ธุรกิจ
Grab ฉลองให้บริการครบ 1 พันล้านเที่ยว

แอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Grab เปิดเผยว่า ได้ให้บริการรับส่งผู้โดยสารครบ 1 พันล้านเที่ยวในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยในวินาทีนั้น มีผู้โดยสารที่เดินทางกับ Grab พร้อมกัน 66 ครั้ง ใน 7 ประเทศที่ Grab ให้บริการทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมาร์ และไทย
สถิติการให้บริการของ Grab เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ อัตราการขยายตัวที่รวดเร็วนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของธุรกิจการขนส่งแบบออนดีมานด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การให้บริการเดินทางหลายรูปแบบของ Grab ที่ผสานกับวิถีชีวิตของผู้ใช้บริการท้องถิ่น และสอดรับกับการใช้เทคโนโลยีระดับโลกเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของคนในประเทศต่างๆ อีกด้วย
“ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจและทีมผู้บริหารของ Grab ที่ได้ขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น และไม่เพียงแต่จะคงความยอดเยี่ยมในการให้บริการไว้ได้เท่านั้น แต่เรายังพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการสร้างสรรค์ธุรกิจ แก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ และยกระดับชีวิตผ่านเทคโนโลยี ผมขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร พันธมิตร และผู้ลงทุนทุกท่าน สำหรับการสนับสนุนที่อบอุ่น รวมถึงทีมงาน Grab ที่รับมือกับการขยายตัวที่รวดเร็วนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม”
“ในขณะที่เราเดินหน้าพร้อมกันสู่การเดินทางเที่ยวที่ 2 พันล้านต่อไปนั้น เราจะยังคงมุ่งมั่นเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางแบบออนดีมานด์ที่ดีที่สุดแก่ทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสารของเรา ในขณะเดียวกัน เรายังเตรียมก้าวไปอีกขั้นกับพแลทฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือ ด้วยการพัฒนา GrabPay ให้ครอบคลุมบริการด้านอื่นนอกเหนือจากการขนส่ง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าถึงเศรษฐกิจแบบดิจิทอลได้อย่างทั่วถึง”
ความสำเร็จของการเดินทาง 1 พันล้านเที่ยวนี้เป็นผลมาจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของฝ่ายวิจัยและพัฒนา รวมถึงศักยภาพเชิงเทคโนโลยีของ Grab ในขณะที่พแลทฟอร์มได้ขยายขนาดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้ประกาศแต่งตั้ง ธีโอ วาซีลาคีส ขึ้นรับตำแหน่งประธานกลุ่มบริหารฝ่ายเทคโนโลยี และเมื่อต้นปีที่ผ่าน ยังได้เพิ่มจำนวนศูนย์วิจัยและพัฒนาจาก 3 แห่ง เป็น 6 แห่ง โดยได้เปิดศูนย์แห่งใหม่ที่บังกาลอร์ ประเทศอินเดีย, โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม และจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
Grab ให้บริการเรียกรถยนต์โดยสารส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถแทกซี และบริการใช้รถร่วมกัน ใน 7 ประเทศ และ 142 เมืองทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยผู้โดยสาร 1 ใน 3 เคยใช้งานมากกว่าหนึ่งบริการ ในปัจจุบัน Grab ครองส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 95 ในการให้บริการเรียกแทกซี และร้อยละ 72 ในบริการเรียกรถยนต์โดยสารส่วนบุคคล โดยมีผู้ขับขี่บนพแลทฟอร์มมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนผู้ขับขี่มากกว่า 2 ล้านคน ซึ่งมีรายได้สูงกว่ารายได้เฉลี่ยในประเทศต่างๆ ถึง 55 % นอกจากนี้ Grab ยังเป็นหนึ่งในแอพพลิเคชันมือถือที่ผู้ใช้นิยมใช้บ่อยที่สุดในภูมิภาคฯ โดยมีจำนวนการให้บริการมากกว่า 3.5 ล้านเที่ยว/วัน และแอพพลิเคชัน Grab ยังได้รับการดาวน์โหลดบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่า 68 ล้านเครื่อง ผลการสำรวจของ ทีเอนเอส บริษัทวิจัยการตลาดระดับโลก เผยว่า Grab คือ บแรนด์เรียกรถโดยสารที่ได้รับความนิยมในการใช้งานมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และไทย เมื่อเทียบกับแอพพลิเคชันเรียกรถ และแอพพลิเคชันจองแทกซีอื่นๆ
บทความแนะนำ