ทดลองขับ(formula)
โลทัส เอโวรา
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา เราเป็นหนึ่งในกลุ่มสื่อมวลชนที่ได้รับเชิญจาก บริษัท นิชคาร์ จำกัด ให้ไปทดลองขับ โลทัส เอโวรา (LOTUS EVORA) ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11 โดยมี 2 นักแข่งรถมือฉมัง คือ อั๋น สิรคุปต์ เมทะนี และ โอ๊ต กุลชาติ หรูวรรธนะ ทำหน้าที่เป็นวิทยากร และผู้แนะนำขณะทดลองขับ เริ่มด้วยการขับแบบสลาลอม เพื่อวัดประสิทธิภาพการยึดเกาะของตัวรถ จากนั้นจะหักโค้งเพื่อเข้าสู่ทางตรงยาวให้สัมผัสกับอัตราเร่ง และสุดท้ายคือการทดลองความคล่องตัวด้วยการเข้าโค้งยูเทิร์นวงแคบ เป็นอันสิ้นสุดสนามทดลองขับแบบ "หอมปากหอมคอ" ในครั้งนี้เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา เราเป็นหนึ่งในกลุ่มสื่อมวลชนที่ได้รับเชิญจาก บริษัท นิชคาร์ จำกัด ให้ไปทดลองขับ โลทัส เอโวรา (LOTUS EVORA) ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11 โดยมี 2 นักแข่งรถมือฉมัง คือ อั๋น สิรคุปต์ เมทะนี และ โอ๊ต กุลชาติ หรูวรรธนะ ทำหน้าที่เป็นวิทยากร และผู้แนะนำขณะทดลองขับ เริ่มด้วยการขับแบบสลาลอม เพื่อวัดประสิทธิภาพการยึดเกาะของตัวรถ จากนั้นจะหักโค้งเพื่อเข้าสู่ทางตรงยาวให้สัมผัสกับอัตราเร่ง และสุดท้ายคือการทดลองความคล่องตัวด้วยการเข้าโค้งยูเทิร์นวงแคบ เป็นอันสิ้นสุดสนามทดลองขับแบบ "หอมปากหอมคอ" ในครั้งนี้ ภายนอก ล้ำสมัย คงกลิ่นอาย โลทัส ถัดจากจุดรับฟังการบรรยายไม่ไกล มีรถสปอร์ท เอโวรา จอดอยู่เคียงข้างกับเพื่อนร่วมค่ายอย่าง เอลิส (ELISE) ทำให้เห็นว่าการออกแบบของ เอโวรา แสดงเอกลักษณ์ของ โลทัส อย่างชัดเจน รูปทรงโค้งของตัวถังด้านหน้า กรอบไฟหน้าทรงเรียวฝังตัวอย่างแนบเนียน เสริมความดุดันด้วยช่องอากาศขนาดใหญ่บริเวณฝากระโปรงหน้า เส้นสายคมเข้มด้านข้างตัดกับแนวหลังคาที่ลาดเทให้ความรู้สึกที่ปราดเปรียว บริเวณด้านท้ายออกแบบได้อย่างเหนือชั้น สันเหลี่ยมบริเวณโป่งล้อต่อเนื่องกับแนวสปอยเลอร์หลัง เว้าช่องระบายอากาศจากห้องเครื่อง ท่อไอเสียคู่ติดตั้งตรงกลาง เพื่อให้ช่องจัดเรียงอากาศ (DIFFUSER) ติดตั้งด้านซ้าย/ขวาอย่างเหมาะสม เรียกได้ว่ายั่วกิเลสกันตั้งแต่ยังไม่ทันได้นั่งขับกันเลยทีเดียว ภายใน อารมณ์เร้าใจ แม้จะแคบไปบ้าง เมื่อเข้ามานั่งเราพบว่าตำแหน่งของผู้ขับอยู่ในระดับต่ำ เบาะโอบสรีระอย่างพอดิบพอดี งานหนังตัดเย็บประณีตโดยเลือกใช้สีแดงสดย้ำเตือนสมรรถนะอัน "เผ็ดร้อน" ที่ซุกซ่อนอยู่ในขุมกำลังด้านหลัง อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นรถสปอร์ทเต็มตัว แต่ยังคงประนีประนอมกับความสะดวกสบายเล็กน้อย เช่น ระบบเครื่องเสียงแบบจอสัมผัส เป็นต้น ผู้ขับอาจจะต้องทำใจกับความคับแคบของพื้นที่ภายใน เราพบว่าซุ้มล้อจะกินพื้นที่บริเวณเท้าขวาของผู้ขับไปพอสมควร ตำแหน่งการวางเท้าจึงต้องขยับเข้ามาด้านใน แต่ใครจะมองในแง่ดีว่าสะดวกเวลาโชว์ฝีเท้าเพื่อทำ "HEEL AND TOE" ก็ไม่ว่ากัน และน่าแปลกใจที่รถสปอร์ทคันนี้ระบุว่าเป็นแบบ 2+2 ที่นั่ง ทั้งๆ ที่เครื่องวางกลางลำ แม้ที่นั่งดังกล่าวจะแคบเอามากๆ อย่างน้อยรถคันนี้ก็สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง โพร์เช เคย์แมน ได้พอสมควร เครื่องยนต์ แรงได้ใจ พละกำลังเหลือเฟือ ขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.5 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน (VVTI) ที่อาจจะหยิบยืมจาก โตโยตา ก็จริง แต่หน่วยประมวลผลการทำงานก็ใช้ของ โลทัส โดยเฉพาะ ดังนั้นมั่นใจได้ถึงการตอบสนองที่ฉับไวตามแบบฉบับรถสปอร์ทพันธุ์แท้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที แม้สนามทดลองขับจะเปิดโอกาสให้เราสับถึง ได้แค่เกียร์ 3 แต่ก็มากพอให้เราจะรับรู้ถึงพละกำลัง 280 แรงม้า ซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว น้ำหนักคลัทช์ที่ค่อนข้างแข็ง ผนวกกับเกียร์อัตราทดชิดให้อารมณ์ที่ดิบห้าวไม่ใช่เล่น เราซึ่งเป็นผู้ทดลองขับยังอดจินตนาการไม่ได้ว่า หากมีพื้นที่มากกว่านี้จนอัดได้ถึงเกียร์ 6 ไปสุดที่ความเร็ว 261 กม./ชม. ความสนุกสะใจจะมากมายขนาดไหนกัน ระบบรองรับ ขับสนุก ควบคุมแม่นยำ ความยอดเยี่ยมอีกประการของรถสปอร์ทคันนี้ มาจากช่วงล่างที่หนึบแน่น แต่ก็ไม่ถึงกับกระด้าง ขณะเข้าโค้งในสนามทดลอง สามารถทำความเร็วได้มากกว่าที่คิด แม้ขณะนั้นระบบควบคุมการลื่นไถล (TRACTION CONTROL) จะถูกปิดการทำงาน แต่ตัวรถก็ยังเอาอยู่ พวงมาลัยที่ตอบสนองอย่างแม่นยำ ทำให้การควบคุมทิศทางทำได้ไม่ยากเย็น ใครที่ชื่นชอบความสนุกสนานกับอาการ "ท้ายออก" (OVERSTEER) คงไม่ผิดหวัง ขอแค่ใจถึง และ "กล้าเล่น" เท่านั้น สรุป สปอร์ทสะใจ เจือความหรูสมฐานะ เราเชื่อว่า เอโวรา จะเป็นก้าวสำคัญของ โลทัส ในการนำเสนอรถสปอร์ทที่เปี่ยมสมรรถนะ ไม่แพ้เพื่อนร่วมค่ายอย่าง เอลิส แต่เหนือชั้นกว่าด้วยรูปทรงที่ดูโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย ภายในตกแต่งผสานความหรู และความรู้สึกแบบรถสปอร์ทที่ดิบห้าวได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ คือ ความเร้าใจจากขุมกำลังที่ยั่วยวนให้ผู้ขับทะยานไปกับอัตราเร่งในแต่ละเกียร์สำหรับทางตรง การเข้าโค้งอันหนึบแน่นจากประสิทธิภาพของช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม และการควบคุมที่แม่นยำดังใจคิด ด้วยราคา 8,900,000 บาท ของรถสปอร์ทที่ใกล้เคียงกับคำว่า "ซูเพอร์คาร์ในอุดมคติ" คุ้มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับใจของคุณเอง ข้อมูลจำเพาะ โลทัส เอโวรา ผู้แทนจำหน่าย บริษัท นิชคาร์ จำกัด โทร. 0-2379-4422 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,342/1,848/1,223 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,567/1,575 ฐานล้อ (มม.) 2,575 น้ำหนัก (กก.) 1,382 ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 60 เครื่องยนต์ แบบ เบนซิน วี 6 DOHC VVTI ความจุ (ซีซี) 3,456 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 94/83 อัตราส่วนกำลังอัด 10:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 276/6,400 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 35.7/4,700 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) ธรรมดา 6 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 ล้อหลัง ระบบรองรับ หน้า ปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง ปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ เพาเวอร์ผ่อนแรง ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส พร้อมระบบป้องกันการลื่นไถล หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน มีช่องระบายความร้อน ราคา (บาท) 8,900,000
ภายนอก ล้ำสมัย คงกลิ่นอาย โลทัส
ถัดจากจุดรับฟังการบรรยายไม่ไกล มีรถสปอร์ท เอโวรา จอดอยู่เคียงข้างกับเพื่อนร่วมค่ายอย่าง เอลิส (ELISE) ทำให้เห็นว่าการออกแบบของ เอโวรา แสดงเอกลักษณ์ของ โลทัส อย่างชัดเจน รูปทรงโค้งของตัวถังด้านหน้า กรอบไฟหน้าทรงเรียวฝังตัวอย่างแนบเนียน เสริมความดุดันด้วยช่องอากาศขนาดใหญ่บริเวณฝากระโปรงหน้า
เส้นสายคมเข้มด้านข้างตัดกับแนวหลังคาที่ลาดเทให้ความรู้สึกที่ปราดเปรียว บริเวณด้านท้ายออกแบบได้อย่างเหนือชั้น สันเหลี่ยมบริเวณโป่งล้อต่อเนื่องกับแนวสปอยเลอร์หลัง เว้าช่องระบายอากาศจากห้องเครื่อง ท่อไอเสียคู่ติดตั้งตรงกลาง เพื่อให้ช่องจัดเรียงอากาศ (DIFFUSER) ติดตั้งด้านซ้าย/ขวาอย่างเหมาะสม เรียกได้ว่ายั่วกิเลสกันตั้งแต่ยังไม่ทันได้นั่งขับกันเลยทีเดียว
ภายใน อารมณ์เร้าใจ แม้จะแคบไปบ้าง
เมื่อเข้ามานั่งเราพบว่าตำแหน่งของผู้ขับอยู่ในระดับต่ำ เบาะโอบสรีระอย่างพอดิบพอดี งานหนังตัดเย็บประณีตโดยเลือกใช้สีแดงสดย้ำเตือนสมรรถนะอัน "เผ็ดร้อน" ที่ซุกซ่อนอยู่ในขุมกำลังด้านหลัง อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นรถสปอร์ทเต็มตัว แต่ยังคงประนีประนอมกับความสะดวกสบายเล็กน้อย เช่น ระบบเครื่องเสียงแบบจอสัมผัส เป็นต้น
ผู้ขับอาจจะต้องทำใจกับความคับแคบของพื้นที่ภายใน เราพบว่าซุ้มล้อจะกินพื้นที่บริเวณเท้าขวาของผู้ขับไปพอสมควร ตำแหน่งการวางเท้าจึงต้องขยับเข้ามาด้านใน แต่ใครจะมองในแง่ดีว่าสะดวกเวลาโชว์ฝีเท้าเพื่อทำ "HEEL AND TOE" ก็ไม่ว่ากัน และน่าแปลกใจที่รถสปอร์ทคันนี้ระบุว่าเป็นแบบ 2+2 ที่นั่ง ทั้งๆ ที่เครื่องวางกลางลำ แม้ที่นั่งดังกล่าวจะแคบเอามากๆ อย่างน้อยรถคันนี้ก็สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง โพร์เช เคย์แมน ได้พอสมควร
เครื่องยนต์ แรงได้ใจ พละกำลังเหลือเฟือ
ขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.5 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน (VVTI) ที่อาจจะหยิบยืมจาก โตโยตา ก็จริง แต่หน่วยประมวลผลการทำงานก็ใช้ของ โลทัส โดยเฉพาะ ดังนั้นมั่นใจได้ถึงการตอบสนองที่ฉับไวตามแบบฉบับรถสปอร์ทพันธุ์แท้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที
แม้สนามทดลองขับจะเปิดโอกาสให้เราสับถึง ได้แค่เกียร์ 3 แต่ก็มากพอให้เราจะรับรู้ถึงพละกำลัง 280 แรงม้า ซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว น้ำหนักคลัทช์ที่ค่อนข้างแข็ง ผนวกกับเกียร์อัตราทดชิดให้อารมณ์ที่ดิบห้าวไม่ใช่เล่น เราซึ่งเป็นผู้ทดลองขับยังอดจินตนาการไม่ได้ว่า หากมีพื้นที่มากกว่านี้จนอัดได้ถึงเกียร์ 6 ไปสุดที่ความเร็ว 261 กม./ชม. ความสนุกสะใจจะมากมายขนาดไหนกัน
ระบบรองรับ ขับสนุก ควบคุมแม่นยำ
ความยอดเยี่ยมอีกประการของรถสปอร์ทคันนี้ มาจากช่วงล่างที่หนึบแน่น แต่ก็ไม่ถึงกับกระด้าง ขณะเข้าโค้งในสนามทดลอง สามารถทำความเร็วได้มากกว่าที่คิด แม้ขณะนั้นระบบควบคุมการลื่นไถล (TRACTION CONTROL) จะถูกปิดการทำงาน แต่ตัวรถก็ยังเอาอยู่ พวงมาลัยที่ตอบสนองอย่างแม่นยำ ทำให้การควบคุมทิศทางทำได้ไม่ยากเย็น ใครที่ชื่นชอบความสนุกสนานกับอาการ "ท้ายออก" (OVERSTEER) คงไม่ผิดหวัง ขอแค่ใจถึง และ "กล้าเล่น" เท่านั้น
สรุป สปอร์ทสะใจ เจือความหรูสมฐานะ
เราเชื่อว่า เอโวรา จะเป็นก้าวสำคัญของ โลทัส ในการนำเสนอรถสปอร์ทที่เปี่ยมสมรรถนะ ไม่แพ้เพื่อนร่วมค่ายอย่าง เอลิส แต่เหนือชั้นกว่าด้วยรูปทรงที่ดูโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย ภายในตกแต่งผสานความหรู และความรู้สึกแบบรถสปอร์ทที่ดิบห้าวได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ คือ ความเร้าใจจากขุมกำลังที่ยั่วยวนให้ผู้ขับทะยานไปกับอัตราเร่งในแต่ละเกียร์สำหรับทางตรง การเข้าโค้งอันหนึบแน่นจากประสิทธิภาพของช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม และการควบคุมที่แม่นยำดังใจคิด ด้วยราคา 8,900,000 บาท ของรถสปอร์ทที่ใกล้เคียงกับคำว่า "ซูเพอร์คาร์ในอุดมคติ" คุ้มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับใจของคุณเอง