บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย ครั้งที่ 15 หรือ Mercedes-Benz Driving Events 2018 เชิญสื่อมวลชน และลูกค้าเข้าร่วมเสริมทักษะการขับขี่แบบปลอดภัย จากทีมฝึกสอนมืออาชีพประเทศออสเตรเลีย และประเทศไทยพร้อมขนทัพรถหรูรุ่นล่าสุด มาร่วมทดสอบอย่างครบครันในทุกเซกเมนท์ ซึ่งเยอะมากจนผมเองยังตกใจ อาทิ The New CLS 300 d AMG Premium ยนตรกรรมดีไซจ์นสปอร์ท, The E 200 Coupe AMG Dynamic สปอร์ทคูเปสุดเท่, S 500 Cabriolet AMG Premium รถเปิดประทุน 4 ที่นั่งสุดหรู ก็มาร่วมทดสอบครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังได้จัดรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นต่างๆ อีกกว่า 21 คัน มาให้เราฝึก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ในกลุ่ม Compact Car อย่าง CLA 250 AMG Dynamic และ GLA 250 AMG Dynamic กลุ่ม Contemporary Luxury อย่าง C 350 e AMG Dynamic, E 350 e AMG Dynamic และ S 350 d AMG Premium กลุ่ม Dream Car อย่าง C 250 Coupe AMG Dynamic และ E 300 Cabriolet AMG Dynamic และกลุ่ม SUV เช่น GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic และ GLC 250 4MATIC Coupe AMG Plus รวมถึงกลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูงจากบแรนด์ Mercedes-AMG อาทิ Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG A 45 4MATIC และ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC ซึ่งขอบอกว่ากลุ่มนี้แรงมาก ! นอกจากการฝึกทักษะความปลอดภัยแล้ว เรายังได้สัมผัสกับสมรรถนะอันเร้าใจของ Mercedes-Benz รุ่นต่างๆ อีกด้วย กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น ณ สนามพีระ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท พัทยา ตั้งแต่วันที่ 2-8 กรกฎาคม 2561 โดยในช่วงเช้า เป็นการบรรยายถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ถูกติดตั้งในรถ Mercedes-Benz รุ่นล่าสุด หลังจากนั้นเป็นช่วงที่เรารอคอย นั่นคือภาคปฎิบัติ การอบรมแบ่งเป็น 3 สถานี สถานีแรก เราประเดิมด้วยกลุ่มรถสมรรถนะสูงอย่างฝูง Mercedes-AMG ซึ่งนับว่าเป็นสถานีไฮไลท์ที่หลายคนประทับใจ เพราะกระตุ้นต่อมอดรีนาลีนเป็นอย่างมาก เป็นการทดสอบระบบ Race Start ที่ช่วยให้สามารถออกตัวจากจุดหยุดนิ่งได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรง โดยที่ล้อไม่ฟรีทิ้ง ตัวรถจึงพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งระบบนี้จะมีเฉพาะในรุ่น AMG เท่านั้น สถานีที่ 2 เราทดสอบในหมวด การเบรคแบบฉุกเฉิน (Emergency Braking) โดยจะตีธงให้ออกตัวพร้อมกัน เสมือนว่าขับรถแข่งกันแต่ความสนุกอยู่ที่ใครจะหยุดในช่องที่จัดเตรียมไว้ได้แม่นกว่ากัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการกะระยะเบรคของแต่ละคนซึ่งสร้างความสนุกได้ไม่น้อย จากนั้นจึงสลับมาทดสอบในหมวด เปลี่ยนช่องทางวิ่งแบบกะทันหัน (Land Change) โดยจะให้วิ่งเข้าไปในช่องที่กำหนด โดยที่มีกรวยขวางอยู่ตรงกลาง ความสนุกอยู่ที่ต้องคอยสังเกตว่าไฟสีเขียวขึ้นฝั่งไหน แล้วจึงค่อยหักเลี้ยวไปทางนั้น ซึ่งสื่อมวลชนกลุ่มนี้ไหวพริบดีมาก ไม่พลาดเลยแม้แต่คนเดียว สถานีสุดท้าย เป็นการขับแบบสลาลอม (Slalom) ขึ้นและลงเขาความเร็วสูง โดยมีกรวยยางตั้งเป็นระยะๆ เป็นการฝึกการควบคุมอาการดื้อโค้ง (Under Steering) และอาการหลุดโค้ง (Over Steering) และปิดท้ายด้วยการขับแบบ Hot lap ในสนามพีระ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท โดยให้ขับคนละ 2 รอบสนาม และสลับรถไปเรื่อยๆ ในทุกเซกเมนท์ ทำให้ได้ทดสอบสมรรถนะรถยนต์อย่างเต็มที่ เป็นการจบการอบรมอย่างสนุกสุดมัน ได้ทั้งความรู้ และทักษะการควบคุมรถจากประสบการณ์จริง ที่จะติดตัวเราไปอีกนาน