ทดลองขับ
BYD SEALION 7 อีกหนึ่ง C-SUV ไฟฟ้าสไตล์สปอร์ท แรง เทคโนโลยีครบ
BYD Sealion 7 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี C-SUV ไฟฟ้า ที่มาพร้อมสมรรถนะแบบสปอร์ท มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์ (kW) หรือ 530 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที และเทคโนโลยีที่ครบครัน สะดวกสบายและปลอดภัย
BYD Sealion 7 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย รุ่น Premium มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลังกำลัง 230 กิโลวัตต์ และ รุ่น AWD Performance ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 160 กิโลวัตต์ มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง 230 กิโลวัตต์ กำลังรวมสูงสุด 390 กิโลวัตต์
รูปทรงโค้งมน ส่วนท้ายทรง Fastback
BYD Sealion 7 หลังคาโค้งสไตล์สปอร์ท ส่วนท้ายทรง Fastback มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,830/1,925/1,620 มม. ระยะฐานล้อ 2,930 มม. ใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง Deepal S07 4,750/1,930/1,625 มม. ระยะฐานล้อ 2,900 มม. และครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ไฟฟ้าในกลุ่มเดียวกัน เช่น Tesla Model Y 4,751/1,921/1,624 มม. ฐานล้อ 2,890 มม. ซึ่งใหญ่กว่าครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี เครื่องยนต์ อย่าง Honda CR-V 4,691/1,866/1,691 มม. ฐานล้อ 2,700 มม. และ Mazda CX-5 4,550/1,840/1,675 มม. ฐานล้อ 2,700 มม.
BYD Sealion 7 ปราดเปรียว และดูสปอร์ทกว่า BYD Sealion 6 DM-i 4,775/1,890/1,670 มม. ฐานล้อ 2,765 มม.
ด้านหน้ายังคงแนวทางการออกแบบ ด้านหน้าออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ Ocean-X Face ทำให้ด้านหน้าดูโดดเด่น รูปทรงตัว "X" ทันสมัย ดุดัน และมีเอกลักษณ์
ไฟหน้าแบบตัว U คู่ หรือ Double-U Floating ภายในโคมไฟหน้าที่เรียวยาว และไฟส่องสว่างกลางวันเพื่อแสดงสถานะการใช้งาน ชิ้นล่างออกแบบเรียบเนียนไปกับตัวรถ
ด้านข้างเสา A ลาดเอียงหลังคาโค้งยาวต่อเนื่องไปยังด้านท้ายทรง Fastback เสริมความโฉบเฉี่ยว พร้อมสปอยเลอร์หลังคา ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.28cd
ประตูท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ทำให้การเปิด/ปิดฝาท้ายทำได้ง่ายมากขึ้น ด้วยการเตะเบาๆบริเวณตรงกลางด้านท้ายรถ ระบบจะทำงานเมื่อมีกุญแจรถอยู่ในระยะไม่เกิน 1 ม.
ด้านท้ายไฟท้ายทรงหยดน้ำแบบไดนามิก ลวดลายและดีไซน์คล้ายกับ BYD Seal เพิ่มมิติ ส่วนตัวเลขและตัวอักษร 4.5S ใต้ชื่อ BYD SEALION 7 บ่งว่ามันคือตัวทอพ AWD Performance มี 2 มอเตอร์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 4.5 วินาที
ในรุ่น AWD Performance อัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ยาง Michelin Pilot Sport EV ขนาด 245/45 R20 พร้อมคาลิปเพอร์เบรกสีแดง ทั้ง 4 ล้อ
ภายในห้องโดยสารหรูหรา..พรีเมียม
ห้องโดยสารออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุเกรดพรีเมียม รองรับทั้งความสะดวกสบายและความบันเทิง ภายในบุวัสดุแบบนุ่มถึง 80% ทุกจุดสัมผัสที่แผงประตู แผงหน้าปัด ช่องเก็บของคอนโซลกลาง ให้ความรู้สึกนุ่มนวล หรูหรา
ภายในออกแบบภายใต้คอนเซพ Floating-styled คอนโซลด้านหน้าแบบลอยตัว 2 ชั้นเชื่อมยาวต่อเนื่องไปจนถึงมือจับประตูด้านข้างซ้าย/ขวา เหมือนกับเกลียวคลื่นอย่างที่ทีม BYD หรือไม่ ก็อยู่ที่ภาพจำ แต่ก็สวยงามและสะดวกต่อการใช้งาน
ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า W-HUD แสดงข้อมูลการขับขี่ที่มีความคมชัด หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว แสดงผลแบบ 3 มิติ
หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดีย ขนาด 15.6 นิ้ว ที่มีการพัฒนา UI แบบใหม่ พร้อมชิปเซ็ท SA8155 ช่วยให้การตั้งค่าเพื่อการขับขี่สะดวกสบายมากขึ้น รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สาย
เครื่องเสียง DYNAUDIO ลำโพง 12 ตำแหน่ง และระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ (DMS) โดยติดตั้งอยู่ที่บริเวณเสา A ด้านผู้ขับขี่
ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Wireless Phone Charger ชาร์จเร็ว 50 วัตต์ แถมมีพัดลมระบายความร้อน ทำให้โทรศัพท์ไม่ร้อน แต่แอบเสียดายที่มีมาให้ชุดเดียว อีกคนต้องใช้สายชาร์จกับ USB Type C หรือ A
ที่วางแก้วน้ำแบบปรับระดับได้ ออกแบบมาได้ดี คำนึงถึงการใช้งานที่ง่ายและสะดวก มีตัวควบคุมระดับความสูงได้ตามต้องการ แต่ก็แอบเสียดาย ที่บนคอนโซลไม่มีมาให้ เพราะการหยิบแก้วด้านมือซ้าย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะถนัด
หลังคากระจกแบบพาโนรามิก ขนาด 2.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า ซึ่งสามารถป้องกันความร้อนได้ดี แม้ว่ารถที่จัดมาให้ทดลองขับจะไม่ได้ติดฟีล์มกันความร้อนหรือฟีล์มกรองแสงมาให้
เบาะนั่งแบบหุ้มหนังแท้ NAPPA เย็บด้ายสีเทา รับตัวผู้ขับและผู้โดยสาร อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า และนั่งสบายกว่าเบาะนั่งของ BYD Seal
เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง และที่พักขาปรับไฟฟ้า 2 ทิศทาง ระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับ และ Welcome Seat ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 500 ลิตร และเพิ่มเป็น 1,769 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 2 และยังมีที่เก็บด้านหน้าใต้ฝากระโปรงอีก 58 ลิตร
ขับเคลื่อน 4 ล้อ 390 กิโลวัตต์ 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที
รุ่น Premium มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
ระบบขับเคลื่อนด้านหลังแบบ 8 in 1 มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร (PMS) ขับเคลื่อนล้อหลังกำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ หรือ 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวทันเมตร (Nm) หรือ 38.7 กก.ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 567 กม. (NEDC)
รุ่น AWD Performance มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
ระบบขับเคลื่อนด้านหน้าแบบ 3 in 1 ด้านหลังแบบ 8 in 1 มอเตอร์ไฟฟ้าหน้าแบบอะซิงโครนัสกำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์ มอเตอร์ไฟฟ้าหลังแบบซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร 230 กิโลวัตต์ กำลังรวมสูงสุด 390 กิโลวัตต์ หรือ 530 แรงม้า แรงบิด 690 นิวทันเมตร หรือ 70.4 กก.ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 542 กม. (NEDC)
ทั้ง 2 รุ่นใช้แบทเตอรีขับเคลื่อน BYD Blade Battery ขนาด 82.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) รองรับหัวชาร์จแบบ AC Type 2 กำลังสูงสุด 11 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับหัวชาร์จแบบ DC CCS2 กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ชั่วโมง
โดยรอบนี้ BYD จัด Sealion 7 รุ่น AWD Performance สมรรถนะที่ได้จากขุมพลัง 530 แรงม้า ที่เป็นมอเตอร์ทั้งด้านหน้า/หลัง ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ลงมายังล้อ เร็วทันใจ ตั้งแต่ออกตัวไปจนถึงความเร็วปลายกว่า 225 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 4.5 วินาที ในโหมดปกติ
ทั้ง 2 รุ่นย่อย ติดตั้งระบบความปลอดภัยเพียบ ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยรอบคัน (คนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ด้านหน้าและด้านหลัง ด้านข้างผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง และระหว่างคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ด้านหน้าและด้านหลัง ถุงลมนิรภัยระหว่างคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ผู้โดยสารตอนหลังเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 จังหวะ เข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบผ่อนแรง และดึงกลับอัตโนมัติ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและด้านหลัง ระบบลอกประตูป้องกันเด็กไฟฟ้า กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุด้านหน้า 2 ตำแหน่ง เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุด้านหลัง 4 ตำแหน่ง ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ระบบช่วยป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH) ระบบช่วยเบรกอัจฉริยะ ระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ (ITAC) ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC) ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR) ระบบแจ้งเตือนจำกัดความเร็วอัจฉริยะ (ISLI) ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ISLC) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW) ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP) ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA) ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTB) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA) ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD) ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW) ระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ (DMS) ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)
BYD Sealion 7 เป็นหนึ่งครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี กลุ่ม C-SUV ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้งความสปอร์ทและการใช้งานจริง ด้วยสมรรถนะทรงพลัง เทคโนโลยีล้ำสมัย และดีไซน์ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ดีกว่าเดิม
ส่วนเรื่องราคา BYD Sealion 7 รุ่น Premium มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง อยู่ที่ 1,249,000 บาท รุ่น AWD Performance มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อยู่ที่ 1,399,000 บาท แต่มีราคาเปิดในงาน Motor Expo 2024 ที่ 1,149,900/1,249,900 บาท เมื่อเทียบกับ 1,399,000/1,499,000 บาทของคู่แข่ง Deepal S07/S07 L ส่วนลด 280,000 บาท เหลือ 1,119,000/1,219,000 บาท คู่นี้ อยู่ที่ความชอบ ส่วนกลุ่มที่ใกล้เคียงกันอย่าง Tesla Model Y เริ่มที่ 1,749,000 บาท ,Honda CR-V เริ่มต้น 1,419,000 บาท ,Mazda CX-5 เริ่มต้น 1,219,000 บาท