ข่าวรอบโลก
Toyota Sora รถประจำทางปี 2020

ต้นแบบ Sora
Toyota พัฒนารถต้นแบบ Sora จากวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้าง “สัญลักษณ์เมืองที่ยั่งยืน” จากความคิดหลัก 2 ประการ คือ การใช้ลักษณะเฉพาะของเครื่องยนต์เซลล์เชื้อเพลิงให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารที่ใช้รถประจำทาง
การออกแบบ เน้นการดีไซจ์นแบบ 3 มิติ ที่แตกต่างจากทรงหกเหลี่ยม (ทรงกล่อง) แบบรถประจำทางทั่วไป ไฟหน้าและไฟท้ายใช้หลอดไฟ LED ด้วยดีไซจ์นเฉพาะตัวนี้ ผู้ใช้บริการทราบได้ทันทีว่านี่คือ รถประจำทางพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง FC Bus
มิติ ยาว 10,525 มม. กว้าง 2,490 มม. และสูง 3,340 มม จุคนได้ถึง 79 คน (นั่ง 22+ยืน 56+คนขับ 1) เซลล์เชื้อเพลิง FC stack ชนิด Solid Polymer Electrolyte กระแสไฟฟ้าสูงสุด 155 แรงม้า 2 ชุด มอเตอร์ชนิด AC synchronous กำลังสูงสุด 154 แรงม้า 2 ชุด แรงบิด 34.2 กก.-ม. ทั้ง 2 ชุด ไฮโดรเจนความดันสูง (High-pressure hydrogen tank) 10 ถัง รวม 600 ลิตร แบทเตอรีขับเคลื่อนชนิด Nickel-metal hydride
แนวคิดที่จะสร้างรถสำหรับให้บริการ เพื่อทุกคนในชุมชน
Toyota มีเป้าหมายผลิตรถประจำทางที่มีประโยชน์ต่อโลกและผู้คน มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถทำประโยชน์ให้กับชุมชนได้มากกว่าบริการเพื่อการเดินทาง
ระบบพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง โตโยตา (Toyota Fuel Cell System-TFCS) ซึ่งใช้ในรถพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง “มิไร” ถูกนำมาใช้ในรถรุ่นนี้ เพื่อประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมระดับสูง กล่าวคือ ในขณะที่รถวิ่งจะไม่มีการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ หรือสารที่มีผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ (Substance of Concern-SoC)
Sora ติดตั้งสุดยอดระบบจ่ายพลังงานภายนอกที่สามารถจ่ายไฟฟ้ากำลังการผลิตสูง (ผลิตไฟฟ้าสูงสุด 9 kw และจ่ายกระแสไฟฟ้า 235 kWh2) ทั้งยังสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานฉุกเฉินได้ในกรณีเกิดภัยพิบัติ
แนวคิดที่ออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่ม และฟังค์ชันที่เน้นคนเป็นศูนย์กลาง
เนื่องจากรถประจำทางรุ่นนี้ พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับผู้โดยสารจำนวนมากได้ในทุกสถานการณ์ Toyota ได้ใส่ใจด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและอุ่นใจ เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนได้รับประสบการณ์การเดินทางที่น่าพอใจ และรู้สึกต้องการใช้บริการรถประจำทางอยู่เสมอ
ที่นั่งแนวนอนพร้อมกลไกพับเก็บอัตโนมัติช่วยเพิ่มความสะดวก (ครั้งแรกในญี่ปุ่น)
รถประจำทางติดตั้งที่นั่งแนวนอนพร้อมกลไกพับเก็บอัตโนมัติ เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับรถเข็นเด็กหรือรถวีลแชร์ และเมื่อไม่มีรถเข็นเด็กหรือรถวีลแชร์ ก็จะเป็นการเพิ่มจำนวนที่นั่งให้กับผู้โดยสาร
ที่นั่งแนวนอนพร้อมกลไกพับเก็บอัตโนมัติ
เพิ่มความปลอดภัยด้วยฟังค์ชันตรวจสอบรอบรถ (Bus Peripheral Monitoring) (ครั้งแรกในญี่ปุ่น)
กล้องวงจรปิดความละเอียดสูง 8 ตัว ติดตั้งทั้งด้านในและด้านนอกรถ ทำหน้าที่ตรวจจับภาพคนเดินเท้าและจักรยานรอบรถ เป็นฟังค์ชันตรวจสอบรอบนอกที่ช่วยเตือนคนขับด้วยเสียงและภาพ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
เพิ่มความปลอดภัยด้วยฟังค์ชันควบคุมการเร่ง (Acceleration Control Function) (ครั้งแรกในญี่ปุ่น)
เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่ยืนอยู่ ฟังค์ชันควบคุมการเร่งจะทำให้ไม่เกิดการเร่งรถด้วยความเร็วฉับพลัน และทำให้ออกรถได้อย่างนุ่มนวล รวมทั้ง ผู้โดยสารจะไม่เกิดอาการเซเนื่องจากรถไม่มีการเปลี่ยนเกียร์
เพิ่มความง่ายในการขึ้น-ลงรถด้วยระบบควบคุมการจอดอัตโนมัติ (Automatic Arrival Control) (ครั้งแรกในญี่ปุ่น)
ระบบควบคุมการจอดอัตโนมัติจะจับเส้นนำทางบนพื้นถนน และใช้ระบบควบคุมและชะลอความเร็วอัตโนมัติ เพื่อหยุดรถประจำทางให้อยู่ห่างจากป้ายรถประจำทางประมาณ 3-6 ซม. และภายในระยะ 10 ซม. ก่อนหรือหลังจุดหยุดรถ ช่วยอำนวยความสะดวกในการขึ้น-ลงของผู้โดยสารที่มีรถเข็นเด็ก และรถวีลแชร์
เพิ่มความสะดวกสบายด้วย ITS Connect
เพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทาง ความเร็ว ความแม่นยำ และความสะดวกสบาย ด้วยระบบ ITS Connect ที่เชื่อมการสื่อสารระหว่างรถกับรถ (vehicle-to-vehicle) และรถกับโครงสร้างพื้นฐาน (vehicle-to-infrastructure) เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย พร้อมสนับสนุนรถประจำทางให้สามารถวิ่งเป็นขบวนและช่วยให้ได้สิทธิ์ก่อนเมื่ออยู่ที่สัญญาณไฟจราจร (PTPS5)


