ในวาระที่ Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เดินทางไปเยี่ยมเยียนเมือง Ahmedabad, Gujarat และพบปะกับ Narendra Modi นายกรัฐมนตรีประเทศอินเดีย โดยญี่ปุ่นประกาศเพิ่มการลงทุนและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเพิ่มขึ้นช่วงระหว่างปี 2559 - 2560 ประเทศญี่ปุ่นมีการลงทุนในประเทศอินเดีย มูลค่า 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ราว 164.5 พันล้านบาท เพิ่มจากช่วงเวลาเดียวกัน 80 % ทำให้ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นผู้ลงทุนมากเป็นอันดับ 3 ในอินเดีย และผลจากการพบปะระดับประเทศในครั้งนี้ Suzuki Motor Corporation ถือหุ้น 56.21 % อยู่ในผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่สุดของประเทศ Maruti Suzuki ประกาศการขยายกำลังการผลิตในโรงงานที่เมือง Hansalpur รวมทั้งวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อการผลิตแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน เป็นแห่งแรกของประเทศอินเดีย การขยายกำลังการผลิตครั้งนี้ โรงงาน Hansalpur ต้องใช้เงินลงทุนราว 13,400 พันล้านรูปี หรือราว 6,930 พันล้านบาท หลังจากที่ได้ลงทุนเพิ่มเติมไปแล้ว 9,600 พันล้านรูปี ราว 5,000 ล้านบาท เพิ่มสายการผลิตเป็น 2 สายการทำงาน รวมทั้งโรงงานประกอบเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนด้วย โดยโรงงาน Hansalpur แห่งนี้ นับเป็นโรงงานที่ครอบครองโดย Suzuki Motor เป็นแห่งแรกในอินเดีย นายกรัฐมนตรี Narendra Modi และ นายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ได้ร่วมกันวางศิลาฤกษ์ โรงงานผลิตแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน ดังกล่าว โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง Suzuki-Toshiba-Denso เพื่อผลิตแบทเตอรีสำหรับรถไฟฟ้า และรถไฮบริด ในอินเดีย และเพื่อการส่งออกไปทั่วโลก จะสามารถเริ่มสายการผลิตได้ในปี 2563 Suzuki ถือหุ้นในโรงงานแห่งนี้ 50 % Toshiba 40 % และ Denso 10 % โดยทั้งสามบริษัทจะใช้เทคโนโลยีที่ตนเองมีอยู่ร่วมกันพัฒนาในการผลิตแบทเตอรีรุ่นใหม่นี้