อพิจารณาจากเส้นสายที่ออกแบบได้คมเข้ม และต่อเนื่อง เรามีความรู้สึกว่า อีโคสปอร์ท เป็นตัวลุยยุคใหม่ที่มีความลงตัวไม่น้อย
ภายใน กว้างขวางเกินคาด จุของจุใจ
เมื่อเข้ามานั่งภายในห้องโดยสาร เราพบว่ารถรุ่นนี้มีความกว้างขวางที่น่าพอใจ แม้ใช้โครงสร้างพื้นฐานจากรถ บี เซกเมนท์ แต่ความเป็นรถที่ผสมผสานสไตล์ เอสยูวี ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ โดยเฉพาะพื้นที่เหนือศีรษะที่มากกว่าแฮทช์แบคทั่วไป ผลดีอีกอย่างหนึ่ง คือ ทัศนวิสัยที่ดี จากระยะความสูงพื้นถนนถึง 200 มม. นอกจากนี้ทาง ฟอร์ด ยังออกแบบให้บริเวณคอนโซลหน้ามีความโฉบเฉี่ยวไม่แพ้รถเก๋ง รูปแบบใกล้เคียงกับ ฟิเอสตา และเป็นเอกลักษณ์ของค่ายรถแห่งนี้ไปแล้วกับบรรดาอุปกรณ์ใช้สอยเกินหน้าคู่แข่งระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบสั่งงานด้วยเสียง (SYNC) ซึ่งปรับปรุงให้มีการทำงานสะดวก และง่ายดายกว่าเดิม และอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมความหรูได้เป็นอย่างดี นั่นคือ หลังคาซันรูฟ (ในรุ่นทอพ 1.5 แอล ไททาเนียม) ซึ่งปกติจะมีติดตั้งในรถยนต์ราคาเกิน 1 ล้านบาทขึ้นไปเท่านั้น
จุดเด่นอีกประการของรถรุ่นนี้ คือ พื้นที่ใช้สอยที่หลากหลาย เบาะหลังสามารถปรับเอนได้เล็กน้อย เพิ่มความสะดวกสบายขณะเดินทางไกล พับแยกได้แบบ 60:40 หากพับเบาะแถว 2 หมด จะมีพื้นที่บรรทุกสูงสุดถึง 705 ลิตร เทียบได้กับเครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐานเครื่องหนึ่งเลยทีเดียว แสดงให้เห็นถึงความหลากหลาย และอเนกประสงค์ ของการใช้งานที่มากกว่ารถเก๋งทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
เครื่องยนต์ พอเพียงกับการใช้งานทั่วไป
เริ่มทริพการทดลองขับกับเส้นทางระหว่าง อ. หัวหิน–อ. ปราณบุรี ทางผู้จัดเตรียมเส้นทางที่หลากหลาย ในส่วนแรกเป็นการขับผ่านตัวเมือง ผ่านตรอกซอกซอย เราพบว่า อีโคสปอร์ท มีความคล่องตัวที่น่าพอใจด้วยขนาดตัวที่พอเหมาะ ไม่เทอะทะ ส่วนพวงมาลัยเบาแรงที่ความเร็วต่ำ บังคับควบคุมง่ายดาย ไม่แพ้รถเก๋ง หากมองในแง่การใช้งานในตัวเมือง อีโคสปอร์ท สามารถสนองตอบได้สบายๆ
ถัดมาเป็นการขับขี่บนทางหลวง มีโอกาสทำความเร็วมากขึ้น ที่ช่วงความเร็ว 100-120 กม./ชม. ช่วงล่างของรถรุ่นนี้เน้นความนุ่มนวล ไม่มีอาการโคลงแต่อย่างใด การขับขี่ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย สมรรถนะจากเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลัง 110 แรงม้า (บลอคเดียวกับ ฟิเอสตา รุ่น 1.5 ลิตร แต่จะมีกำลัง 109 แรงม้า) ขับเคลื่อนกับเกียร์อัตโนมัติ คลัทช์คู่ 6 จังหวะ (POWERSHIFT) พละกำลังถือว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่หวือหวา การเร่งแซงอาจต้องเผื่อระยะไว้พอสมควร ขณะที่การประหยัดเชื้อเพลิงอยู่เกณฑ์เฉลี่ยของเครื่องยนต์ระดับนี้
ระบบรองรับ ตัวสูง ลุยได้ดีกว่ารถเก๋ง
ในเมื่อรถมีความเป็นสายพันธุ์ลุยผสมผสานอยู่ด้วย การขับบนทางเรียบเพียงอย่างเดียว ดูจะไม่สนองตอบคุณสมบัติดังกล่าวเท่าไรนัก ทางผู้จัดเขาก็รู้ใจ จัดให้มีสถานีแสดงความเป็นตัวลุยเช่นกัน เช่น สถานีการข้ามสิ่งกีดขวางระดับปานกลาง จากความสูงของพื้นรถถึง 200 มม. สามารถข้ามความสูงระดับฟุตบาทได้สบาย นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังระบุด้วยว่า อีโคสปอร์ท สามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 550 มม.
ราคา 829,000 บาท
สรุป คันเดียว แต่ได้ประโยชน์หลายหลาก
ฟอร์ด อีโคสปอร์ท ครอสส์โอเวอร์สมัยใหม่ ผสมผสานรูปทรงที่ปราดเปรียวแบบรถแฮทช์แบคกับความบึกบึนแบบตัวลุย ให้ความสะดวกสบายขณะขับขี่ทั้งเส้นทางในเมือง และทางไกล ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมอุปกรณ์ใช้สอยที่ให้มาเกินราคา น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการรวมอยู่ในคันเดียว กับราคาที่ 669,000-829,000 บาท