ตรวจแถวบรรดารุ่นย่อยของ GLC ทั้งจาก Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG กับราคา และขุมพลังที่แตกต่างกันตามรสนิยมของกลุ่มลูกค้าhttps://youtu.be/PauI4oJejHE เปิดตัวไปหมาดๆ กับรุ่นประกอบในประเทศ และจัดเป็นตัวทอพของสายพันธุ์ GLC ในบ้านเรา ครอสส์โอเวอร์ผสมมาดสปอร์ทคูเป กับ Mercedes-AMG GLC 43 4Matic Coupe เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 5,500-6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 53.0 กก.-ม. ที่ 2,500-4,500 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. พร้อมระบบรองรับ และระบบเบรคปรับแต่งจากแผนกความแรง AMG โดยตรง ยังคงอยู่กับตัวถังครอสส์โอเวอร์ผสมสปอร์ทคูเป รูปทรงด้านท้ายลาดเท กำลังเป็นทเรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทาง Mercedes-Benz ของบ้านเรา หันมาทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน กับ Mercedes-Benz GLC 250 4Matic Coupe AMG Plus เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 211แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม. ที่ 1,200-4,000 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 222 กม./ชม. ทางเลือกเครื่องยนต์ดีเซลของ Mercedes-Benz GLC Coupe มีตั้งแต่การเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศ เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ในใบราคาของทางผู้ผลิตยังมีระบุย่อยดังกล่าวอยู่ เราจึงนำสเปคมาให้ดูกันอีกครั้ง รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเหลือเพียงรุ่นเดียว นั่นคือ AMG Plus (จากเดิมที่มีรุ่น AMG Dynamic เป็นรุ่นย่อยระดับรองทอพ) เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.1 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,800 รตน. แรงบิดสูงสุด 51.0 กก.-ม. ที่ 1,600-1,800 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 222 กม./ชม. รุ่นย่อยนี้อาจเหลือไม่มากนัก เพราะปัจจุบันเน้นทำตลาดกับ GLC Coupe ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน อาจต้องสอบถามกับทางดีเลอร์ หากมีผู้สนใจตัวถังสปอร์ทคูเปที่ใช้งานกับเครื่องยนต์ดีเซล