มาซดา 2 แรงต่อเนื่อง คว้าแชมพ์ Thailand Super Series 2017

มาซดา 2 ประกาศศักดาความแรงบนสนามแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการใหญ่ระดับประเทศ ผงาดคว้าแชมพ์ Thailand Super Series 2017 เป็นครั้งแรก ด้วยความแรงของเจ้าจิ๋วตัวจี๊ด มาซดา 2 กับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ คลีนดีเซล (SKYACTIV-D) ขนาด 1,500 ซีซี ผนวกกับสไตล์การขับขี่อย่างดุเด็ดเผ็ดมันของสองนักแข่งทั้ง “ไมเคิล ฟรีแมน” ที่ควบรุ่นซีดาน 4 ประตู หมายเลข 55 และ “มานะ พรศิริเชิด” ควบรุ่นแฮทช์แบค 5 ประตู หมายเลข 43 ที่เข้ามาช่วยเสริมความแกร่งให้กับทีม Mazda Innovation Motorsport สามารถพิชิตชัยชนะเหนือคู่แข่งด้วยการคว้าแชมพ์ประจำปี ทั้งประเภทบุคคล และประเภททีม มาครองได้อย่างงดงาม การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบปีนี้ดุเดือดถึงพริกถึงขิงกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ต้องวัดกันถึงสนามสุดท้ายก่อนที่ มาซดา จะคว้าชัยไปครองเป็นครั้งแรก โดยผลการแข่งขันในสนามสุดท้าย คือ เรศที่ 7 และ 8 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จังหวัดบุรีรัมย์ จาก 6 สนามที่ผ่านมา ทีมมาซดา เก็บคะแนนประเภททีมนำมาเป็นอันดับ 1 สนามนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเก็บคะแนนสะสม ในเรศที่ 7 สองนักแข่งสังกัดทีม มาซดา ลงควบ มาซดา 2 ทำผลงานได้ดีทะยานผ่านเส้นชัยทั้งคู่ โดย มานะ สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมพ์มาครองได้สำเร็จ ส่วน ไมเคิล ตามติดเข้ามาเป็นอันดับที่ 4 ต้องลุ้นกันต่อเนื่องในเรศสุดท้าย โดยตั้งเป้าหมายหลักก่อนลงสนาม คือ ต้องคว้าแชมพ์เท่านั้น ทางด้าน มานะ ยังแรงดีไม่มีตก ยึดตำแหน่งโพเดียมได้สำเร็จ จบอันดับ 4 ส่วน ไมเคิล จบอันดับ 6 ถือเป็นการปิดท้ายรายการแข่งได้อย่างสวยสดงดงาม สองนักแข่งแห่งค่าย มาซดา กอดคอกันขึ้นโพเดียมรับถ้วยแชมพ์ประจำปี โดย มานะ พรศิริเชิด คว้าแชมพ์ประเภทบุคคลไปครอง ส่วน ไมเคิล ฟรีแมน ไม่น้อยหน้าครองอันดับ 3 อย่างสวยหรู และในประเภททีม มาซดา ยังกวาดคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในรุ่น Thailand Super Compact คลาสส์ A ฝีมือการกวดของ 2 นักแข่งได้สร้างความฮือฮาไปทั้งวงการมอเตอร์สปอร์ทเมืองไทย ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ดีเอนเอสายพันธุ์สปอร์ทไม่เคยเรือนหายไปจาก มาซดา แต่กลับช่วยสร้างเสริมเติมแต่ง มุ่งพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งดียิ่งขึ้น การคว้าแชมพ์ทั้งประเภทบุคคลและประเภททีมในครั้งนี้นับเป็นการประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ บนสนามทดสอบที่เปี่ยมด้วยความท้าทาย มาซดา 2 ซึ่งเป็นรถรุ่นเล็กที่สุดของ มาซดา ที่มาพร้อมเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 1,500 ซีซี ให้ความแรงได้ดั่งใจสั่ง ทำการลงแข่งขันภายใต้ทีม Mazda Innovation Motorsport มาต่อเนื่อง ซึ่งผลการแข่งขันดีขึ้นเป็นลำดับ โดยในปีนี้รถทั้ง 2 คัน มีความสมบูรณ์มากที่สุดประกอบกับได้นักแข่งฝีมือฉกาจอย่าง มานะ พรศิริเชิด มาร่วมทีม และไมเคิล ฟรีแมน สามารถปรับการขับให้เข้ากับการเซทรถของทีมได้เป็นอย่างดี ถือเป็นความลงตัวของทีมอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ผลงานในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้กับการคว้าแชมพ์มาครองได้เป็นผลสำเร็จและเป็นครั้งแรกของทีม หากกล่าวถึงลีลาของสองนักแข่งในสนามล่าสุดเรศที่ 7 มานะ ออกสตาร์ทในอันดับที่ 2 ในการแข่งขันมีบางจังหวะเสียอันดับในบางรอบ แต่ด้วยฝีมือที่เหนือชั้น การสอดแทรกเข้าไลน์ การหาจังหวะเร่งแซง รวมทั้งการควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำของ มานะ การกดคันเร่งเต็มสองเท้าทำให้กลับขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ก่อนทะยานเข้าสู่เส้นชัยเป็นอันดับ 1 ได้สำเร็จ สะใจบรรดากองเชียร์เฮสนั่นกแรนด์สแตนด์ ส่วน ไมเคิล ออกสตาร์ทในตำแหน่งที่ 4 แม้มีบางจังหวะที่เสียอันดับ แต่ยังสู้ไม่ถอย เร่งแซงกลับสู่อันดับเดิมได้สำเร็จ ก่อนเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 4 ในเรศนี้ ถึงแม้จะมีสายฝนที่โปรยปรายลงมาตลอดการแข่งขันเป็นอุปสรรคหลัก แต่ดูจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับสองนักแข่งจาก มาซดา กลับเพิ่มสีสันความตื่นเต้นให้กับเรศนี้ให้ได้ลุ้นกันตัวโก่งยิ่งขึ้น วันอาทิตย์ก่อนปิดฉาก ต้องลุ้นแชมพ์กันต่อกับเรศสุดท้ายที่ต้องขับเคี่ยวกัน มานะ ออกสตาร์ทในอันดับที่ 5 ซึ่งในเรศนี้ มานะ ถูกให้เพิ่มน้ำหนักตัวรถอีก 45 กิโลกรัม ตามกฎของการแข่งขัน แต่ไม่เป็นปัญหาต่อจิตใจอันแข็งแกร่ง มานะ ยังคงควบ มาซดา 2 คู่ใจ ทะยานสู่เส้นชัยในอันดับที่ 4 ขึ้นโพเดียมได้สำเร็จ ส่วน ไมเคิล ออกสตาร์ทในอันดับที่ 2 ในระหว่างการขับเคี่ยวเกิดเสียหลัก รถหมุน แต่ใจยังสู้ ไปต่อจนจบการแข่งขันในอันดับ 6 สรุปผลการแข่งขัน Thailand Super Series 2017 ประเภท Thailand Super Compact คลาสส์ A

สนาม	ไมเคิล ฟรีแมน (อันดับ)	มานะ พรศิริเชิด (อันดับ)
1	2	3
2	1	2
3	12	1
4	4	1
5	2	4
6	2	7
7	4	1
8	6	4

สำหรับการแข่งขันในปีนี้ แม้จะเป็นปีแรกที่ มานะ เข้ามาร่วมทีมกับ มาซดา แต่ด้วยทักษะและประสบการณ์ความเชี่ยวชาญจึงปรับทูนเข้ากับรถแข่ง มาซดา ได้อย่างรวดเร็ว สามารถพิชิตแชมพ์ประจำปีนี้มาครองได้สำเร็จ ตามติดด้วย ไมเคิล ไม่น้อยหน้าคว้าอันดับ 3 มาได้เช่นกัน ส่งผลให้คะแนนรวมของประเภททีมคว้าอันดับ 1 บ่งบอกถึงการฟอร์มทีมที่เหนียวแน่น และการวางแผนที่ยอดเยี่ยมของทีม การคว้าแชมพ์ในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ มาซดา ในวงการมอเตอร์สปอร์ท ตอกย้ำความเป็นบแรนด์รถยนต์สายพันธุ์สปอร์ทตัวจริง