รถล่าสุด
BYD Seal 5 คู่ปรับ Collora 699,900 บาท ชาร์จไฟได้...ใช้น้ำมันน้อย ไปได้ไกลกว่า

BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid (บีวายดี ซีล 5 ดีเอม-ไอ ซูเพอร์ ไฮบริด) รถเก๋งซีดานขนาดกลาง ที่มาจากการพัฒนา BYD Destroyer 05 (บีวายดี เดสตรอยเออร์ 05) และนำเอาจุดเด่นของ BYD Sealion 6 DM-i อย่างระบบพลัก-อิน ไฮบริด (PHEV) มาใช้
ระบบพลัก-อิน ไฮบริด (PHEV) หรือไฮบริด ที่ชาร์จไฟจากภายนอกได้นี้ BYD ใช้ชื่อว่า DM-i และครั้งนี้เป็น DM-i Super Hybrid
BYD Seal 5 รถเก๋งซีดานขนาดกลาง ออกแบบภายใต้แนวคิด Ocean Aesthetics มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,780/1,837/1,495 มม. ความยาวฐานล้อ 2,718 มม. ใหญ่กว่าไฮบริดรายใหญ่ในประเทศไทยทั้ง
Honda Civic e:HEV (ฮอนดา ซีวิค อี:เอชอีวี) ที่มีขนาดยาว/กว้าง/สูง 4,681/1,842/1,415 มม. ความยาวฐานล้อ 2,734 มม.
Toyota Corolla HEV (โตโยตา โคโรลลา เอชอีวี) ที่มีขนาดยาว/กว้าง/สูง 4,630/1,780/1,455 มม. ความยาวฐานล้อ 2,700 มม.
Aion ES EV (ไอออน อีเอส อีวี) ที่มีขนาดยาว/กว้าง/สูง 4,810/1,880/1,545 มม. ความยาวฐานล้อ 2,750 มม.
BYD Seal 5 DM-i
Honda Civic e:HEV
Toyota Corolla HEV
กระจังหน้าไร้กรอบแบบ Dot Matrix มาพร้อมไฟหน้า Full LED แบบ Starlight
ไฟท้าย Full LED รมดำ รูปทรงเรขาคณิตแบบ Dot Matrix พร้อม LED Light Bar และไฟเลี้ยวแบบ Sequential
ล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/55 R17
ขุมพลังพลัก-อิน ไฮบริด (PHEV) แบบ DM-i หรือ Dual Mode-intelligent ที่เน้นการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ในทุกช่วงความเร็ว ด้วยระบบการทำงาน EHS (Electric Hybrid System) เป็นการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างชุดควบคุมอีเลคทรอนิคส์คู่ และมอเตอร์คู่ ส่งกำลังไปยังระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 300 นิวทันเมตร/30.6 กก.ม.
เครื่องยนต์เบนซิน Xiaoyun 1.5L Atkinson Cycle ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า/72 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 122 นิวทันเมตร/12.4 กก.ม. อัตราส่วนกำลังอัด 15.5:1 และระบบระบายความร้อนแบบแยกส่วน
กำลังรวมสูงสุด 160 กิโลวัตต์/217 แรงม้า แรงบิด 300 นิวทันเมตร/30.6 กก.ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที
BYD แนะนำ BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid โดยมี 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
รุ่น Standard
รุ่น Premium
รุ่น Standard ใช้แบทเตอรีความจุ 13.08 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะการขับขี่ (NEDC) ~ 80 กม.
อุปกรณ์มาตรฐาน
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
ไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED เต็มรูปแบบ
ไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟเลี้ยวด้านหลังแบบต่อเนื่อง
ที่ปัดน้ำฝนเป็นระยะ
กระจกหน้าต่างอัตโนมัติพร้อมระบบป้องกันการหนีบ
แผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว
หน้าจอสัมผัสมัลทิมีเดียอัจฉริยะขนาด 10.1 นิ้ว
ลำโพง 4 ตัว
บลูทูธ/Apple CarPlay® และ Android Auto™/ระบบนำทาง/ผู้ช่วยเสียง/การสตรีมเพลง
พอร์ท USB 2 (FRx2)
เบาะนั่งหุ้มผ้า
เบาะนั่งคนขับปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
การปรับเบาะนั่งผู้โดยสารแบบปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
คีย์การ์ด NFC
อัพเดท OTA
เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ
ช่องระบายอากาศกลางด้านหลัง
กรอง PM2.5
ถุงลมนิรภัย 6 ใบ
กล้องมองหลัง
ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS)
เซนเซอร์ช่วยจอด 4 ตำแหน่ง (RRx4)
ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ (AVH)
ระบบควบคุมการลื่นไถล (TCS)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICC)
ระบบจดจำสัญญาณจราจร (TSR)
ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
ระบบควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
ระบบป้องกันการออกนอกเลน (LDP)
รุ่น Premium มีความจุแบทเตอรี 18.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า (NEDC) 120 กม. และทำให้ขับขี่ระยะทางรวมสูงสุดมากกว่า 1,000 กม.
อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างจากรุ่น Standard
ฟังค์ชัน VtoL 2.2 กิโลวัตต์
อแดพเตอร์จ่ายไฟ VtoL
การชาร์จอัจฉริยะ
กระจกมองข้างแบบพับไฟฟ้า และเก็บอัตโนมัติ
ไฟส่องกระจกมองข้างแบบ LED
เซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน
กระจกหน้า-หลังอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
หน้าจอสัมผัสมัลทิมีเดียอัจฉริยะขนาด 12.8 นิ้ว
8 ลำโพง
ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย
พอร์ต USB 4 (FRx2, RRx2)
เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
ที่วางแขนตรงกลางด้านหลังพร้อมที่วางแก้วคู่
ไฟส่องเท้า
บริการเครือข่ายคลาวด์
กุญแจดิจิทอล BYD
เซนเซอร์ช่วยจอด 6 ตำแหน่ง (FRx2, RRx4)
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360°
ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
การตรวจจับจุดบอด (BSD)
ระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง (RCTA)
ภายในรุ่น Premium
รองรับการชาร์จแบบ AC Type 2 กำลังสูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ ไว้ชาร์จตามห้างฯ ระหว่างชอพพิง หลังจากขับ 120 กม. ด้วยไฟฟ้าจากแบทเตอรี
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ ทั้ง 2 รุ่น
นอกจากนี้ BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid ทั้ง 2 รุ่น ยังใช้แบทเตอรีเล็ก 12 V แบบ LFP Battery ที่รับประกันอายุการใช้งาน 6 ปี หรือ 150,000 กม. อีกด้วย
ส่วนของสีตัวรถ
ขาว Arctic White
ดำ Cosmos Black
รุ่น Standard มีให้เลือก 2 สี ขาว และดำ
รุ่น Premium มีให้เลือก 3 สี ขาว ดำ และเทา
ราคา
รุ่น Standard รอปลายปี
รุ่น Premium 769,900 บาท ราคาช่วงแนะนำอยู่ที่ 699,900 บาท ถึง 30 กันยายนนี้