SUZUKI SWIFT (ซูซูกิ สวิฟท์) จัดเป็นแฮทช์แบคที่มีความโดดเด่นด้านรูปทรง ความคล่องตัว และการขับขี่ที่สนุกสนาน บนความประหยัดตามแบบฉบับอีโคคาร์ เฟส 2 ล่าสุดมีการเสริมชุดตกแต่งตัวถังในรุ่นย่อยระดับกลางกับ GL MAX EDITION (จีแอล แมกซ์ เอดิชัน)
SUZUKI SWIFT GL MAX EDITION มีมาดสปอร์ทคมเข้มขึ้น เห็นได้ชัดจาก ชุดสเกิร์ทรอบคันทั้งด้านหน้าต่อเนื่องกับด้านข้าง ผ่านซุ้มล้อทั้ง 4 จุด บรรจบกับด้านท้าย มีความกลมกลืนต่อเนื่องเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งสปอยเลอร์หลังสีดำมาอีกด้วย ที่น่าเสียดาย คือ ล้อยังเป็นกระทะเหล็กขนาด 15 นิ้ว มีฝาพลาสติคครอบด้านนอก (ดูผ่านๆ อาจนึกว่าเป็นล้อแมก เพราะตัวฝามีลวดลายพอสมควร) นอกจากนี้ยังมีการเสริมสติคเกอร์ ลายเฉพาะของรุ่น GL MAX EDITION เพื่อความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ
ห้องโดยสารไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่น GL ปกติแต่อย่างใด ตกแต่งเน้นโทนสีดำ พวงมาลัยทรงสปอร์ทรูปทรงตัว ดี หักมุมด้านล่างเล็กน้อยคล้ายรถแข่ง จับกระชับมือดีมาก อุปกรณ์ใช้สอยให้มาเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป ระบบเครื่องเสียงธรรมดา หากอยากได้ความล้ำสมัยในส่วนนี้คงต้องจัดงบประมาณไปติดตั้งเพิ่มเติมกันเอง ในแง่ของอุปกรณ์ใช้สอยจึงไม่ใช่จุดเด่นของรถรุ่นนี้ แต่ในแง่ของมาดสปอร์ท ถือว่ายังคงมีให้ไม่น้อยหน้าใคร
ขณะที่เครื่องยนต์แบบเบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 83 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแปรผัน ประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามมาตรฐานอีโคคาร์ เฟส 2 ที่ 23.3 กม./ลิตร ค่าไอเสียเฉลี่ย 100 กรัม/กม. อัตราเร่งถือว่าทำได้ดีสมกับความเป็นอีโคคาร์ การตอบสนองเมื่อกดคันเร่งไม่ต้องรอรอบนานเกินควร เราพิสูจน์จากการขับแบบจิมคานา ต้องกดคันเร่งลึกขณะออกจากโค้งหลายครั้ง สามารถทำได้คล่องแคล่ว นอกจากนี้ยังมีโหมดสปอร์ทเพื่อเพิ่มความกระฉับกระเฉงขณะเร่งแซงได้อีกด้วย ส่วนการประหยัดเชื้อเพลิงแม้ไม่ได้ทดสอบโดยตรงในครั้งนี้ แต่ภายใต้มาตรฐานของอีโคคาร์ เฟส 2 สามารถรับประกันได้เป็นอย่างดีในหัวข้อนี้
จุดสำคัญของ SUZUKI SWIFT รุ่นนี้ คือ การปรับแต่งระบบรองรับ และการบังคับควบคุม ให้มีความลงตัวมากกว่าเดิม งานนี้เราจึงได้มาฟื้นจุดเด่นของรถรุ่นนี้กันเต็มๆ กับการขับขี่แบบจิมคานา ที่สนามมอเตอร์สปอร์ท พาร์ค ตัวสนามถูกจัดให้มีการลัดเลาะไปตามทางโค้ง มีไพลอนดักหลายจุด ต้องใช้การหักเลี้ยวต่อเนื่อง และฉับไว รวมถึงโค้งวงกว้างทดสอบระบบรองรับ และการบังคับควบคุมของตัวรถ รวมถึงระบบเบรค แถมตรงสุดสนามจะบังคับให้ผู้ขับต้องเลี้ยวเข้าช่องจอด แล้วถอยกลับรถออกมา (ทดสอบความคล่องแคล่ว และทัศนวิสัย) วนกลับเส้นทางเดิมอีกรอบ นับว่าท้าทายไม่เบาทั้งคนขับ และ SWIFT GL MAX EDITION คันนี้ นอกจากนี้ยังมีการจับเวลาอีกด้วย กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมการทดลองขับ “เอาจริง” ในระดับหนึ่ง
จากการทดลองขับ ทำให้เราได้สัมผัสความ สปอร์ท เร้าใจ ของ SWIFT รุ่น GL MAX EDITION ซึ่งเป็นจุดเด่นของแฮทช์แบครุ่นนี้ การบังคับควบคุมมีการตอบสนองที่ดี หักเลี้ยวได้ดังใจ แม้กระทั่งการหักเลี้ยวแบบต่อเนื่องในที่แคบ ระบบรองรับมีความนุ่มนวล แต่ผสมผสานความหนึบแน่นได้อย่างลงตัว มีอาการโคลงน้อย ขับสนุกดีมาก มีความลงตัวในแง่ของการขับขี่
หลังจากการทดลองขับในรูปแบบจิมคานา แล้ว เรามีความรู้สึกว่า SUZUKI SWIFT เป็นอีโคคาร์ที่มีบุคลิกความสปอร์ทชัดเจน นอกจากรูปทรงแล้ว ยังมีคุณลักษณะการขับขี่ที่ลงตัว ควบคุมง่าย มีความแม่นยำ หักเลี้ยวได้ดังใจ ผนวกกับความคล่องแคล่วของตัวรถ ทำให้รถรุ่นนี้มีอารมณ์ขับสนุกมากที่สุดคันหนึ่ง เมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน ยิ่งมาเสริมชุดตกแต่ง GL MAX EDITION เช่นนี้ น่าเสียดายอยู่บ้าง คือ ล้อที่ให้มาไม่ใช่ล้อแมก หากเสริม ออพชันในจุดนี้อีกนิด จะได้ความลงตัวของรูปทรงอีกมาก โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับคนที่มองหารถขับสนุก ประหยัดเชื้อเพลิง ภายใต้งบประมาณที่เอื้อมถึง จัดกันไปได้ที่ราคา 541,000 บาท (รุ่น GL ปกติ ราคา 536,000 บาท)