ธุรกิจ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่งฯ สานต่อ CSR มอบอุปกรณ์การศึกษาให้เด็กด้อยโอกาส

นภาพร นามไทเสรี กรรมการบริหารฝ่ายสินเชื่อและบริหารสินเชื่อ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย)ฯ มีแนวทางการดำเนินงานที่มุ่งเน้น และให้ความสำคัญในด้านทรัพยากรบุคคล เพราะเราเชื่อมั่นว่าบุคลากรที่มีศักยภาพจะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้องค์กร ประสบความสำเร็จ และการที่บุคลากรจะมีคุณภาพได้นั้น "การศึกษา" จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการปูรากฐานที่ดีให้กับเยาวชนเพื่อเติบโตเป็นบุคลากรที่ดีและมีคุณค่าต่อสังคมไทย ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทฯ จึงได้ริเริ่มโครงการเพื่อสังคมในชื่อ "Day of Caring–สร้างโอกาสแห่งการให้" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนด้านการศึกษาของเด็กและเยาวชน ที่ด้อยโอกาสในประเทศไทย ผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ อาทิ การมอบสิ่งของเครื่องใช้ อุปกรณ์เพื่อการศึกษา การปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว เป็นต้น รวมเวลากว่า 10 ปีแล้ว”
"สำหรับในปีนี้ เรายังคงสานต่อโครงการ "Day of Caring–สร้างโอกาสแห่งการให้" ด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบ one-day trip นำตัวแทนพนักงานของบริษัทฯ และคณะสื่อมวลชน ร่วมส่งมอบหนังสือ "บันทึกตามรอย 99 คำพ่อสอน" ที่ประกอบด้วยพระบรมสาทิสลักษณ์ และพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 30 เล่ม พร้อมด้วยผ้าห่มจำนวน 300 ผืน และคอมพิวเตอร์จำนวน 30 เครื่องให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่กองกำกับ 14 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวนทั้งสิ้น 11 โรงเรียน"
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังจัดกิจกรรมเชิงเอดดูเทนเมนท์ที่นำหลักคำสอนของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาสอดแทรกในแต่ละกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ได้ทั้งความรู้ และความสนุกสนานในเวลาเดียวกัน ได้แก่ กิจกรรมวาดภาพในหัวข้อ "หลักคำสอนของพ่อหลวง" โดยมี อาจารย์ชลิต นาคพะวัน ศิลปินชื่อดัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนศิลปะเด็กให้เกียรติมาเป็นครูผู้สอน และเกมให้เด็กนักเรียนได้ร่วมสนุกอีก 3 เกม คือ เกมปราบอธรรม ที่สอนให้รู้จักการใช้ธรรมชาติแก้ไขปัญหาทางธรรมชาติ, เกมชักเย่อ ที่สอนให้รู้รักสามัคคีกันในหมู่คณะมีความร่วมแรงร่วมใจกัน และรู้จักการวางกลยุทธ์ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสุดท้าย คือ เกมรวมเหรียญ ที่สอนเรื่องการกินอยู่อย่างพอเพียง ความซื่อสัตย์สุจริต และความพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่
พันตำรวจตรีคำนึง สงสม ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอู กล่าวว่า “โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเป็นโรงเรียนภายใต้การดูแลของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนที่มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อสอนภาษาและวัฒนธรรมไทยให้แก่เด็กชาวเขาที่มีฐานะยากจน อาศัยอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารที่สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่สามารถเข้าไปจัดการศึกษาได้ เพื่อให้เด็กเหล่านี้สามารถติดต่อสื่อสารกับคนทั่วไปและประกอบอาชีพได้สะดวกขึ้น ตลอดจนการนำความรู้และทักษะชีวิตที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข”
พันตำรวจตรีคำนึง กล่าวต่อว่า “โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอูเป็นโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการพระราชดำริหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ หมู่ที่ 3 เขตอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นปฐมวัย ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนส่วนใหญ่เป็นไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงและกะหร่าง จำนวน 200 คน แบ่งเป็นชาย 103 คน และหญิง 97 คน ผู้ปกครองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง ฐานะยากจน มีครูตำรวจตระเวนชายแดนจำนวน 7 นาย ผู้ดูแลเด็ก 2 คน และครูสอนคอมพิวเตอร์ 1 คนที่ทำหน้าที่ดูแลเด็กทั้งหมด โดยการเรียนการสอนจะเป็นไปตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ และมีการสอนให้นักเรียนดำเนินงานตามโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทั้ง 8 โครงการ อาทิ โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โครงการฝึกอาชีพ และโครงการส่งเสริมสหกรณ์ เป็นต้น”
“นอกเหนือจากการเรียนหนังสือแล้ว นักเรียนทุกคนจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมของโรงเรียน ทุกด้าน และยังมีการเรียนรู้ทักษะชีวิตเช่น การปลูกพืชผัก การปลูกต้นไม้ การเลี้ยงปลา เป็ดเทศ ไก่พื้นเมือง ไก่พันธุ์ไข่ และหมู รวมถึงการเพาะเห็ดนางฟ้า และการเพาะถั่วงอก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการในพระราชดำริ ทั้งนี้ในแต่ละวันจะมีผู้ปกครองผลัดเปลี่ยนกันมาช่วยเหลือคุณครูประกอบอาหารกลางวันให้นักเรียนรับประทานโดยใช้วัตถุดิบจากโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันที่มีอยู่ในขณะนั้น ที่มีทั้งผักสวนครัว เนื้อสัตว์ และไข่ไก่และเน้นให้นักเรียนทุกคนรับประทานไข่ไก่ทุกวัน เนื่องจากเด็กนักเรียนส่วนใหญ่มีน้ำหนัก ที่ต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งสิ่งที่ทางโรงเรียนยังขาดแคลนอยู่ในตอนนี้นอกจากจำนวนไก่ไข่ที่มี ไม่เพียงพอสำหรับการบริโภคไข่ของเด็กทุกคนแล้ว ก็ยังมีวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันพืช และเครื่องปรุงรสต่างๆ รวมถึงอินเตอร์เน็ตเพื่อการศึกษาที่ตอนนี้สัญญาณเข้ามาถึงบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ”
“ในนามของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ผมขอขอบพระคุณบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นอย่างสูงสำหรับความกรุณาในครั้งนี้ ที่ได้ให้การสนับสนุนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น รวมถึงการจัดกิจกรรมดีๆ และเกมสนุกๆ ให้คณะครูและเด็กนักเรียนได้มีความสุขร่วมกัน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความอนุเคราะห์จากท่านในโอกาสต่อไปในอนาคตครับ” พันตำรวจตรีคำนึง กล่าวปิดท้าย 

