Changan Auto ประกาศที่กรุงเซี่ยงไฮ้ พร้อมจะหยุดการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ภายในปี 2568 ตามความต้องการของรัฐบาลปักกิ่ง ที่ต้องการสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อม ที่ไอเสียของรถยนต์เป็นต้นเหตุหนึ่งของการเกิดเมฆหมอกปกคลุมเมืองใหญ่ๆ แต่กับค่าย Changan แล้ว ค่ายรถยนต์ของรัฐบาลแห่งนี้ ก็มีเหตุผลสนับสนุนในการประกาศครั้งนี้พอควร เหตุก็เพราะค่าย Changan ไม่สามารถทำกำไรจากการแข่งขันในตลาดรถยนต์ที่สูงมากได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปผลิตรถไฟฟ้า ก็ไม่น่าจะแตกต่างอะไรมากนัก แต่อาจได้รับการสนับสนุนเป็นตัวเงินจากภาครัฐอีกด้วย เช่นเดียวกับค่ายรถยนต์ที่เป็นของรัฐบาลอื่นๆ ก็เช่นกัน ที่จะเตรียมแผนงานยกเลิกสายการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันตามไปด้วย ค่ายรถยนต์ของรัฐบาล ที่สามารถทำกำไรจากการผลิตในยี่ห้อของตนเอง มีเพียงค่าย SAIC และ Guangzhou Automobile ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจกับ ครอสโอเวอร์ เอสยูวี ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ค่าย Changan ทำส่วนแบ่งตลาดด้วยการเพิ่มรถรุ่นที่ไม่มีราคาแพงมากนัก และส่วนแบ่งของรถมินิบัส ราคาถูก แต่ไม่มีการปรับปรุงคุณภาพและเทคโนโลยีให้เข้ากับยุคสมัย ความนิยมเลยค่อยๆ เสื่อมลง แต่เมื่อรัฐบาลประกาศเพิ่มอัตราภาษีซื้อของรถยนต์ขนาดเล็กเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ค่าย Changan ถึงกับซวนเซ โดยในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ ยอดการขายลดลงไป 8% ขายได้น้อยกว่า 900,000 คัน โดยค่ายอดีตยอดขายผู้ผลิตยี่ห้อในประเทศอันดับหนึ่ง ถูกแซงไปโดยคู่แข่งที่เป็นเอกชน Geely Auto เช่นเดียวกับค่ายรถยนต์ของรัฐบาลเจ้าอื่นๆ ที่ยอดขายตกลงอย่างฮวบฮาบ เพราะเทคโนโลยีล้าสมัย และไม่มีการปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นซึ่งก็มี FAW, Dongfeng Motor และ BAIC Motor รวมทั้งค่ายเล็กๆ อย่าง Jianghuai Automobile Co. และ Brilliance China Automotive ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็ประสบปัญหาด้านการขายรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงเช่นกัน เลยหันมาทำการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพิ่มขึ้น เพียง 6 เดือนแรกของปีนี้ Beijing Auto ขายรถยนต์ในยี่ห้อของตนเอง ลดลงถึง 44% เพียง 105,200 คัน ขณะที่สามารถส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ได้ 30,000 คัน ทำให้สามารถกล่าวได้ว่า เป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด รวมทั้งสามารถทำกำไรได้ด้วย เช่นเดียวกับ JAC ยอดขายรถยนต์นั่งตกลง 32% เพียง 19,228 คัน ขณะที่รถไฟฟ้า เติบโตถึง 81% ขาย 3,021 คัน ซึ่งทั้งสองค่ายนี้ ต่างก็ตระหนักดีว่า ยังมีความเสี่ยงมากพอควรในการจำหน่ายรถไฟฟ้า ตราบเท่าที่ยังทำการผลิตรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงอยู่ ในปีนี้นับถึงปัจจุบัน ยอดการจำหน่ายรถไฟฟ้า และไฮบริด-ไฟฟ้า ในประเทศจีน เติบโตถึง 38% ขายกัน 398,000 คัน แต่ก็ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาล ทั้งยกเว้นค่าภาษีป้าย และเงินสนับสนุนอื่นๆ แต่กระนั้นก็ยังไม่มีแรงจูงใจสำหรับผู้บริโภคมากพอ หากการสนับสนุนจากรัฐบาลจะหมดลงในปี 2563 นั่นยังเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตสำหรับผู้ผลิตในประเทศจีน ว่าจะตัดสินใจอย่างไร